ตอนที่ 12 แผนร้ายของราชันย์
คฤหาสน์ศิริธนศร
คนตัวเล็กที่เดินลงมาจากห้องนอนในตอนเช้าเพื่อที่จะลงมารับประทานอาหารเช้าร่วมกับพ่อและแม่ของเธออย่างเช่นทุกวันก่อนที่เธอจะออกไปทำงาน เธอเริ่มทำงานที่บริษัทมาได้สัปดาห์กว่าๆ แล้วซึ่งเธอก็ได้พบกับความผิดปกติหลายๆ อย่าง ไม่แปลกใจเลยที่ทำไมบริษัทถึงกำลังจะลดละลายเพราะผู้คนรอบตัวต่างแย่งชิงเพื่อที่จะเอาผลประโยชน์เข้าตัวกันทั้งนั้น
" อ้าว! ลงมาแล้วเหรอลูกมากินข้าวด้วยกันก่อนสิเดี๋ยวค่อยออกไปทำงาน "
คุณหญิงอุมาเดินไปจูงมือลูกสาวมานั่งลงที่โต๊ะ
" วันนี้นมอุ่นทำข้าวต้มกุ้งให้กินด้วยนะลูก ของโปรดของหนูเลยทานเยอะๆ นะ "
" ค่ะคุณแม่ "
" แล้วหลังจากวันที่ไปรับตาธามหนูได้คุยกันบ้างไหมลูก พี่เขาได้โทรมาหาหนูบ้างไหม "
คุณหญิงอุมาถามออกไปในทันที
" หลังจากวันนั้นก็ไม่ได้เจอหน้ากันค่ะคุณแม่แต่พี่เขาก็มีส่งข้อความมาหาบ้าง ชวนไปกินข้าวแต่ช่วงนี้แคร์ไม่ว่างเลยค่ะไว้เดี๋ยวรอเคลียร์งานเสร็จก่อนว่าจะนัดกันไปทานข้าวอยู่ค่ะ "
" แม่ได้ยินแบบนี้แม่ก็ชื่นใจแล้ว พี่เขาเป็นยังไงบ้างลูกถูกใจลูกบ้างหรือเปล่า? "
" เอาจริงๆ ไหมคะคุณแม่ แคร์คิดกับพี่ธามแค่พี่น้องเท่านั้นแล้วพี่ธามเขาก็เอ็นดูแคร์เหมือนน้องสาวคนนึงเท่านั้น "
คุณหญิงอุมาได้ฟังก็ไม่ค่อยชอบใจสักเท่าไหร่เนื่องด้วยว่าเธอชอบผู้ชายคนนี้มากอยากได้มาเป็นลูกเขย
" แต่แม่ว่า... "
" เอาเถอะคุณหญิง ปล่อยให้ทุกอย่างมันเป็นไปตามเวลาที่มันควรจะเป็นนั่นแหละ อย่าไปบังคับจิตใจลูกเลย แค่ลูกจะหมั้นให้เราก็ดีเท่าไหร่แล้ว อ้อ! พ่อมีเรื่องที่จะบอกลูกด้วยนะในวันมะรืนนี้จะมีหุ้นส่วนใหญ่คนใหม่เข้ามาบริหารกิจการของเรา เขาช้อนซื้อหุ้นของบริษัทเราไปเกือบ 60% แล้ว แต่เขาก็ยังให้สิทธิ์ของเราในการบริหารอยู่แต่สิทธิ์ขาดการตัดสินใจหลักจะเป็นของเขา "
คนตัวเล็กทำหน้าตาสงสัยเนื่องด้วยว่าเธอยังไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน
" ใครหรอคะคุณพ่อหุ้นส่วนคนใหม่ แล้วถ้าเขาช้อนซื้อหุ้นไปแบบนี้บริษัทเราก็ต้องตกเป็นของเขาใช่ไหมคะ "
" ยังหรอกลูก เขาซื้อหุ้นไปก็จริงแต่เขามีข้อแม้กับพ่อว่าเขาจะให้เราลองบริหารดูก่อนแต่การตัดสินใจให้เป็นของเขา ถ้าหากภายในสองปีนี้ลูกสามารถกอบกู้วิกฤติของบริษัทขึ้นมาได้เขาจะยอมให้เราช้อนซื้อหุ้นกลับไป "
" เขาใจดีถึงขนาดนั้นเลยหรอคะพ่อ เขาเป็นใครกัน "
ยิ่งพูดแบบนี้ยิ่งทำให้ชนิดาสงสัยเข้าไปใหญ่คนไม่รู้จักกันจะมาทำธุรกิจร่วมกันทำไมโดยไม่หวังผลประโยชน์เข้าตัว ทำไมใจดีกับคู่แข่งถึงขนาดนี้ หากเขามาช้อนซื้อหุ้นไปแบบนี้บริษัทก็ต้องเป็นของเขาอยู่แล้ว แต่เขายังให้โอกาสเธอได้พิสูจน์ฝีมืออย่างนั้นหรอ
" ตระกูลมหาทรัพย์ธนัน "
ผู้เป็นบิดาเอ่ยตอบกับลูกสาวไป
" ไม่คุ้นเลยค่ะคุณพ่อหรือว่าแคร์ไปอยู่ที่อื่นจนไม่รับรู้เรื่องราวของที่นี่แล้ว "
" เขาเป็นตระกูลมหาเศรษฐีที่ไม่ค่อยเปิดเผยตัวน่ะลูก บ้านเขามีลูกชายอยู่หนึ่งคนซึ่งคนนี้แหละที่จะเข้ามาทำงานร่วมกับแคร์ "
" แต่แคร์สอนงานเขาไม่ได้หรอกนะคะคุณพ่อ แคร์เองก็เพิ่งเริ่มงาน คุณพ่อส่งเลขาของคุณพ่อไปดูแลเขาแทนแคร์นะคะ "
" ได้ไงกันล่ะลูกสาวคนนี้ ชเราเป็นเจ้าของเราย่อมรู้ดีกว่าใคร เขาจะเข้ามาบริหารเต็มตัวเขาคงไม่ยอมแน่หากคนที่จะสอนงานเขาไม่ใช่คนจากบ้านเราโดยตรง ซึ่งพ่อเองก็แก่แล้วหรือว่าแคร์จะให้พ่อไปเจรจาธุรกิจเองล่ะลูก "
" คุณพ่ออ่ะ...แคร์ทำเองก็ได้ค่ะ "
คนตัวเล็กทำหน้าตาไม่พอใจส่งไปให้กับบิดา
" แล้วอะไรที่ยอมเขาได้ก็ยอมเขาไปเถอะนะลูกในฐานะที่เขาคือเจ้าของบริษัทคนใหม่ พ่อคิดว่าเขาคงจะแต่งตั้งลูกเป็นรองประธานบริษัทรองจากเขานั่นแหละ แต่เราก็ต้องไปดูหน้างานอีกทีหนึ่งเพราะว่าหุ้นของเราที่มีอยู่ตอนนี้มีแค่ 25% เท่านั้น แต่นั่นก็มากกว่าใครๆในบริษัทแล้วล่ะลูก "
" แคร์ไม่ได้หวังตำแหน่งอะไรเลยค่ะคุณพ่อแคร์แค่อยากทำให้บริษัทฟื้นตัวขึ้นมาเร็วๆเท่านั้น เพื่อที่เราจะพ้นจากวิกฤติกันสักที แคร์อยากเป็นอิสระ "
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้คนตัวเล็กก็ทำหน้าเศร้าลงไปถนัดตา จนผู้เป็นมารดาอดรู้สึกผิดไม่ได้และรีบเปลี่ยนเรื่องคุย
" คุณคะ ลูกก็เข้าไปบริหารงานในบริษัทแล้วส่วนเราก็ว่างกันแล้ว ฉันว่าเราออกไปเที่ยวต่างประเทศกันสักสามสี่เดือนดีไหมคะ "
คุณหญิงอุมาเอ่ยชวนสามี เนื่องจากทั้งสองคนไม่ค่อยได้มีเวลาไปไหนด้วยกัน ตลอดเวลาสามีของเธอเอาแต่ทำงาน
" จะดีหรือคุณ สถานะของบ้านเราไม่น่าจะเหมาะกับการไปเที่ยวสักเท่าไหร่ "
ผู้เป็นสามีเอ่ยปรามภรรยา
" ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณพ่อ คุณพ่อกับคุณแม่ไปเที่ยวต่างประเทศกันให้สบายใจเถอะค่ะเดี๋ยวทางนี้แคร์จะเป็นคนจัดการเองเชื่อใจแคร์นะคะว่าแคร์ทำได้แน่ แล้วหุ้นส่วนคนใหม่ของคุณพ่อแคร์ก็จะดูแลให้เป็นอย่างดีไม่ให้ขาดตกบกพร่องเลยค่ะ แคร์จะไม่ให้เขาถอนหุ้นออกจากบริษัทเราเด็ดขาดโอเคไหมคะ "
" เอาอย่างนั้นหรอลูก "
" ค่ะ คุณพ่อกับคุณแม่ไปพรุ่งนี้เลยค่ะแคร์สนับสนุน อยากให้คุณพ่อกับคุณแม่มีความสุขไม่แน่นะคะพอกลับมาอีกทีอาจจะได้ยินข่าวดีจากแคร์แล้วก็ได้ "
3 วันผ่านไป
หลังจากที่แคร์ไปส่งพ่อและแม่ที่สนามบินเสร็จเรียบร้อยแล้วเธอก็ตรงมายังบริษัททันทีเพราะวันนี้มีประชุมผู้ถือหุ้นซึ่งสำคัญมากและเป็นการเปิดตัวผู้ถือหุ้นรายใหญ่คนใหม่ของบริษัทซึ่งเธอเองก็ยังไม่รู้มาก่อนว่าเขาคือใครเพราะมัวแต่จัดเตรียมงาน และให้เลขาเป็นคนเตรียมรายชื่อผู้มาประชุมแทน
ตอนนี้เธอนั่งอยู่ในห้องประชุมเรียบร้อยแล้วพร้อมกับผู้ถือหุ้นรายย่อยทุกคนและรอผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่กำลังเดินทางมาถึงในอีกไม่นานนี้และเมื่อประตูห้องประชุมเปิดออกก็ทำให้ฉันถึงกับช็อคตาค้างไปเลย