บทที่ 4
สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ...
อชิรญาน้ำตาริน ขณะล่ำลาคนรักที่กำลังจะขึ้นเครื่องบินในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า หญิงสาวไม่เคยแสดงความรักกับผู้กองนภพีท์อย่างประเจิดประเจ้อ
ทว่าในวันนี้หญิงสาวไม่อาจหักห้ามความเสียใจไว้ได้ เมื่อผู้กองนภพีท์บอกว่าต้องไปขึ้นเครื่องบินแล้ว หญิงสาวก็โผเข้าไปสวมกอดคนรักไว้แนบแน่น และผู้กองนภพีท์ก็มอบจุมพิตหวานฉ่ำให้กับหญิงสาวที่รัก สร้างความอิจฉาริษยาให้ก่อเกิดอยู่ในใจของมุกริน จนร่ำๆ อยากเข้าไปจับทั้งสองคนแยกออกจากกัน
“น้องพรีม พี่เมฆต้องไปขึ้นเครื่องแล้วนะครับ”
ผู้กองนภพีท์บอกคนรักหลังจากผละริมฝีปากออกแล้ว ขณะเดียวกันก็เช็ดน้ำตาที่เอ่อคลอเบ้าดวงตาคู่สวยให้ด้วยกริยาอ่อนโยน
“ไม่ต้องร้องนะครับคนดี อีกไม่กี่เดือนพี่เมฆก็จะกลับบ้านแล้ว”
“ค่ะพี่เมฆ น้องพรีมจะรอพี่เมฆกลับบ้านค่ะ”
อชิรญาสูดสะอื้น พยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้หลั่งรินออกมาให้ผู้กองนภพีท์เห็น ก่อให้เกิดความกังวลในตัวเธอก่อนเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่
ผู้กองนภพีท์คลี่ยิ้มออกมาได้ เมื่อยอดดวงใจหยุดร้องไห้ได้แล้ว หลังจากนั้นก็ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงหยิบกล่องกำมะหยี่ออกมาให้อชิรญาเห็น ก่อนจะหยิบแหวนเพชรวงงามออกจากกล่องกำมะหยี่ แล้วสวมเข้าไปบนนิ้วนางข้างซ้ายของยอดดวงใจ
“พี่เมฆขอหมั้นน้องพรีมไว้ด้วยแหวนวงนี้ก่อนนะครับ กลับมาถึงเมืองไทยเมื่อไร พี่เมฆจะไปสู่ขอน้องพรีมตามที่พี่เมฆสัญญาไว้นะครับ”
“ค่ะพี่เมฆ น้องพรีมจะรอพี่เมฆค่ะ รอเวลาที่จะได้เป็นภรรยาของพี่เมฆ รอเวลาที่เราจะได้อยู่ด้วยกันอีกครั้งและตลอดไป”
อชิรญาไม่ได้สนใจมองแหวนเพชรบนนิ้วนางของเธอ ในยามนี้หัวใจดวงน้อยปักหลักอยู่กับคนรักที่กำลังจะจากกันไกล
แต่ในขณะอชิรญาไม่ได้สนใจมอง ไม่ได้สนใจราคาค่างวดของแหวนเพชรวงงาม สองแม่ลูกกลับตาโต แอบสะกิดกันด้วยความอิจฉาริษยา
โดยเฉพาะมุกรินที่กำมือแน่น กัดฟันดังกรอดๆ ดวงตาลุกเป็นไฟทั้งอิจฉา ทั้งโกรธจัดที่อชิรญาได้รับแหวนเพชรราคาแพงจากผู้กองนภพีท์ ระดับอภิมหาเศรษฐีอย่างผู้กองนภพีท์แล้วคงไม่ซื้อแหวนเพชรราคาสี่-ห้าแสนให้คนรัก หากให้เดา เธอคิดว่าแหวนเพชรวงนี้คงมีราคาไม่ต่ำกว่าสองล้าน
‘โชคดีจริงๆ นะนังพรีม อีกไม่นานก็จะได้ครอบครองทั้งตัวผู้กองนภพีท์ ได้ทั้งสมบัตินับร้อยล้านของผู้กองไปนอนกกสบายเป็นสิบๆ ชาติ แต่มึงอย่าหวังว่าจะได้เป็นซินเดอเรลล่า กู! มุกริน! จะเป็นคนทำลายความสุขของมึงเอง’
ไม่ใช่แค่เพียงเค้นเสียงจ้องจะทำลายความสุขของอชิรญาเพียงเท่านั้น ทว่ามุกรินขบแค้นแผนการทำลายความสุขของอชิรญาไว้เรียบร้อยแล้ว
ผู้กองนภพีท์ประคองใบหน้าอันหมองเศร้าของยอดดวงใจไว้ในอุ้มมือ พร้อมกันนั้นก็กดจุมพิตเนิ่นนานเป็นการล่ำลาในครั้งสุดท้าย
“พี่เมฆไปก่อนนะครับน้องพรีม รอพี่เมฆกลับบ้าน รอพี่เมฆกลับมาสู่ขอน้องพรีมเป็นภรรยาของพี่เมฆ...พี่เมฆรักน้องพรีมครับ”
ผู้กองนภพีท์ตัดใจผละออกในที่สุด ดวงตาคมกริบทอดมองอชิรญาด้วยแววตาหวานซึ้ง ก่อนจะเดินไปขึ้นเครื่องบิน โดยไม่ได้หันมามองใบหน้าของยอดดวงใจ ด้วยไม่อยากเห็นหยาดน้ำตาอุ่น ซึ่งเขามั่นใจว่ากำลังหลั่นรินทั่วพวงแก้มขาวซีด
“น้องพรีมรักพี่เมฆค่ะ”
อชิรญาพึมพำตามไล่หลังคนรักที่เดินไปขึ้นเครื่องบินแล้ว หญิงสาวยืนร้องไห้เฝ้ามองจนกระทั่งคนรักเดินลับสายตาไปแล้ว จึงหมุนตัวเดินออกไปจากบริเวณดังกล่าว
และขณะกำลังเดินผ่านมุกริน อชิรญาก็ต้องสะดุ้งเฮือกขนหัวลุกพอง สัมผัสได้ถึงความหายนะที่มาพร้อมกับคำขู่ของอีกฝ่าย
“อีกไม่นานนังพรีม...อีกไม่นานฉันจะทำให้แกกลายเป็นนางฟ้าตกสวรรค์”
อชิรญาหน้าถอดสีซีดมือไม้สั่นเทา รีบเดินหนีก่อนจะได้ยินคำอาฆาตมาดร้ายไปมากกว่านี้
ในค่ำวันนั้น อชิรญานั่งรอบิดากลับมาจากตีกอล์ฟด้วยอาการกระวนกระวายใจ เธอต้องการปรึกษาและบอกบิดาเกี่ยวกับเรื่องการย้ายออกจากบ้านหลังนี้ พอเห็นบิดาเดินเข้ามาภายในบ้าน ก็รีบเดินตรงไปหาพร้อมกับเอ่ยเรียกท่านไว้ทันที
“คุณพ่อคะ น้องพรีม มีเรื่องจะปรึกษากับคุณพ่อคะ”
“น้องมุกกับน้าดาอยู่ไหนลูก”
อชิรญาแทบน้ำตารินกับคำถามของบิดา ความน้อยอกน้อยใจอัดแน่นจุกอยู่ทั่วอก ลมหายใจเข้าออกของบิดามีแค่เพียงแม่ลูกคู่นี้เท่านั้น
“น้องพรีมไม่ทราบค่ะ”
หญิงสาวนิ่งเงียบไปนานหลายนาที กว่าจะเอ่ยตอบบิดาออกมาได้ และคำตอบอันไม่น่าโสภาของเธอ เรียกความไม่พอใจได้จากบิดาในทันทีเช่นเดียวกัน
“อยู่บ้านเดียวกันยังไงไม่รู้ว่าน้องกับแม่หายไปไหน”
‘คุณมธุดาไม่ใช่แม่ของน้องพรีม’
อชิรญาตะโกนตอบในใจ พยายามกล้ำกลืนก้อนสะอื้นของความเสียใจน้อยใจไว้ข้างในกาย ก่อนจะเอ่ยตอบบิดาเสียงแผ่วเบาติดสั่นเครือ
“น้องพรีมไม่ทราบว่าน้องมุกกับน้าดาหายไปไหน บางทีพวกเขาอาจจะกำลังว่ายน้ำอยู่ก็ได้ค่ะ น้องมุกชอบว่ายน้ำตอนค่ำๆ แบบนี้”
ได้ยินลูกสาวคนโตตอบเช่นนั้น ผู้เป็นพ่อก็ทำท่าจะเดินไปหาลูกสาวคนเล็กที่รักหนักหนา หากไม่ถูกอชิรญาจับมือไว้เสียก่อน
“คุณพ่อคะ น้องพรีมขอเวลาปรึกษากับคุณพ่อสักครู่ได้ไหมคะ”
“มีเรื่องอะไร” คุณมรุเดชถามลูกสาวเสียงห้วนๆ
“คือน้องมุกอยากย้ายไปอยู่คอนโดของพี่เมฆนะคะ”
คำตอบของลูกสาวสร้างความแปลกใจให้กับผู้เป็นพ่ออย่างมาก แต่กระนั้นก็ไม่ได้เอ่ยคัดค้านความต้องการของลูกสาว นอกจากจะออกปากเอ่ยถามตามหน้าที่
“จะย้ายไปอยู่เมื่อไร”
“เย็นนี้ค่ะคุณพ่อ”
“จะเข้าไปอยู่ได้ยังไง ผู้กองเมฆให้กุญแจคอนโดไว้แล้วหรือ”
“ค่ะคุณพ่อ ผู้กองให้กุญแจคอนโดไว้แล้วค่ะ และน้องพรีมสามารถเข้าไปอยู่คอนโดได้ตลอดเวลา เพราะคอนโดนี้เป็นชื่อของน้องพรีมค่ะ”
อชิรญาเอ่ยบอกบิดา โดยไม่รู้เลยว่าคำตอบของเธอลอยเข้ากระทบหูของคนที่เพิ่งขึ้นจากสระว่ายน้ำ และเมื่อได้ยินว่าคอนโดหรูหราที่ตนเองสืบทราบราคามาว่ามีมูลค่าถึงแปดล้าน ได้ตกเป็นของอชิรญาแล้ว ยิ่งเพิ่มความอิจฉาริษยาให้มากกว่าที่เป็นอยู่
ผู้เป็นบิดาพยักหน้ารับคำ ก่อนจะเอ่ยตอบให้อชิรญาคลี่ยิ้มออกมาได้
“ตามใจ ถ้าอยากออกไปอยู่คอนโดก็ตามใจ พ่อคงห้ามน้องพรีมไม่ได้ แต่พ่อขอร้องว่าช่วงไหนที่พ่อไม่อยู่บ้าน พ่ออยากให้น้องพรีมกลับมานอนที่บ้าน มาอยู่เป็นเพื่อนน้องมุกและน้าดา”
“ค่ะคุณพ่อ” อชิรญารับคำเสียงแผ่วเบา บิดาไม่เคยทิ้งความห่วงใยที่มีให้กับสองแม่ลูกคู่นี้ “น้องพรีมไปจัดกระเป๋าก่อนนะคะคุณพ่อ”
“ไปเถอะ พ่อจะไปหาน้องมุกเหมือนกัน” ผู้เป็นบิดาเดินจากไปก่อนจะทันพูดจบด้วยซ้ำไป
“ถ้าคนที่ป่วยเป็นโรคหัวใจคือน้องพรีม คุณพ่อจะเป็นห่วงน้องพรีมไหมคะ และถ้าหากคุณพ่อรู้ว่าจริงๆ แล้วน้องมุกไม่ได้เจ็บป่วยอะไรเลย คุณพ่อจะเสียใจไหมที่ถูกลูกสาวที่รักหลอกมานานหลายปี”
อชิรญาพึมพำถามไล่หลังบิดา มือเล็กยกขึ้นปาดน้ำตาออกจากดวงตากลมโตแดงก่ำ สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เพื่อให้กำลังใจกับตัวเอง ก่อนจะเดินขึ้นไปบนห้องนอน เพื่อเก็บเสื้อผ้าเตรียมออกไปใช้ชีวิตเพียงลำพังโดยไม่มีสายตาอิจฉาริษยาของงสองแม่ลูกคอยตามหลอกหลอนในทุกนาที
อชิรญาใช้เวลานานหลายชั่วโมงในการเก็บข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว เกือบเที่ยงคืนหญิงสาวก็ลากกระเป๋าเดินทางสองใบใหญ่ลงมาจากห้องนอนตรงไปยังรถยนต์คันเล็กของตัวเอง
เมื่อเข้ามานั่งในรถยนต์แล้ว หญิงสาวก็กดกระจกรถลง พร้อมกับเงยหน้ามองไปยังห้องนอนของบิดาด้วยน้ำตาคลอเบ้า
“คุณพ่อไม่คิดจะลงมาส่งน้องพรีมเลยหรือคะ”
อชิรญาเอ่ยถามเสียงสั่น ก่อนจะตัดใจขับรถออกไปจากบ้าน โดยไม่รู้เลยว่ามีสายตาของสองแม่ลูกคอยสาปแช่งและยิ้มเยาะกับความตายที่กำลังคืบคลานเข้ามาเยือนมารหัวใจของมุกริน
เพราะความเสียใจ น้อยใจที่ไม่ได้รับการเหลียวแลจากบิดา กอปรกับอยากกลับไปพักผ่อนเต็มที หลังจากอ่อนล้ามาทั้งวัน อชิรญาจึงขับรถบนทางด่วนตรงไปยังคอนโดของผู้กองนภพีท์ด้วยความเร็วสูง และเมื่อถึงทางโค้งหญิงสาวชะลอความเร็วลงพร้อมกับเหยียบเบรกรถ แต่แล้ว...ก็ต้องตกใจหน้าซีดไร้สีเลือด เมื่อรู้ว่าเบรกรถไม่ทำงาน!!!
“กรี๊ดดดด!!!”
อชิรญาหวีดเสียงร้องลั่น เมื่อไม่อาจควบคุมรถได้อีกต่อไป
โครม!!!
“กรี๊ดดดด!!!”
เสียงรถยนต์กระแทกกับขอบปูนบนทางด่วนดังสนั่นหวั่นไหว ตามด้วยเสียงกรีดร้องของอชิรญา ความเจ็บปวดหลั่งไหลเข้าทั่วกาย และก่อนสติสุดท้ายจะดับวูบ หญิงสาวก็นึกถึงเจ้าหัวใจที่เธออาจจะไม่ได้เห็นหน้าเขาอีกต่อไป
“น้องพรีม...รัก...พี่เมฆ...”