บทที่ 4 เฉินเกอยากจน
เพียงแต่ว่าหลังจากที่ประตูเปิดออก คนที่เข้ามาไม่ใช่เฉินเกอ
“สวี่ตง! นายมาทำไม?”
เมื่อหม่าเสี่ยวหนานเห็นสวี่ตง สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที
แม้จะเป็นเพื่อนร่วมห้องกัน ก่อนหน้านั้น หม่าเสี่ยวหนานก็เคยชวนสวี่ตง
แต่เมื่อเช้านี้ หม่าเสี่ยวหนานก็รู้เรื่องที่สวี่ตงกลั่นแกล้งเฉินเกอดังนั้น หม่าเสี่ยวหนานจึงด่าสวี่ตงไป
คาดไม่ถึงว่า ตาบ้านี้จะหน้าด้านขนาดนี้ ยังกล้ามาอีก!
“เสี่ยวหนาน เธอยังโกรธอยู่อีกหรอ? เมื่อวานผมก็แค่ล้อเฉินเกอเล่นแค่นั้นเอง ใครจะคิดว่าเขาไปส่งให้จริง!”
สวี่ตงยิ้มอย่างมีความสุข
เพื่อนในหอพักของเขาก็มาสองสามคน พวกเขายังซื้อของขวัญมาอีกด้วย
พูดไปแล้ว ที่จริงครอบครัวของหม่าเสี่ยวหนานค่อนข้างร่ำรวย และเคยมีหลายครั้งที่อยากจะช่วยเหลือเฉินเกอแต่เฉินเกอไม่ยินยอม
ส่วนสวี่ตง เป็นเพื่อนมัธยมปลายของหม่าเสี่ยวหนาน
“เสี่ยวหนาน เฉินเกอที่เขาพูดถึง ก็คือเฉินเกอที่เธออยากจะแนะนำให้ฉันรู้จักหรอ? เกิดอะไรขึ้นหรอ?”
จ้าวยีฟานหรี่ตาสวยงามลงเล็กน้อย ถามด้วยน้ำเสียงที่เรียบ
เมื่อสวี่ตงเห็นจ้าวยีฟาน ดวงตาทั้งสองข้างแทบจะเปล่งแสงออกมาในทันที ที่จริงแล้ว เขาอยากจะรู้จักกับจ้าวยีฟานตั้งนานแล้ว เธอเป็นถึงดาวคณะของคณะวิทยุกระจายเสียงของมหาวิทยาลัย
ครั้งนี้เขาขอโทษหม่าเสี่ยวหนานอย่างไร้ยางอาย พูดไปแล้วก็คือรู้ตั้งแต่แรกว่าวันเกิดของหม่าเสี่ยวหนาน จ้าวยีฟานก็ต้องมาด้วยแน่นอน
ทันทีที่ได้ยินประโยคนี้ สวี่ตงรีบพูดขึ้นมาว่า : “อ่อ อ่อ ยีฟานคนสวย เฉินเกอเป็นเพื่อนร่วมห้องของพวกเรา เมื่อวาน......ฮาฮาฮา!”
เมื่อนึกถึงเมื่อวานเฉินเกอส่งดูเร็กซ์ไปให้แฟนเก่าช่วยเสริมกำลัง สวี่ตงหัวเราะแทบจะบ้าตายแล้ว ในตอนนั้นจึงเล่าเรื่องนี้ออกมาอย่างกระชับ
“นายหุบปากไปเลยนะ!” หม่าเสี่ยวหนานโมโหขึ้นมาทันที มองไปที่สวี่ตงด้วยความโกรธเคือง
ส่วนสีหน้าของจ้าวยีฟานและสาวงามเพื่อนในหอของเธอ ก็เปลี่ยนเป็นสีหน้าแปลกๆ
คาดไม่ถึงว่าจะมีคนยากจน ที่น่าอายขนาดนี้อยู่อีกหรอ?
สีหน้าของเพื่อนในหอพักของเฉินเกอก็แย่ลง สวี่ตง เป็นคนที่พูดคำพูดดีๆออกมาไม่เป็น
“โอเค โอเค โอเค......ผมไม่พูดแล้ว!”
สวี่ตงหัวเราะแล้วพูดว่า “เสี่ยวหนาน ลองดูสิว่าผมซื้อของขวัญอะไรมาให้เธอ......”
ทันใดนั้น มีเสียงเคาะประตูห้องอาหารดังขึ้นเบาๆ
จากนั้นประตูก็เปิดออก ครั้งนี้ เฉินเกอถือถุงพลาสติกสีแดงขนาดใหญ่เดินเข้ามา!
“เฉินเกอนายมาแล้ว!”
หม่าเสี่ยวหนานยิ้มและยืนขึ้นมาทันที
เฉินเกอพยักหน้าเล็กน้อย แน่นอนว่าพริบตาเดียวเขาก็เห็นสวี่ตงหันมายิ้มให้ตัวเองด้วยความเย็นชา
หากเป็นเมื่อก่อน เมื่อตัวเองเห็นทายาทเศรษฐีคนนี้ก็จะรู้สึกต่ำต้อยมาก แต่ตอนนี้......เหอะเหอะ
เขาก็คือเฉินเกอ?
จ้าวยีฟานก็เงยหน้าขึ้นมาหันไปมองเฉินเกอ
ที่จริงจ้าวยีฟานอยากจะหาแฟนคนหนึ่งจริงๆ ครอบครัวของคนๆนี้อาจจะไม่ต้องร่ำรวยมาก ธรรมดาหน่อยก็ไม่เป็นไร แต่ว่า หน้าตาต้องดี มีลักษณะเฉพาะด้านที่ดึงดูดตัวเองได้
ทันใดนั้น เธอเห็นลักษณะของเฉินเกอแม้จะดูดีเล็กน้อย แต่ว่า เสื้อผ้าที่สวมใส่จากหัวไปถึงเท้ารวมกันแล้ว ไม่เกิน150เหรียญแน่นอน
ธรรมดาเกินไป!
โดยเฉพาะเมื่อนึกถึงเรื่องราวของเฉินเกอที่สวี่ตงเล่ามาเมื่อครู่นี้ ทันใดนั้น ความประทับใจแรกที่มีต่อเฉินเกอแย่ถึงที่สุดแล้ว
สีหน้าของจ้าวยีฟานเต็มไปด้วยความผิดหวัง
“เฉินเกอนี้คือ ยีฟาน นี้คือเพื่อนในหอของยีฟาน พวกนายทำความรู้จักกันหน่อย!”
หม่าเสี่ยวหนานยิ้มแนะนำ
เฉินเกอพยักหน้า “ผมชื่อเฉินเกอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ ยีฟาน!”
เฉินเกอยื่นมือออกมาอย่างมีมารยาท
แต่จ้าวยีฟาน ไม่แม้แต่จะมอง หันไปดื่มน้ำผลไม้หนึ่งแก้ว
มือของเฉินเกออยู่กลางอากาศ จำเป็นต้องเก็บกลับไปด้วยความเสียใจ
หม่าเสี่ยวหนานรู้ว่าเพื่อนสนิทของตัวเองมีนิสัยแบบนี้มาโดยตลอด ถูกใจก็คุยต่ออีกสองสามประโยค ไม่ถูกใจก็แย่เลย ไม่แม้แต่จะสนใจเลยสักนิด
สำหรับเรื่องนี้เฉินเกอก็ไม่พูดอะไร
กำลังจะนั่งลง
ทันใดนั้น สายตาของสวี่ตงมองไปยังถุงพลาสติกสีแดงที่อยู่ในมือของเฉินเกอ
ยิ้มด้วยความเย็นชาทันที : “โห เฉินเกอวันเกิดของเสี่ยวหนาน นายซื้อของขวัญอะไรมาหรอ? เอาออกมาให้ทุกคนดูหน่อยสิ!”
ประธานหอพักของเฉินเกอทนดูต่อไปไม่ได้: “สวี่ตง นายเอาแต่กลั่นแกล้งเฉินเกอทำไมกัน?”
สวี่ตงหัวเราะเสียงดัง เยาะเย้ยคนอื่น มักจะทำให้เขารู้สึกมีตัวตนมาก
ทันใดนั้น เขามองไปที่เฉินเกออย่างเยือกเย็น หยิบของขวัญที่ตัวเองซื้อออกมา
บังเอิญ เป็นกระเป๋าแบรนด์เนมสีดำรุ่นหนึ่งเช่นกัน
“เสี่ยวหนาน นี้คือแอร์เมส ที่ผมซื้อให้เธอ!”
สวี่ตงหยิบกระเป๋าออกมา ดึงดูดจ้าวยีฟานและสาวสวยกลุ่มเพื่อนๆในหอพักของเธอในทันที
“แอร์เมส? กระเป๋านี้ราคาในท้องตลาด8999สินะ?”
แววตาที่สาวสวยเหล่านี้มองไปที่สวี่ตงเปลี่ยนไปทันที
คนๆนี้ก็ใจกว้างเหลือเกิน
แม้แต่จ้าวยีฟานเทพธิดาที่ปกติเป็นคนเย็นชา ก็ยังอดใจไม่ได้ที่จะมองสวี่ตงแวบหนึ่ง
“ไม่ได้แพงขนาดนั้น พ่อผมกับผู้จัดการร้านแอร์เมสที่อยู่บริเวณนั้นสนิทกัน 7999 ก็ซื้อได้แล้ว เป็นคนสนิทกันทั้งหมด!”
สวี่ตงยิ้ม มีความสุขกับการสายตาที่ทุกคนมองเขาด้วยความชื่นชอบ
แม้ตอนนี้หม่าเสี่ยวหนานจะเกลียดสวี่ตงมาก แต่เราจะไม่ตบหน้าคนที่ยิ้มให้ จึงรับเอาไว้
“แอร์เมส เป็นกระเป๋าแบรนด์เนมรุ่นใหม่ที่เพิ่งออก ขายดีมากในฮ่องกง มาเกา ไต้หวัน ราคาของรุ่นเดียวกัน ยังไงก็ต้องสูงถึง1-2 หมื่นโดยประมาณ!”
จ้าวยีฟานหันไปมองแวบหนึ่ง แล้วพูด
สวี่ตงยักคิ้วขึ้น : “ยีฟานคนสวย คาดไม่ถึงว่าเธอจะมีความรู้ด้านสินค้าแบรนด์เนมมากขนาดนี้?”
จ้าวยีฟานมองไปที่สวี่ตงในที่สุดก็ยิ้มออกมาอ่อนๆ : “ก่อนหน้านี้ฉันก็จะซื้อรุ่นนี้ เพียงแต่ว่าราคาแพงไปหน่อย......”
สวี่ตงรีบพูดออกมา : “ยีฟานคนสวย เอาไว้วันเกิดของเธอผมจะซื้อให้เธอนะ 8-9พัน เป็นเพียงแค่เงินเล็กน้อย บวกกับร้านแอร์เมสที่อยู่หน้ามหาวิทยาลัยของพวกเรา เป็นเพื่อนสนิทกันทั้งนั้น!”
จ้าวยีฟานเงียบไม่พูดอะไร เพียงแค่ยิ้มเล็กน้อย
เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักสวี่ตงเพื่อนมัธยมปลายของหม่าเสี่ยวหนาน เพียงแค่ได้ยินมาว่าเขาเป็นเพลย์บอย
คาดไม่ถึงว่า ตัวจริงจะใจใหญ่ขนาดนี้
จ้าวยีฟานรู้สึกประทับใจในตัวเขาไม่น้อยเลย
ลำดับต่อไป ประธานหอพักของเฉินเกอพากันมอบของขวัญ
อย่างไรก็ตามเทียบไม่ได้กับสินค้าแบรนด์เนมราคาแพงของสวี่ตง แต่ก็3-4ร้อยแล้ว
เฉินเกอไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไร ตั้งใจไว้ว่าหลังเลิกงานเลี้ยงค่อยนำแอร์เมสใบนี้ให้หม่าเสี่ยวหนาน
และทันใดนั้น สวี่ตงมองไปยังถุงพลาสติกสีแดงขนาดใหญ่ที่อยู่ในมือของเฉินเกอหัวเราะเยาะว่า :
“เฉินเกอผมว่า เมื่อครู่นี้บอกให้นายโชว์ของขวัญให้พวกเราดูสักหน่อย ตอนนี้เอาออกมาให้ทุกคนดูหน่อยสิ ดูถุงที่นายถือมาสิ เป็นมงคลเหลือเกิน!”
“สวี่ตง นายหุบปากไปเลย เฉินเกอให้อะไรฉันฉันก็ดีใจมาก!”
หม่าเสี่ยวหนานเตือนสวี่ตงอีกครั้ง
แต่ว่าหม่าเสี่ยวหนานก็มองไปที่เฉินเกอด้วยแววตาที่มีความหวังเล็กน้อย
เฉินเกอเสียใจเล็กน้อย
ตอนนั้นเพราะเวลาเร่งรีบ จึงไม่ได้รอครึ่งชั่วโมงนั้น รู้อย่างนี้ตั้งแต่แรกก็จะให้พนักงานห่อกระเป๋าให้เรียบร้อยแล้ว
แต่ใครจะไปรู้ เดิมทีคิดว่าจะเป็นงานเลี้ยงเรียบง่าย แต่นายตัวร้ายสวี่ตงก็มาด้วย!
“เสี่ยวหนาน ผมซื้อกระเป๋าให้เธอหนึ่งใบ!”
เฉินเกอยืนขึ้นมา นำถุงพลาสติกสีแดงออกจากข้างบน
จ้าวยีฟานขมวดคิ้วแน่น ส่วนเพื่อนในหอพักเดียวกันกับเธอก็มีสีหน้าที่ดูถูก
คนๆนี้ ธรรมดาเหลือเกิน! ไม่มีคุณค่าเลย!
“ว๊าว!”
เพียงแต่ว่าหลังจากที่เฉินเกอหยิบออกมา สวี่ตงก็ร้องขึ้นมาเสียงดัง:
“แอร์เมส ฮาฮาฮา คาดไม่ถึงว่าเฉินเกอก็ให้แอร์เมส! สินค้าแบรนด์เนมนี่! ”
“เฉินเกอ! นายรีบบอกหน่อย กระเป๋าใบนี้ซื้อมาจากแผงตลาดที่ไหน? แพงมากสินะ?”
คำพูดนี้ของสวี่ตง ทำให้ผู้หญิงกลุ่มหนึ่งหัวเราะเสียงดัง
จ้าวยีฟานก็ส่ายหัวเล็กน้อย
เดิมทีเธอคิดว่าแม้เฉินเกอจะยากจน แต่น่าจะเป็นคนซื่อสัตย์ พูดความจริง เป็นเพื่อนธรรมดาคนหนึ่ง เฉินเกอก็ยังถือว่ายังมีสิทธิ์อยู่บ้าง
แต่ตอนนี้ ในใจจ้าวยีฟานดูถูกเฉินเกออย่างมาก
“นี่คือกระเป๋ารุ่นสะสมที่เป็นงานฉลอง200ปีของแอร์เมส ผลิตเพียง200ใบทั่วโลก อย่างน้อยๆก็ประมาณ 3แสนขึ้น !”
จ้าวยีฟานมองแวบเดียว ก็รู้แล้ว
“ในอินเตอร์เน็ตขายของปลอม ราคาอยู่ที่150 เหรียญ แต่ถึงแม้จะเป็นคนธรรมดาที่มีความทะนงจนมากขนาดไหนก็ตาม ก็ไม่มีใครกล้าซื้อมาใช้. สินค้าแบรนด์เนมระดับสูงขนาดนี้ แบกออกไปก็มีแต่จะขายหน้า!”
จ้าวยีฟาน ก็ไม่เกรงใจ ที่จะมองไปยัง เฉินเกอคนที่อยู่ตรงหน้า ทำให้เธอรู้สึกรังเกียจมาก!
หม่าเสี่ยวหนานคิดว่าเฉินเกอจะซื้อของเล็กๆน้อยๆมาให้ตัวเอง แต่คาดไม่ถึงว่าจะซื้อของปลอมแบบนี้มาให้
แต่ หม่าเสี่ยวหนานก็ยังพูดด้วยความดีใจอย่างมากว่า “เฉินเกอไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ขอบคุณนายที่ซื้อของขวัญมาให้ฉัน แต่ต่อไปนายไม่ต้องสิ้นเปลืองเงินแล้วนะ 150 ก็ถือว่าแพงมากเช่นกัน!”
เฉินเกออยากจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา เขาอยากพูดเหลือเกินว่านี่คือของจริง แต่มองเห็นสายตาอันดูถูกที่จ้าวยีฟานและเพื่อนในหอพักของเธอมองมาที่ตัวเอง คาดว่าตัวเองพูดออกมาก็ไม่เชื่อ ทั้งยังทำให้พวกเธอยิ่งดูถูกมากไปอีกสินะ!
ตอนนี้จ้าวยีฟานมองไปที่หม่าเสี่ยวหนานพูดว่า:
“เสี่ยวหนาน เธอไปรู้จักกับคนที่ไม่น่าเชื่อถือแบบนี้ตั้งแต่ตอนไหนกัน?”
“โอเค โอเค วันนี้เป็นวันเกิดฉัน ทุกคนต่างก็เป็นเพื่อนกัน มามามา ยกแก้วขึ้นมาพร้อมกันเถอะ!”
จ้าวยีฟานและเพื่อนในหอพักของเธอมองดูเฉินเกอไม่มีกิริยาโต้ตอบอะไรด้วยความรังเกียจ
สวี่ตงพวกเขาก็ยิ้มเย็นชาอยู่ข้างๆ
เฉินเกอเห็นหม่าเสี่ยวหนานอยู่ตรงกลางระหว่างตนเองและเพื่อนร่วมหอมีความเก้ๆกังๆไม่น้อย
จึงลุกขึ้นมาบอกว่า : “เสี่ยวหนาน วันนี้เป็นงานฉลองวันเกิดของเธอ แต่ผมนึกขึ้นได้ว่าผมยังมีธุระที่หออีกนิดหน่อย ขอตัวกลับก่อนนะ พวกเธอเล่นให้สนุกละ!”
เฉินเกอรู้ว่าตัวเองเป็นส่วนเกิน
ลุกขึ้นแล้วเดินไป
“เฉินเกอ!”