บทที่ 5 คลับบันเทิงเวินฉวนซาน
เฉินเกอเดินออกจากห้องอาหาร
เพื่อนสนิทของประธานหยางฮุยกับหม่าเสี่ยวหนานตามออกมา
“นายทำอะไร! ฉันไม่ได้ว่าของขวัญของนายไม่ดี!”
หม่าเสี่ยวหนานพูดด้วยความรีบร้อน
หยางฮุยก็บอกว่า : “เฉินเกออย่าเพิ่งไปสิ กินหมดแล้วค่อยไป ถ้านายไปแล้ว พวกเราอยู่ตรงนี้ก็ไม่มีความหมายอะไรสิ!”
เฉินเกอยิ้มเล็กน้อย: “พวกเธอเล่นให้สนุกกันเถอะพี่ฮุย เสี่ยวหนาน ฉันมีธุระจริงๆ แต่พวกเธอเชื่อผมนะ ผมไม่แสร้งทำแน่นอน!”
เฉินเกอก็ไม่รู้ว่าพวกเธอจะเชื่อตัวเองหรือไม่
ว่าไปแล้วก็โทษบัตรช๊อปปิ้งที่มีวงเงินซื้อของได้ต่ำ3แสนใบนี้ของพี่สาว การเปลี่ยนแปลงก็ทำให้ตัวเองตกเข้าไปในหลุมอีก
แม้หยางฮุยกับหม่าเสี่ยวหนานต่างก็โน้มน้าว แต่สุดท้ายเฉินเกอก็ยังคงจากไป
“คนยากจนไปแล้ว?”
เมื่อหม่าเสี่ยวหนานกับหยางฮุยกลับไปที่ห้องอาหาร สวี่ตงถามด้วยรอยยิ้ม
หยางฮุย:“สวี่ตง พวกนายเปลี่ยนคนรังแกได้ไหม เห็นว่าเฉินเกอน่ารังแกใช่ไหม พวกนายยังแกล้งเขาให้แย่ไม่พออีกหรอ?”
หยางฮุยทนไม่ไหวแล้ว
“เหอะเหอะ ขายหน้าก็เป็นตัวเองที่ทำ ใครใช้ให้เขาเอากระเป๋าไม่มีราคามาหลอกเสี่ยวหนาน ยังจะแอร์เมสรุ่นสะสมอีก คนยากจนนี้เลิกเก่งจริงๆ!”
จ้าวยีฟานได้ยินก็ทำเพียงยิ้มแห้งๆแล้วส่ายหัว
หลังจากที่เฉินเกอออกไป เดินอยู่บนถนนด้วยความสับสน
ตอนที่ไม่มีเงินเฉินเกอแค่ฝันก็ยังอยากมีเงิน แต่ตอนนี้ ตัวเองมีเงินแล้ว กลับไม่มีความรู้สึกพิเศษอะไรเลย
และในตอนนี้กลับแย่ลงไปอีก จ่ายไป3แสนกว่า แม้น้ำสักคำก็ไม่ได้ดื่ม ทั้งยังถูกมองด้วยสายตาดูถูกอีก
ในขณะที่เฉินเกอกำลังคิดว่าจะไปหาที่ดื่มน้ำสักหนึ่งที่ดีไหม
โทรศัพท์ดังขึ้น
พี่สาวของตัวเองเฉินเสี่ยวโทรมา
เฉินเกอ: “พี่ครับ!”
“เสี่ยวเกอ ทำอะไรอยู่?”
“ไม่ได้ทำอะไร......”
“ถ้าอย่างนั้นนายช่วยธุระพี่อย่างหนึ่งสิ”
เฉินเกอ: “???”
“คืออย่างนี้ นายน่าจะรู้จักถนนการค้าจินหลิงสินะ? ตรงนั้นเป็นสถานที่ที่พี่ไปลงทุน เมื่อ4ปีก่อนที่พี่กลับประเทศไปเยี่ยมนาย ตอนนี้ เนื่องจากต้องเซ็นชื่อต่อสัญญาที่นั่น พี่ไม่สามารถกลับไปได้!”
“พอดีตอนนั้นใส่ชื่อลงทุนของพวกเราสองพี่น้อง นายไปเซ็นก็เหมือนกัน ไปเซ็นชื่อต่อสัญญาสักหน่อยสิ!”
“ฮัลโหลฮัลโหลฮัลโหล...... เสี่ยวเกอ นายได้ยินที่พี่พูดไหม?”
เฉินเกอได้ยินแน่นอน
เพียงแต่ว่าตอนนี้เขากำลังสับสนสุดๆ
ถนนการค้าจินหลิง?
ที่นั่นเป็นหนึ่งในเมืองจินหลิงที่มีความโดดเด่นมาก
ร้านค้าถนนการค้าตกแต่งสวยงาม การทำมาค้าขายดุเดือดมาก
ไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น แค่พูดถึงร้านที่โดดเด่นที่สุดในถนนการค้า มีสถานที่หนึ่งที่ชื่อว่าคลับบันเทิงเวินฉวนซาน สร้างตามภูเขา ที่นั่นเป็นสถานที่ที่มหาเศรษฐีเมืองจินหลิงมักจะไปกันบ่อยๆ
ฟังจากความหมายของพี่สาวแล้ว ถนนการค้าทั้งหมดนั้น เป็นของครอบครัวตัวเอง?
“พี่ครับ พี่พูดเล่นหรือจริง? ถนนการค้าเป็นของครอบครัวเราหรอ?”
“แม่งเอ้ย! พูดอยู่ตั้งนาน นายคิดว่าฉันล้อเล่นกับนายหรอ ฉันเป็นคนเปิดเอง เนื่องจากตอนนั้นฉันไม่สามารถเปิดกิจการได้มากมายขนาดนี้ในเวลาเดียว ดังนั้นฉันจึงใช้บัตรประชาชนของนาย ควรมีของนายครึ่งหนึ่งสินะ!”
“เดี๋ยวนายไปที่วิลล่าเวินฉวนหาผู้จัดการที่ชื่อหลี่เจิ้นกั๋ว ฉันคุยกับเขาเรียบร้อยแล้ว ให้นายที่เป็นเจ้าของคนที่สองเซ็นก็เหมือนกัน!”
“ผม......”
“โอเค โอเค แค่นี้นะ ฉันยังมีธุระอีก วางสายก่อนนะ!”
ตู๊ดตู๊ดตู๊ด ......
เฉินเกอถือโทรศัพท์ไว้ นั่งไปนานสองนาน
วิลล่าเวินฉวนที่นั่นเป็นสถานที่ระดับไหนกัน ก่อนหน้านี้ เขาไม่กล้าแม้แต่จะคิด
แต่ตอนนี้ เฉินเกอหายใจเข้าลึกๆ เรียกแท็กซี่ตรงไปที่ถนนการค้าจินหลิง
คลับบันเทิงวิลล่าเวินฉวนรวมร้านอาหารที่พักเป็นหนึ่งเดียว
เป็นถนนการค้าที่สร้างใกล้ภูเขา สร้างตามภูเขาที่อยู่ข้างล่าง
เฉินเกอเรียกสติแล้วเดินเข้าไป......
“คุณผู้ชายท่านนี้กรุณาหยุดก่อนค่ะ!”
คาดไม่ถึงว่ากำลังจะเข้าไป เฉินเกอก็ถูกพนักงานสาวสวยสองสามคนดักเอาไว้
“คุณคะ ท่านได้จองที่วิลล่าไว้แล้วหรือยัง?”
พนักงานหญิงมองและถามไปที่เฉินเกอ
พวกเธอทำงานต้อนรับอยู่ข้างหน้าโดยเฉพาะ ปกติพบเจอคนใหญ่คนโตมากมายมาที่นี่จนชิน
วันนี้เห็นเฉินเกอที่สวมเสื้อก๊อปแบรนด์เนมทั้งชุด
แม้น้ำเสียงของพนักงานต้อนรับหญิงจะเกรงใจ แต่ในสายตามีความดูถูกอย่างเห็นได้ชัด
“ผมไม่ได้จองที่ ผมมาพบคนครับ!”
เฉินเกอพูดออกมา
ขณะเดียวกันมองไปที่พนักงานหญิงสองสามคนแวบหนึ่ง รู้สึกตกใจเล็กน้อย มิเช่นนั้นแล้วจะบอกว่าคลับบันเทิงเวินฉวนซานจินหลิงเป็นดินแดนมหัศจรรย์ของคนในเมืองจินหลิงได้อย่างไร
พนักงานต้อนรับ5-6คนนี้ มองดูแล้วเป็นนักศึกษาจบใหม่ มีความสง่ามาก
เหมือนกับนางแบบ มีท่าทาง รูปร่างที่ดี
“พบคน? คุณมาพบใครคะ?”
เพียงแต่ว่าเมื่อได้ยินคำพูดของเฉินเกอสาวสายสองสามคนขมวดคิ้วพร้อมกัน
น้ำเสียงในตอนนี้ มีความเย็นชาลงเล็กน้อย
“ผมมาพบหลี่เจิ้นกั๋ว เป็นผู้จัดการของที่นี่!”
เฉินเกอก็สังเกตเห็นแววตาที่พวกเธอมองตัวเองด้วยความดูถูก แต่ก็พูดความจริงออกไป
สาวสวยสองสามคนมองตากันและกัน
พบผู้จัดการหลี่?
คาดว่าคนยากจนคนนี้ ยังไม่รู้สถานะของผู้จัดการหลี่สินะ?
อยากจะพบเจอก็พบได้งั้นหรอ?
และตอนนี้พวกเธอแทบจะตัดสินได้ว่า คนยากจนคนนี้อยากเข้าไปเปิดหูเปิดตา
อย่างไรก็ตามคลับบันเทิงเวินฉวนซานมีชื่อเสียงเหลือเกิน หลายๆคนเนื่องจากไม่มีกำลังในการจ่าย จึงไม่สามารถเข้าไปข้างในได้
ปกติก็มีคนที่เหมือนกับเขา อาศัยเหตุผลเข้าไปพบคน เพื่อเข้าไปเยี่ยมชม
แต่ว่า ไม่สามารถเข้าไปได้เลย
พวกเธอเป็นนักเรียนสวยงามที่เพิ่งจบวิทยาลัย ตอนนี้ แม้จะรู้สึกไร้ยางอายต่อการกระทำของเฉินเกอแต่ก็พยายามรักษาท่าทางที่อ่อนโยน:
“คุณคะ อยากพบผู้จัดการหลี่ของพวกเราต้องนัดล่วงหน้านะคะ หากท่านไม่ได้นัดล่วงหน้า ก็เชิญออกไปเถอะคะ!”
เฉินเกอถือได้ว่าดูออก พนักงานสองสามคนนี้มองว่าตัวเองเป็นคนที่จะเข้ามาเยี่ยมชม!
ขณะที่กำลังคิดอยู่ว่าจะโทรศัพท์ให้พี่สาว เพื่อโทรแจ้งหลี่เจิ้นกั๋ว สักคำ
“พี่เจิ้งยวี่ พวกเธอกำลังทำอะไรหรอ?” ผมเพิ่งจะสังเกตเห็นว่า ที่แท้ เวินฉวนซานใครๆก็สามารถเข้ามาได้หรอ!
คนที่พูดเป็นวัยรุ่นที่ผมใส่เจล แต่งกายหรู จับมือผู้หญิงที่แต่งหน้าเข้มจัดเดินเข้ามา
มองดูเฉินเกอด้วยสายตาที่ดูถูก เขายิ้มให้กับพนักงานต้อนรับหญิงที่อยู่ข้างหน้า
“ซ่างเทียน เธอเคยบอกไม่ใช่หรอว่าที่นี่เป็นสถานที่หรูหราที่สุดของจินหลิงไม่ใช่หรือ ทำไมถึงมีคนแบบนี้อยู่ที่นี่อีกละ?”
ผู้หญิงที่แต่งหน้าจัดคนนั้นพูดออกมา
บางคนก็เป็นแบบนี้ ไม่ดูถูกเหยียดหยามคนอื่นสักนิด ก็แสดงออกถึงความทนไม่ไหวของพวกเขาออกมา
พนักงานหญิงคนแรกเจิ้งยวี่กล่าวขอโทษกับคุณชายคนนี้: “ขอโทษคุณชายจริงๆ พวกเราจะจัดการให้เร็วที่สุด!”
หลี่ซ่างเทียนยิ้มเย็นชา : “อย่างนั้นก็ ประเดี๋ยวผมยังต้องเลี้ยงเพื่อนต่างถิ่นที่นี่อีก วิลล่าของพวกเราเป็นสัญลักษณ์ของจินหลิง ห้ามลดเกรดลงมาโดยไม่มีเหตุผลนะ ผมขอพูดมากกว่านี้หน่อยพี่เจิ้งยวี่เธออย่าโกรธเลยนะ พ่อของผมกับผู้จัดการหลี่ของพวกเธอรู้จักกันนะ เคยกินข้าวด้วยกันแล้วด้วย!”
พูดถึงผู้จัดการหลี่ใบหน้าของหลี่ซ่างเทียน มีความเคารพเล็กน้อย
ผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมกอดของเขา เมื่อได้ยินว่าหลี่ซ่างเทียนรู้จักคนไปทั่วทุกที่ ทั้งยังรู้จักผู้จัดการหลี่คนใหญ่คนโตของจินหลิงท่านนี้อีก! เต็มไปด้วยสายตาที่หลงใหล
แม้พนักงานหญิงกลุ่มหนึ่งที่อยู่ข้างเจิ้งยวี่ ก็ส่งสายตาไปให้หลี่ซ่างเทียนอย่างลับๆ หวังว่าจะเป็นที่สังเกตของหลี่ซ่างเทียน
เจิ้งยวี่รีบพยักหน้า: “ค่ะคุณชายหลี่!”
พูดจบก็หันไปมองเฉินเกอด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด
“เชิญคุณออกไป อย่ามาขัดขวางการทำกิจการของพวกเรา มิเช่นนั้นฉันจะแจ้งผู้รักษาความปลอดภัย!”
“โอเค! ผมขอไปโทรศัพท์ก่อน!”
เฉินเกอหายใจเข้าลึกๆ แล้วเดินออกไป เดินออกไปพลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
“แม่งเอ้ย! ยังเสแสร้งเป็นอีก! มีความเหมือนจริง!”
หลี่ซ่างเทียนพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“คุณชายหลี่อย่าถือสาเลย เวินฉวนซานของพวกเราบางครั้งก็จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น!”
เจิ้งยวี่พูดด้วยรอยยิ้ม
หลี่ซ่างเทียนพยักหน้า “ได้ อีกสักครู่เพื่อนของผมมา พี่เจิ้งยวี่ให้เกียรติไปดื่มสักสองสามแก้วเป็นอย่างไร? ”
“ถึงเวลาจะดูอีกทีนะ! คุณชายหลี่” เจิ้งยวี่ยิ้มด้วยความลำบากใจ
หลี่ซ่างเทียนพยักหน้ามองไปที่ เจิ้งยวี่ด้วยสายตาลวนลาม จากนั้นหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาไปเปิดห้องที่หน้าเคาน์เตอร์
และพนักงานสาวกลุ่มหนึ่งก็มองไปที่เจิ้งยวี่ด้วยความชื่นชม “พี่ยวี่ ท่านรู้จักคุณชายหลี่หรอคะ?”
เจิ้งยวี่จัดลูกผมอย่างภูมิใจ: “แน่นอน มิเช่นนั้นแล้วพวกเราจบจากวิทยาลัยไม่ไปหางานทำ มาเป็นพนักงานบริการที่นี่มีความหมายอะไร แน่นอนว่าต้องมารู้จักกับคนรวยอย่างคุณชายหลี่สักสองสามคนสิ!”
“พวกเธอเห็นผู้หญิงแต่งหน้าจัดที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาแล้วหรือยัง คนนั้นเคยเป็นดารามาก่อนนะ......ครอบครัวคุณชายหลี่ทำกิจการอสังหาริมทรัพย์ มีมูลค่า2พันกว่าล้าน!”
“โอโห! มิน่าล่ะพ่อของเขาถึงได้รู้จักกับเจ้าพ่อหลี่เจิ้นกั๋วถนนการค้าจินหลิงผู้จัดการหลี่ของพวกเรา ที่แท้มีมูลค่าสูงขนาดนี้นี่เอง!”
พนักงานหญิงกลุ่มหนึ่งมองไปข้างหลังของหลี่ซ่างเทียน ต่างก็บ้าคลั่งไปแล้ว
“เหอะ ไม่พูดถึงผู้จัดการหลี่ก็นึกไม่ถึงจริงๆ คนยากจนธรรมดาคนนั้นเมื่อครู่นี้ยังจะอยากมาพบผู้จัดการหลี่ ตอนนี้ผู้จัดการหลี่กำลังเจรจาธุรกิจกับผู้นำของเมืองและคณะประธานหอการค้าของจินหลิงอยู่ คนๆนี้มาเล่นตลกสินะ......” เจิ้งยวี่ ยิ้มด้วยความดูถูก
เธอยิ้มพลาง เตรียมตัวจะไปพูดคุยกับหลี่ซ่างเทียนอีกสองสามประโยค ปรากฏว่าเมื่อเงยหน้าขึ้น
ก็เจอคนยากจนคนนั้นที่ถูกไล่ออกไปกลับมาอีกแล้ว
“นายกลับมาอีกทำไม?”
เจิ้งยวี่พูดด้วยสีหน้าตกตะลึง
พนักงานกลุ่มหนึ่งมองไปที่เฉินเกอด้วยสายตาที่ดูถูก......