บท
ตั้งค่า

ตอนที่2. ข้าหมายถึง

จ้าวจื่อรั่วหมุนตัวเดินออกมาอย่างเงียบๆ หากเขาไม่ต้องการให้รู้ว่านางคือ ‘ภรรยา’ นางก็จะอยู่ในที่ๆของตัวเองเงียบๆ ไม่เรียกร้องสิ่งใด ชีวิตลูกอนุอย่างนางก็ไม่เคยอยู่ในสายตาใครอยู่แล้ว.

กู้ตงหยางไม่เคยพบสตรีนางใดใจกล้ายั่วโทสะเขาเช่นนี้มาก่อน ซ้ำยังทำด้วยหน้าตาใสซื่อราวกับเขาต่างหากที่เป็นฝ่ายผิด! เขาให้นางจัดห้องพักให้แม่นางเฉียวฉู่ ก็จัดห้องนางไว้ใกล้ห้องนอนของเขา

แล้วนี่อะไร เขาสั่งให้บ่าวไพร่เอาสุรารสแรงมาดื่ม แต่นางกลับให้คนนำสุราหวานบ้าบออะไรมา ซ้ำยังอ้างว่าเพื่อรักษาสุขภาพของเขาเห็นเขาเป็นคนป่วยหรือไรกัน หรือตำแหน่งฮูหยินแม่ทัพไม่คู่ควรกับนาง ขนาดยอมให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่าเป็นสาวใช้ แม่ทัพใหญ่บันดาลโทสะจนยกมือทุบไปบนโต๊ะอย่างแรง จนทหารที่คอยรับใช้อยู่ใกล้ๆ ถึงกับสะดุ้งโหยง

“นางอยู่ที่ใด”

“นาง?” ทหารสองคนหันมามองหน้ากัน “หมายถึงแม่นางเฉียวฉู่หรือขอรับ?”

“ข้าหมายถึง...”

เอ่อ...ผู้หญิงคนนั้นชื่ออะไรนะ

“จ้าวจื่อรั่ว”

ทหารทั้งสองยังทำหน้างุนงงหนักกว่าเดิม ยิ่งทำให้แม่ทัพใหญ่โมโหเพิ่มขึ้นไปอีก เขาลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้เดินดุ่มๆ ไปยังเรือนทางปีกซ้ายของจวน จำได้ว่าตอนนางมาถึง เขาให้พ่อบ้านจัดที่พักให้ พ่อบ้านก็จัดเรือนปีกซ้ายทั้งที่เรือนของเขาอยู่ปีกขวา คนพวกนี้ก็อย่างไรกัน ช่างรนหาที่ตายโดยแท้ มีใครกันแยกห้องสามีภรรยาอยู่คนฟากของจวนเช่นนี้

แม่ทัพใหญ่เดินไปที่เรือนของนาง ทว่ายังไม่ทันพ้นประตูวงพระจันทร์ก็เห็นเจ้าตัวขนสีขาววิ่งมาชนขาจนมันเสียหลักเซไปทางอื่น เขาก้มมองเจ้า ‘แพะน้อย’ อายุน่าจะประมาณแค่สองเดือน ดูจากสายตาเอาเรื่องมันแล้วก็ทำให้เขาขมวดคิ้วไม่รู้ตัว

“เปาเป่า กลับมานี่”

เสียงหวานใสร้องเรียกปนหัวเราะทำให้ยามอาทิตย์อัสดงมีชีวิตชีวา เขาเงยหน้าขึ้นมองพลันสบตากับเจ้าของร่างเล็กที่เดินเร็วๆ มาทางเขา แววตากลมโตกระจ่างเบิกกว้างขึ้นดูคล้ายตกใจก่อนจะปรับอารมณ์วูบหนึ่งหลุบตาลง

“ท่านแม่ทัพ” จ้าวจื่อรั่วคารวะอย่างมีมารยาท “ท่านมาถึงเรือนของข้า มีเรื่องใดรึเจ้าคะ”

“จวนข้า ข้าจะไปที่ใดต้องรายงานเจ้ารึ”

จ้าวจื่อรั่วเงยหน้าขึ้น ไม่รู้ว่านางทำเรื่องใดผิดจึงทำให้เขาดูอารมณ์ร้ายนัก นางยังไม่ทันเอ่ยปากอธิบาย เจ้าแพะน้อยทำท่าจะวิ่งพุ่งเข้าใส่ท่านแม่ทัพ

“เปาเป่า!”

พูดยังไม่ทันขาดคำ เจ้าแพะน้อยสีขาวก็พุ่งเข้าใส่ จ้าวจื่อรั่วร้องอย่างตกใจ แต่กู้ตงหยางก้มลงหิ้วคอแพะน้อยขึ้นมาไว้ก่อน

‘เจ้านี้มันร้ายจริง!’

“เหตุใดมีแพะอยู่ในจวนได้”

“เป็นแพะจากโรงครัวเลี้ยงเอาน้ำนมเจ้าค่ะ” เสี่ยวฉู่ที่ถูกส่งมาเป็นสาวใช้รับใช้ฮูหยินรีบพูดขึ้น “เจ้าแพะน้อยตัวนี้ตั้งแต่ได้พบหน้าฮูหยินก็เดินตามไม่ยอมห่าง จนฮูหยินขอนำมันมาเลี้ยงไว้ดูเล่นเจ้าค่ะ”

ปกติบ่าวไพร่แทบไม่มีผู้ใดกล้าปริปากพูดกับเจ้านาย แต่ยามนี้เพื่อปกป้องฮูหยินจึงกล้าพูดขึ้น กู้ตงหยางประหลาดใจยิ่งนัก นางมาอยู่จวนเขาไม่นานกลับซื้อใจคนในจวนได้ เห็นทีว่าเขาจะประเมินสตรีสกุลจ้าวน้อยเกินไป

จ้าวจื่อรั่วย่อมไม่เข้าใจความคิดของกู้ตงหยาง นางพึ่งระลึกเสมอว่าตนเองเป็นเพียงผู้อาศัย จะทำสิ่งใดต้องเกรงใจเจ้าของบ้าน แม้แพะตัวนี้เป็นแพะของจวน แต่นางนำมาเลี้ยงที่เรือนของตน อาจทำให้เขาไม่พอใจได้ ก่อนที่เขาสั่งการใดออกมา นางจึงรีบเอ่ยปากสั่งเสี่ยวฉู่เสียก่อน

“รีบพาเปาเป่าไปเถิด วันนี้เล่นซนทั้งวันแล้ว”

“เจ้าค่ะ”

เสี่ยวฉู่รีบเข้าไปอุ้มเจ้าแพะน้อยออกไปทันที ทำให้ยามนี้ในเรือนของนางไม่มีบ่าวไพร่คนอื่นคอยรับใช้ เหลือเพียงนางและผู้เป็นเจ้าของจวนเท่านั้น

ยามตะวันพลบค่ำท้องฟ้าเป็นสีแดงเรื่อคล้ายย้อมแก้มนวลให้แดงปลั่ง ริมฝีปากบางขบเม้มจนเรียบตึงอย่างครุ่นคิด นางแต่งกายด้วยอาภรณ์สีเขียวใบบัว เรือนผมก็เกล้าอย่างเรียบง่าย แตกต่างจากเฉียวฉู่ราวฟ้ากับดิน ทว่าภาพที่เห็นเบื้องหน้ากลับให้ความรู้สึกอ่อนโยน สงบนิ่งและสบายใจ

“ท่านแม่ทัพ” จ้าวจื่อรั่วเรียกเสียงเบาด้วยยังไม่เข้าใจว่าเขาต้องการสิ่งใด “ท่านมาถึงเรือนข้ามีสิ่งใดหรือเจ้าคะ เหตุใดไม่ให้บ่าวไพร่มาเรียกข้าไปพบ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel