ตอนที่ 11 กร้าวใจ
ตอนที่ 11 กร้าวใจ
เขาใช้เวลาบนท้องถนนที่การจราจรติดขัดนี้อีกเป็นสิบนาที ก่อนที่จะถึงหน้าโรงเรียนสอนดนตรีชื่อดังของหลานชาย จึงพากันเดินเข้าไปด้านในที่มีทั้งเด็กและผู้ปกครองนั่งกันเต็มไปหมด
“อาแพทครับ นั่นไงห้องเรียนของพอร์ช ยัยจิ๋วน่าจะมาแล้วนะครับ”
เด็กชายพอร์ชจูงมือคุณอาสุดหล่อเดินเข้าห้องเรียนของเขาไป ก็ได้พบเด็กหญิงตัวเล็กในชุดนักเรียนโรงเรียนเอกชนชื่อดังแต่เป็นคนละโรงเรียนกับเด็กชายพอร์ช เธอมีผมหน้าม้า มัดผมแกละสองข้างแถมติดโบสีชมพูอันใหญ่น่ารัก กำลังนั่งเล่นกับเพื่อนผู้หญิงตัวเล็กพอๆกันอีกคนระหว่างรอเวลาเริ่มเรียน
“เพชรใส นี่คุณอาของพี่พอร์ชเอง ชื่ออาแพท”
สาวน้อยเพชรใสหันมาตามเสียงเรียกที่คุ้นเคยของเด็กชายที่เคยช่วยเหลือเธอเอาไว้ และวันนี้แม่ของเธอก็อบขนมคุกกี้ใส่โหลให้เธอเอามาขอบคุณเขาด้วย
พชรเบิกตากว้างขึ้น หัวใจแกร่งกระตุกวูบ มันเต้นแรงจนแทบกระเด็นออกมานอกอกอย่างไม่ทราบสาเหตุ เมื่อสาวน้อยนามว่าเพชรใสหันหน้ามาหาเขา สาวน้อยผมแกละที่มีดวงตาสีน้ำตาล จมูกโด่ง ปากกระจับสีแดงสด ใบหน้ากลมป้อมน่ารัก รวมๆแล้วทั้งใบหน้า เธอมีความเหมือนกับน้องสาวของเขาสมัยเด็กๆ ราวกับฝาแฝด จะพูดให้ถูกก็คือ เธอเหมือนเขาในเวอร์ชันเด็กใส่วิกด้วยซ้ำไป
“สวัสดีครับ เพชรใส”
เขาย่อตัวลงนั่งบนส้นรองเท้าแล้วเอ่ยทักทายเด็กน้อยที่น่ารักราวกับตุ๊กตาก่อน เพราะเธอมีท่าทีประหม่าและเขินอายชายหนุ่มแปลกหน้าอย่างเขาไม่น้อย
“สวัสดีค่ะ คุณลุง”
สาวน้อยเพชรใสลุกขึ้นยืนแล้วไหว้เขาอย่างนอบน้อมตามที่แม่ได้สอนมา ก่อนจะส่งยิ้มน่ารักให้กับเขา จนชายหนุ่มแทบใจละลาย หัวใจดวงโตอุ่นวาบไปทั้งดวง
“เรียกลุงแพทก็ได้ครับ”
“ลุงแพท”
เธอเอ่ยทวนแล้วส่งยิ้มหวานให้เขาอีกแล้ว นี่ถ้าเป็นหลานสาวของเขา คงต้องคว้ามากอดมาหอมให้ฉ่ำปอด โทษฐานที่น่ารักเกินไป
สาวน้อยเพชรใสนึกขึ้นได้ จึงเปิดกระเป๋าสะพายใบจิ๋วแล้วหยิบโหลคุกกี้ที่ตกแต่งโบอย่างสวยงามมาส่งให้กับหนุ่มน้อยผู้มีน้ำใจช่วยเธอจากเด็กเกเรในวันนั้น
“แม่เพชรใสทำเอง ขอบคุณมากค่า”
สาวน้อยพูดตามที่แม่สอน ไม่มีขาดตกบกพร่อง พร้อมส่งโหลคุกกี้ให้กับเด็กชายพอร์ชที่ตอนนี้ยิ้มแก้มแทบปริ
“น่ากินจัง ขอบคุณนะ ยัยจิ๋ว”
หนุ่มน้อยรับโหลคุกกี้มาแล้วเอามือป้อมๆ ลูบหัวสาวน้อยที่ตัวเล็กจิ๋วอย่างเอ็นดู
“น่าทานจังครับ ขอลุงแพททานด้วยได้ไหมเอ่ย”
“ได้ค่า เพชรใสมีอีกอันนึง อันนี้ให้ลุงแพทค่า”
เพชรใสหยิบโหลคุกกี้อีกอันที่เหมือนกับของเด็กชายพอร์ช แม่เธอทำมาให้สองโหลเผื่อให้ลูกสาวเอาให้เพื่อนหรือคุณครู แต่ตอนนี้ เธอได้เอามาให้ลุงแพทรูปหล่อที่ท่าทางใจดีนี่เสียแล้ว
“ขอบคุณมากครับ ลุงจะทานให้หมดเลย”
ทั้งๆ ที่ไม่ค่อยชอบทานขนมหวานสักเท่าไหร่ แต่ของที่ได้รับจากมือของเด็กน้อยคนนี้ มันทำให้เขาใจฟูจนอยากที่จะกินให้หมด ถึงแม้รสชาติมันอาจจะไม่ถูกปากก็ตาม
“คุณแม่เพชรใสอยู่ไหนครับ ลุงจะไปขอบคุณเสียหน่อย”
เขากวาดตามองหาหญิงสาวที่อาจจะเป็นแม่ของเด็กน้อยน่ารักคนนี้ ที่น่าจะมีเชื้อลูกครึ่งตามที่พี่ชายบอก แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เจอใครเลย
“แม่กลับไปแล้วค่า ไปทำโอที เดี๋ยวพ่อป้องมารับค่า”
เพราะวันนี้ทั้งปกป้องและพราวมุกต่างมีงานด่วนกันทั้งคู่ ปกป้องจึงไม่สามารถปลีกตัวมารับลูกสาวตัวน้อยได้เหมือนวันนั้น พราวมุกจึงขออนุญาตเจ้านายออกมารับลูกสาวจากโรงเรียน และพามาส่งที่โรงเรียนสอนดนตรีก่อน แล้วขากลับจะให้ปกป้องมาแวะรับกลับบ้าน
“ว๊า ลุงอดเจอเลย ไม่เป็นไรครับ รอเจอคุณพ่อก็ได้”
เมื่อเวลาเลิกเรียน พชรก็ได้เจอกับปกป้อง ชายหนุ่มรูปหล่อที่สาวน้อยเพชรใสเรียกว่าพ่อ
“สวัสดีครับ ผมแพท เป็นอาของเจ้าพอร์ชครับ”
พชรเอ่ยทักทายชายหนุ่มรูปหล่อขาวตี๋ ที่ไม่มีอะไรบนใบหน้าเหมือนกับสาวน้อยเพชรใสเลยแม้แต่จุดเดียว
“สวัสดีครับคุณแพท ผมป้องครับ เป็นพ่อของเพชรใส ขอบคุณครอบครัวคุณอีกครั้งนะครับที่เลี้ยงน้องพอร์ชได้ดีมากๆ ถ้าไม่ได้น้องพอร์ชช่วยลูกสาวผมเอาไว้วันนั้น เธอต้องแย่แน่ๆ”
“ไม่เป็นไรเลยครับ เรื่องเล็กน้อย เพชรใสน่ารักจังเลยนะครับ เหมือนตุ๊กตาฝรั่งเลย สงสัยแกจะเหมือนแม่”
“เอ่อ ก็ประมาณนั้นครับ”
ปกป้องกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ทุกคนที่เห็นเขาอยู่กับลูกสาวตัวน้อยตามลำพังก็มักจะพูดแบบนี้ เพราะสาวน้อยหน้ากระเดียดไปทางฝรั่ง ส่วนเขาน่ะหรือ หนุ่มเกาหลีดีๆนี่เอง
“งั้นผมพาหลานกลับก่อนนะครับ ช่วงนี้คงได้มารับมาส่งเจ้าพอร์ชที่นี่แทบทุกวัน ยังไงไว้เจอกันนะครับคุณป้อง”
“ครับ แล้วเจอกันครับ”
“อ๊ายยยย ชะนี ฉันอยากจะกรีดร้อง เขาหล่อมากกกกก แบบมาก มากกกกก”
ปกป้องวิ่งลงมาหาเพื่อนรักทันทีที่กล่อมลูกสาวให้หลับ แล้วได้ยินเสียงรถยนต์แล่นเข้ามาจอดในบ้าน
“อะไรของแก”
พราวมุกมองเพื่อนรักอย่างระอาใจ อาการดี๊ด๊าแบบนี้ จะเกิดขึ้นทุกครั้งที่ได้เจอผู้ชายหล่อๆ แต่จับต้องไม่ได้
“ก็วันนี้สิ ฉันเจอคุณอาของน้องพอร์ช เขาหล่อมาก ว่าพ่อน้องพอร์ชหล่อแล้วนะ แต่คุณอาคือหล่อแบบกร้าวใจมาก หล่อแบบตะโกน หล่อแบบ หล่ออ่ะ ท่าทางดูมีอำนาจ แต่ก็แฝงไปด้วยความเร่าร้อน โอ๊ย ชะนี ฉันจะละลายแล้ว”
“ขนาดนั้น”
“เรื่องขนาดก็ไม่รู้อ่ะนะ แต่ลูกครึ่งก็ไม่น่าจะธรรมดา”
“ทะลึ่ง”
พราวมุกส่ายหน้าให้กับเพื่อนรัก แล้วเบี่ยงตัวเดินเข้าบ้านไป เรื่องส่องผู้ชายกับเรื่องทะลึ่งตึงตังนี่ยกให้เขาเลยเป็นที่หนึ่ง
“พูดแค่นี้ทำรับไม่ได้ แหม ยัยแม่ชี ที่ได้ตุ๊กตาฝรั่งมาตัวนึงเนี่ย นอนจับมือสวดชินบัญชรกันหรอจ๊ะ”
“ไอ้บ้า ถ้าแกยังทะลึ่งไม่เลิก ฉันจะสอนลูกเรียกแกว่าแม่ แม่ป้อง”
“อ๊ายยย อย่าทำให้ลูกสาวฉันสับสนนะ เด็กวัยกำลังจดจำ กำลังช่างซักช่างถาม”
ทุกวันนี้ลูกสาวตัวน้อยก็รับรู้อยู่ตลอดว่าปกป้องกับภาคภูมิเป็นแฟนกัน สาวน้อยรับรู้ว่าพวกเขาไม่ใช่พ่อแท้ๆของเธอ และเธอมักจะถามแม่เสมอว่าพ่อไปไหน
พราวมุกเองก็ไม่กล้าจะโกหกลูกว่าพ่อขึ้นสวรรค์ไปแล้ว จึงได้แต่บ่ายเบี่ยงว่าพ่อไปทำงานในที่ที่ไกลมาก จนไม่สามารถกลับมาหาได้ ลูกสาวตัวน้อยก็มีท่าทีผิดหวังทุกครั้ง แต่ก็ยอมรับรู้ถึงเหตุผลความจำเป็นของผู้ใหญ่
เธอถือว่าเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่โชคดีมาก ตรงที่ลูกสาวของเธอเลี้ยงง่าย ไม่ดื้อ ไม่ซน ไม่งอแง ตอนเล็กๆ สาวน้อยแทบไม่ร้องไห้โยเยให้แม่ต้องลำบากเลย เพราะเมื่อเธอหมดเวลาลาคลอด ก็ต้องจ้างพี่เลี้ยงมาดูแลลูกที่บ้านจนเข้าโรงเรียนได้ บ่อยครั้งที่เธอต้องฝากลูกสาวตัวน้อยให้คุณครูดูแลไปก่อน ก่อนที่เธอจะสามารถปลีกตัวไปรับลูกจากโรงเรียนได้เพราะทั้งเธอและปกป้องดันมีงานสำคัญเร่งด่วนพร้อมกัน แต่สาวน้อยก็ไม่เคยร้องไห้หรือทำให้แม่ลำบากใจเลยสักครั้ง
“งั้นก็เลิกฟุ้งซ่าน แล้วไปนอน ถ้านอนไม่ถึงแปดชั่วโมง คุณพ่อป้องจะหน้าเหี่ยวนะคะ”
ปกป้องยกมือขึ้นมาลูบใบหน้าอันหล่อเหลาของตัวเอง อายุที่เพิ่มขึ้น ย่อมนำมาซึ่งริ้วรอยเป็นธรรมดา แต่คนรักการดูแลตัวเองอย่างเขา ไม่มีวันยอมหน้าเหี่ยวง่ายๆแน่
“จริงสิ งั้นฉันไปนอนก่อนนะ พรุ่งนี้ฉันต้องกลับไปนอนที่คอนโดนะแก ทิ้งมาหลายคืนแล้ว แล้วเดี๋ยวจะเก็บเสื้อผ้ามาอยู่ด้วยจนกว่างานนี้ของแกจะเรียบร้อย”
เพราะทุกครั้งที่มีโปรเจคสำคัญเข้ามา พราวมุกมักต้องอยู่ทำโอทีจนมืดค่ำ ทำให้แทบไม่สามารถไปรับลูกจากโรงเรียนได้เลย และเขามักจะทำหน้าที่นั้นแทนเธอเสมอ
“อืมไปเถอะ ขอบใจมากที่ช่วงนี้มาช่วยดูแลลูกให้”
“ไม่เป็นไรจ้ะ รักแกนะ”
“อืม รักแกเหมือนกัน”
สองสาวกอดกันอย่างที่เคยทำประจำแล้วต่างแยกย้ายกันกลับเข้าห้องนอนของตัวเองไป