ตอนที่ 5 Will you marry me
แคร์
เช้าวันนี้ฉันตื่นขึ้นมาก็ไม่เจอใครแล้ว และวันนี้เป็นวันที่สามซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการเที่ยวทริปนี้ของเราสองคน ตลอดระยะเวลาการเที่ยวที่นี่ฉันกับเขาได้พากันทำกิจกรรมมากมายไม่ว่าจะเป็นการดำน้ำ ลงไปดูความสวยงามใต้ท้องทะเลการล่องเรือในบรรยากาศสุดแสนจะโรแมนติกรวมไปถึงการไปเดินตลาดมีของทะเลสดๆเยอะมากๆ และของฝากอีกมากมายที่จะซื้อไปฝากคนที่ออฟฟิศ แต่ทำไมตื่นมาเช้านี้ฉันกลับไม่เจอเขากันนะ แล้วนี่ก็ยังไม่ได้สายมาก พอฉันตื่นขึ้นมาก็รีบลุกขึ้นแล้วหาชุดคลุมที่วางอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งที่วางพาดไว้เมื่อคืนโดยคนตัวโตที่ถอดของเธอออกไปวางเอาไว้ เสร็จแล้วก็นำมาใส่ไว้หลวมๆแล้วเดินออกมาแล้วนอกห้องอย่างรวดเร็ว ฉันเดินออกมาตรงโซนห้องนั่งเล่นเดินหาเขาจนทั่วก็ยังไม่เจอ เดินไปที่ห้องครัวก็ไม่มีใครอีก
" ชินหายไปไหนของเขานะ ไม่เห็นบอกกันบ้างเลย "
ฉันได้แต่บ่นพึมพำจากนั้นก็เดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อที่จะอาบน้ำแต่งตัวคิดเอาไว้ว่าจะเดินออกไปตามหาเขาข้างนอกสักหน่อย แต่เมื่อเข้ามาในห้องน้ำก็พบกับกระดาษโพสอิทที่แปะเอาไว้ตรงหน้ากระจกบริเวณตรงที่จะแปรงฟันฉันจึงรีบหยิบขึ้นมาอ่าน
" อาบน้ำเสร็จแล้ว ออกมาเจอชินที่ชายหาดหน้าโรงแรมนะครับ ชินจะไปรอที่นั่น "
เมื่ออ่านข้อความเสร็จฉันก็รีบอาบน้ำแล้วออกมาแต่งตัวเพื่อออกไปหาชินทันที เมื่อทำธุระทุกอย่างเสร็จหมดแล้วก็เดินออกไป พอมาถึงหน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ก็พบกับพนักงานสาวที่ยืนรออยู่ก่อนแล้ว
" คุณแคร์ใช่หรือเปล่าคะ? พอดีดิฉันได้รับมอบหมายจากคุณราชันย์ให้มารับตัวเพื่อออกไปยังสถานที่ที่นัดหมายค่ะ "
แคร์ทำหน้าตาสงสัยแค่นัดกันกินข้าวเช้าธรรมดาทำไมจะต้องเล่นใหญ่ขนาดนี้ด้วย
" เอ่อ...ค่ะ ใช่ค่ะ "
" เชิญตามดิฉันมาได้เลยค่ะ "
ราชันย์
ผมที่ตอนนี้กำลังจะเตรียมแผนเซอร์ไพรส์ไว้ให้กับแคร์ โดยมีตัวช่วยคือเหล่าบรรดาเพื่อนๆของผมที่วันนี้มากันครบหมดทุกคน ชื่อโอเชี่ยน ธันวา ไททัล และไอ้บูม ทุกคนบินมาจากประเทศไทยเพื่องานนี้โดยเฉพาะ และทุกคนจัดเตรียมสถานที่กันอย่างขะมักเขม้น ตอนนี้ทุกอย่างก็เตรียมพร้อมแล้วเหลือแค่คนตัวเล็กเดินออกมาเพียงเท่านั้น
โอเชี่ยน : มึงพร้อมไหมวะไอ้ชิน ขนาดกูไม่ได้เป็นคนขอ กูยังอดตื่นเต้นแทนไม่ได้
ผม : กูพร้อมตั้งแต่วันแรกแล้วว่ะ แต่ก็ยังรู้สึกประหม่าแล้วก็ตื่นเต้นนิดหน่อย ก็คนไม่เคยขอสาวแต่งงานนี่หว่า
ไททัล : ฮ่าๆ ก็จริงของมึง กูดีใจกับมึงด้วยนะเว้ยในที่สุดก็มาถึงวันนี้สักที เป็นฝั่งเป็นฝาสักทีนะมึง
ผม : ยังเว้ย! เขายังไม่ได้ตอบตกลงกับกูเลยภารกิจยังไม่สำเร็จเว้ย
บูม : ถ้าเขาไม่ตอบตกลงแต่งงานกับมึง แล้วเขาจะชวนมึงมาเที่ยวและอยู่กับมึงขนาดนี้หรอวะกูว่าเขาต้องดีใจมากแน่ๆที่มึงทำเซอร์ไพรส์เขาในวันนี้
ผม : กูก็หวังไว้แบบนั้น นี่ก็ใกล้จะถึงเวลาแล้วพวกมึงไปซ่อนตัวเถอะ
ผมที่บอกให้เพื่อนๆไปซ่อนตัวแล้วผมก็นั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหารบริเวณริมชายหาดที่แสนจะโรแมนติกนี้ ใช้เวลาไม่นานคนตัวเล็กก็เดินมาถึงพร้อมกับพนักงานสาวคนที่ผมได้บอกเธอไว้ล่วงหน้าแล้วว่าให้พาคนตัวเล็กมาหาผมที่นี่ ผมเดินออกไปรับเธอแล้วจูงมือเธอมายังโต๊ะอาหารด้วยกัน
" ชิน มีอะไรหรือเปล่าทำไมต้องเล่นใหญ่ขนาดนี้ด้วยล่ะ แค่กินข้าวเช้ากันเฉยๆ พาแคร์กินในโรงแรมก็ได้นะคะ "
แคร์ถามออกไปอย่างสงสัย เพราะไม่เข้าใจในการกระทำของเขา
" ก็ผมอยากสร้างบรรยากาศดีดีให้แคร์หนิครับ แคร์จะได้ประทับใจ "
คนตัวเล็กยิ้มออกมาอย่างดีใจ
" งั้นเราเริ่มกินกันเลยไหมคะ แคร์หิวแล้ว "
คนตัวเล็กตัดบทออกไปใช่ว่าเธอจะไม่รู้ว่าบรรยากาศแบบนี้มันคืออะไร มีความเป็นไปได้สูงมากที่เขาจะขอเธอแต่งงานแต่จะเป็นไปได้ยังไงกันในเมื่อเธอในตอนนี้ไม่สามารถทำตามหัวใจของตัวเองได้แล้ว สิ่งที่เธอทำได้คือการทำหน้าที่ของลูกที่ดี เพื่อตอบแทนบุญคุณของคุณพ่อคุณแม่ ภาพที่เธอเห็นตรงหน้าคือชายหนุ่มกำลังยิ้มแย้มอย่างมีความสุข และเธอก็ยิ้มตอบกลับไปในขณะที่ในหัวใจมันแหลกสลายไปหมดแล้ว
" ครับ แต่ก่อนที่เราจะเริ่มกินข้าวกัน ชินมีเรื่องจะสารภาพกับแคร์ก่อน "
คนตัวโตยื่นมือเข้ามาจับที่สองมือของฉัน จากนั้นก็เริ่มพูดความในใจของเขา
" แคร์ครับ เราก็คบกันมาได้สักพักแล้วนะ และนั่นมันก็นานพอที่เราจะเรียนรู้กันและกันหมดแล้ว ผมอยากดูแลคุณในทุกช่วงเวลาของชีวิต ผมอยากมีคุณในชีวิตตลอดไป แคร์แต่งงานกับผมนะ Will you marry me? "
คนตัวโตๆคุกเข่าลงพร้อมกับนำแหวนออกมาจากกระเป๋ากางเกงที่ได้เตรียมเอาไว้ แล้วเปิดมันออกค้างไว้ในอากาศแบนั้นเพื่อรอเธอ say yes.
แคร์
ฉันฟังตามที่เขาพูดออกมาจนหมดแล้วน้ำตาของฉันก็พานไหลออกมาอย่างเสียไม่ได้ มันคือน้ำตาของความดีใจ ฉันดีใจมากที่เขารักฉันจริงๆแล้วก็จริงจังจนถึงขั้นขอจะแต่งงาน ถ้าไม่มีเรื่องปัญหาครอบครัวฉันคงตกลงแต่งงานกับเขาได้ไม่ยากถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ร่ำรวยอะไรแต่ใครจะสนกันล่ะแค่รักกันก็พอ แต่มันจะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อความเป็นจริงที่กำลังเผชิญอยู่ตอนนี้มันทำให้ฉันทำอะไรตามใจตัวเองไม่ได้เลย
" ชินคะ แคร์ขอโทษ "