บทที่ 7 กดให้ยอม
บทที่ 7 กดให้ยอม
ภายในโกดังส่งอาวุธขนาดเล็ก ที่ที่ยังสามารถเล็ดลอดสายตาคนขององค์กรตะวันออกไปได้ เพราะมันถูกอำพรางไว้ด้วยชื่อของโกดังเก็บยาและเวชภัณฑ์
ร่างสูงใหญ่ของแฟรงกี้เดินวนไปวนมาอย่างหงุดหงิด เพราะเขาไม่สามารถติดต่อกับเบลล่าแฟนสาวได้ ข่าวของหญิงสาวที่ตกไปเป็นสะพานเชื่อมอำนาจระหว่างสภาสูงกับองค์กรตะวันออก มันทำให้ความหวังของพ่อค้าอาวุธรายเล็กอย่างแฟรงกี้เหมือนถูกเท้าของใครบางคนเหยียบขยี้
“ไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าเบลล่าจะกล้าหักหลังฉัน หล่อนเป็นผู้หญิงที่ฉันหวังอยากให้มาเป็นเมียแท้ ๆ แต่หล่อนกลับไม่รักดีไปคว้าเอาไอ้หอกที่เพิ่งจะได้ตำแหน่งหัวหน้า ฉันล่ะอยากเห็นหน้าเธอเหลือเกินเบลล่า ถ้าวันหนึ่งไอ้อเล็กซ์มันถูกโค่นลงมา เธอจะเป็นยังไง”
“แต่ตามรายงานเห็นว่าทางนั้นยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการนะครับเจ้านาย”
“ประกาศเรื่องอะไร?”
“ประกาศรับรองคุณหนูเบลล่าเป็นภรรยาไงครับ ตอนนี้ทุกฝ่ายก็กำลังตั้งข้อสงสัยว่าเพราะอะไรถึงยังไม่ยอมประกาศหรือแจ้งสถานะให้ชัดเจน”
“คนอย่างอเล็กซ์ไม่มีทางทำอะไรไม่มีเหตุผลแน่ พวกหยวนไม่ใช่พวกไม่มีสมอง ถ้าถึงขั้นกล้าเลือกเอาเบลล่าลูกสาวคนโตของประธานสภาสูงไปเป็นเมีย นั่นแปลว่ามันต้องเห็นความสำคัญอะไรบางอย่างในตัวของเธอ” แฟรงกี้พึมพำขณะคิดวิเคราะห์
“ติดต่อเบลล่าได้หรือยัง ไปเช็กมาหรือยังว่าทำไมฉันติดต่อเบลล่าไม่ได้เลย หรือเธอจงใจปิดเครื่องหนีฉันนะเบล”
“คนของเราส่งไอ้นี่มาให้ครับ”
ลูกน้องของแฟรงกี้ยื่นสมาร์ตโฟนเครื่องหนึ่งที่มีสภาพแตกยับเยินให้ ชายหนุ่มรับมาไว้ในมือสายตาที่จ้องมองกร้าวแข็งด้วยความโกรธ มือถือเครื่องนี้เป็นเครื่องมือสื่อสารเดียวที่เขาสามารถติดต่อเบลล่าได้อย่างปลอดภัย เขาหันไปมองหน้าลูกน้องเพื่อรอคำอธิบาย
“คืนที่อเล็กซ์มารับตัวคุณหนูเบลล่า มันก็ทิ้งไอ้นี่ไว้ที่นั่นครับ”
“ไอ้บัดซบ มึงจะฉลาดเกินไปแล้ว นี่แสดงว่ามันจะต้องรู้ว่าเบลล่าคบหาอยู่กับกู ดูท่ากูคงจะต้องหาเรื่องปลีกตัวออกห่างเบลล่าสักพัก ไม่อย่างนั้นเรื่องมาถึงตัวกูแน่”
แต่ยังไม่ทันที่แฟรงกี้จะพูดจบ ก็มีแสงไฟจากหน้ารถสาดส่องเข้ามาภายในโกดังหลายคัน มันคือรถเอสยูวีสีดำ ซึ่งไม่ทราบว่าใครเป็นคนขับ และจุดประสงค์ของการมาเยือนที่นี่คือเรื่องใด
แต่เมื่อชายร่างสูงใหญ่ผิวดำก้าวเท้าลงมาจากรถ แฟรงกี้ก็ขมวดคิ้วแน่นก่อนตะโกนถามออกไป
“แกเป็นใคร? ที่นี่มันพื้นที่ส่วนบุคคล แกไม่รู้เหรอ..ว่าคนนอกห้ามเข้า!!”
“ก็เพราะรู้ยังไงล่ะครับ ผมถึงได้เข้ามาหาคุณ ใช่คุณแฟรงกี้หรือเปล่าครับ”
แฟรงกี้ลดแว่นกันแดดลง ก่อนจะใช้สายตาเพ่งไปที่ชายรูปร่างสูงใหญ่ อย่างพินิจพิเคราะห์อีกครั้ง แม้ว่าภายนอกรูปร่างของเขาจะดูน่าหวั่นเกรง แต่ทว่า…ชายผู้นี้กลับมีรอยยิ้มประดับหน้าอยู่ตลอดเวลา และการแต่งกายก็ยังดูเรียบร้อย แตกต่างกับคนอื่น ๆ ที่เดินตามลงมาภายหลัง
“หน้าตาแกไม่ใช่คนที่นี่ แกเป็นใครและมาที่นี่ทำไม เตือนไว้ก่อนนะ อย่าคิดโกหกเป็นอันขาด ถ้ายังอยากเอาชีวิตออกไปจากที่นี่” แฟรงกี้วางมาดและใช้น้ำเสียงข่มขู่
ชายหนุ่มยังคงยิ้มให้อย่างละเมียดละไม และตัวเขาที่ไม่ได้ตอบคำถามอะไรก็ค่อย ๆ ดึงถุงมือหนังออกมาจากทางด้านหลังกางเกงที่สวมอยู่ เขาบรรจงสวมถุงมืออย่างใจเย็นช้า ๆ จนกระทั่งเสร็จ ใบหน้าที่เปื้อนยิ้มก็ค่อย ๆ หุบลงและกลับกลายเป็นเหี้ยม อีกทั้งแววตาอำมหิตที่มองมาพร้อมกับน้ำเสียงเยือกเย็นก็เอ่ยขึ้น
“ผมชื่อว่า..บองตูครับ สรุปแบบสั้น ๆ เลยละกัน ผมมาที่นี่เพื่อทำให้คุณรู้จักเจียมตัว ว่าต่อไปอย่าได้เสนอหน้าเข้าใกล้บ้านนายหญิงของพวกเราอีก”
รอยยิ้มอวดดีของแฟรงกี้ค่อย ๆ หลุบหาย เมื่อแขกที่มาเยือนกลายเป็นผู้คุกคาม เวลาเพียงไม่ถึงครึ่งชั่วโมงบองตูก็ลงมือจัดการ สั่งสอนแฟรงกี้เสียจนหมดสภาพ และก่อนที่เขาจะจากไป ยังคงย้ำเตือนให้แฟรงกี้รู้ตัวว่าเขาไม่ควรข้องเกี่ยวกับผู้หญิงที่กำลังจะมาเป็นนายหญิงของสมาคมตะวันออกอีก
จบงานเยี่ยมบ้านแบบฉบับฝ่ายปกครองบองตู!!
…………
หนังท้องตึง หนังตาก็หย่อน
เมื่อเข็มนาฬิกาเดินเข้าสู่ช่วงบ่ายของวัน เบลล่าก็ค่อย ๆ โน้มตัวฟุบลงไปบนโต๊ะและเผลอหลับไปในที่สุด จนกระทั่งเสียงหนึ่งดังขึ้น
ปึง!!
ร่างเล็กสะดุ้งตื่นตกใจขึ้น เธอหันหน้าไปทางต้นเสียง ก็พบว่าหน้าต่างทางด้านหลัง ถูกลมแรงพัดจนมันกระแทกเข้าชนกับผนังห้อง เมื่อมองลอดออกไปนอกหน้าต่าง ก็เห็นลมฝนกำลังตั้งเค้า เมฆดำทะมึนค่อย ๆ เคลื่อนจนมันเริ่มครึ้มไปทั้งแผ่นฟ้า
“แล้วกัน ฝนมาได้ไงเนี่ย!! ตายแล้วเอกสารของฉัน ไม่นะ”
ร่างเล็กดีดตัวขึ้น รีบวิ่งไปไล่ปิดหน้าต่างทีละบาน แต่ก็ยังไม่ทันอยู่ดีเพราะลมฝนหอบใหญ่โยนตัวเข้ามาจนกระทั่งแขนเล็กของหญิงสาวไม่สามารถต้านทานเอาไว้ได้ เบลล่าหลับตาแน่นในขณะที่ลมกำลังตีดันเข้ามา สองแขนเรียวเล็กพยายามออกแรงจนเกร็งสั่น เธอไม่สามารถดันบานหน้าต่างออกไปเพื่อปิด
“ว้าย ทำไมลมแรงแบบนี้”
เธอกรีดร้องขึ้นเพราะไม่สามารถสู้กับลมแรงฝนได้ แต่ก่อนที่จะยอมแพ้ปล่อยหน้าต่างบานนั้นไว้ตามเดิม กลับมีท่อนแขนของใครบางคนยื่นมา จากด้านหลัง ก่อนที่มือหนาจะเอื้อมผลักบานหน้าต่างให้ปิดลง
ปึง!!
หญิงสาวรีบหมุนตัวกลับมามองด้วยความตกใจ จึงได้รู้ว่าตัวเองตกอยู่ในกรงแขนของอเล็กซ์แล้ว เขาใช้แขนทั้งสองข้างยันบานหน้าต่างเอาไว้ ขณะที่ดวงตาคมกริบของเขายังคงจับจ้องมายังใบหน้าสวยหวาน
“มีปัญญาแค่นี้เองเหรอ? แรงก็มีแค่นี้ ใช้ทำงานไม่กี่ชั่วโมงก็เอาแต่หลับ แบบนี้มันจะคุ้มค่าแรงที่ต้องจ่ายไปได้ยังไง”
ใบหน้าของทั้งคู่ที่ห่างกันเพียงคืบ ทำให้ใบหน้าหวานที่ชื้นไปด้วยไอฝนรับรู้ได้ถึงไอร้อนจากลมหายใจของอีกฝ่าย เบลล่าที่กำลังจะเถียงได้แต่อ้าปากค้าง เมื่อมองสบไปที่สายตาแกมตำหนิของว่าที่สามี
“รู้ไหม..ว่าเอกสารพวกนั้นมันสำคัญแค่ไหน?”
“………..”
“หึ…ไม่ต้องตอบหรอก ดูหน้าก็รู้แล้ว ผู้หญิงสมองทึบอย่างเธอจะเข้าใจเรื่องละเอียดอ่อนพวกนี้ได้ยังไง”
“ฉันไม่ใช่คนสมองทึบ เพราะถ้าฉันเป็นแบบนั้นก็คงจะดี อย่างน้อยก็ไม่ต้องทุกข์ใจที่ต้องแต่งงานกับคุณ”
เบลล่าเม้มปากแน่น เถียงออกไปอย่างไม่หลบสายตา
“แปลกนะ เธอกล้าที่จะเถียงฉัน ผิดกับไอ้พ่อค้าอาวุธกระจอกนั่น เห็นแทบจะระทวย เออออกับมันไปหมดเสียทุกอย่าง!!”
เบลล่าเลิกคิ้วสูงด้วยความตกใจ จากที่ในทีแรกเธอมัวระแวง กลัวว่าแฟนหนุ่มจะเกิดเรื่องเพราะไปตามหาเธอที่บ้าน แต่กลายเป็นว่าชายตรงหน้ากลับเป็นคนสอดมือเข้ามา
มันจะมากเกินไปแล้วนะ
“นี่คุณ…ตามสืบเรื่องของฉันอย่างนั้นเหรอ มันจะมากเกินไปแล้วนะ คุณมีสิทธิ์อะไรมายุ่งเรื่องส่วนตัวของฉัน นี่คุณทำอะไรแฟรงกี้หรือเปล่า?”
อเล็กซ์มองหญิงสาวด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก รู้เพียงอย่างเดียวว่าแขนทั้งสองข้างของเขายังไม่ยอมลดระดับลง มันเหมือนสัตว์ร้ายที่กำลังกำกับความเป็นไปของเหยื่อที่อ่อนแอกว่า หญิงสาวก้มหน้าลงเพียงครู่เดียวแล้วรีบเงยขึ้นก่อนจะตะเบ็งเสียงใส่หน้าเขา
“คุณมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย คุณไปรังแกแฟรงกี้ทำไม!!”
“เบลล่า ชอย เธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่กล้าตะคอกใส่ฉัน จะเอายังไงดีนะ เธอถึงจะจำได้..ว่าฉันไม่ใช่ผู้ชายหน้าโง่ และไม่ใช่คนที่จะยอมให้ผู้หญิงหน้าไหนมาข่มเหงได้”
“ฉัน ก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่จะยอมให้ใครหน้าไหนมาข่มเหงได้เหมือนกันและฉันไม่กลัวคุณหรอกนะ อย่าคิดว่าฉันจะยอมให้คุณใช้วิธีอันธพาลแบบนี้มากดขี่กันได้อยู่เรื่อย ๆ”
“ถ้าอย่างนั้นก็มาลองดูกัน ว่าฉันจะสามารถกดเธอให้ยอมได้ในกี่ท่า”
“ห๊ะ..”
ชายหนุ่มไม่ได้ตอบอะไรเพิ่ม แต่ใช้แขนทั้งสองข้างรวบเอาร่างของหญิงสาวเข้ามาไว้ในอ้อมกอดอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะใช้ฝ่ามือสอดเข้าไปใต้ท้ายทอยเล็ก แล้วบีบเข้าอย่างแรงเพื่อบังคับให้ใบหน้าของเธอแหงนขึ้น ดวงตากลมโตเบิกกว้างเมื่อเห็นใบหน้าของอเล็กซ์โน้มต่ำลงมา พร้อมกับบดจูบอย่างรุนแรงหนักหน่วง
ปฏิกิริยาแรกหญิงสาวยกแขนขึ้นมาดันเข้าที่อกกว้างของชายหนุ่ม เธอจำได้ว่าใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี แต่ก็ยังไม่สามารถพาตัวเองออกมาพ้นจากอ้อมกอดของเขา ร่างเล็กดิ้นขลุกขลักหาทางที่จะพาตัวเองออกมาให้ได้ แต่ในท้ายที่สุดเธอก็ยังคงถูกปลายลิ้นร้อนสาก ดูดดึงเอาสติของตนเองให้หมุนค้างและแทบจะหลุดปลิวออกไปจากร่าง