บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 สวัสดี ยัยตัวแสบ

บทที่ 1 สวัสดี ยัยตัวแสบ

ปัจจุบัน

แสงไฟที่ลุกท่วมพร้อมกับไอความร้อนเมื่อเปลวเพลิงโหมกระพือลุกโชติช่วงขึ้น มันคือสัญญาณของการเปิดหน้าประวัติศาสตร์การปกครองครั้งใหม่ขององค์กรตะวันออก

อเล็กซ์ หยวน ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำหรือที่เรียกว่าคลื่นลูกใหม่เขาขึ้นมาแทนที่..แบรี่ หยวน ผู้เป็นบิดา แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะได้ครอบครองอำนาจโดยดุษฎี เพราะตามกฎเขายังคงจะต้องทำให้ศูนย์รวมอำนาจรวมอยู่ในมือให้ได้ และสิ่งเดียวที่ยังคงเล็ดลอด นั่นก็คืออำนาจของสภาสูง อเล็กซ์ต้องการเก็บทุกอย่างเพื่อไม่ให้เจสันกลับมาช่วงชิงได้อีก ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วเขาเองก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่า…

จะไม่มีใครกลับมาที่นี่อีก…แม้แต่คนเดียว!!

“นายใหญ่ครับ”

เสียงเรียกของลูกน้องที่วิ่งปรี่เข้ามา เมื่อเห็นแสงไฟสีส้มที่เกิดจากการที่ผู้เป็นนายใหญ่ กำลังสั่งให้ลูกน้องเผาสมบัติบางชิ้นที่เคยเป็นของแบรี่ทิ้ง และเพราะความแตกตื่นของลูกน้องที่วิ่งเข้ามา ชวนให้ร่างสูงหันมาจ้องด้วยความสงสัย

“พวกแก..จะแตกตื่นกันทำไม”

“เปล่าครับ พอดีมีรายงานด่วนมาจากเขตชายแดน คนของสภาสูงกำลังส่งตัว… ส่งตัว คนสำคัญออกไปจากสภาเพื่อจะข้ามไปยังเขตปกครองตนเองครับ”

น้ำเสียงตื่นตระหนกของลูกน้อง ซึ่งฟังดูก็รู้ว่าคนที่ชายหนุ่มกำลังรายงาน จะต้องเป็นคนสำคัญแน่ที่นั่งอยู่ในรถคันนั้น และขบวนที่กำลังจะออกจากเขตปกครอง ต้องเป็นคนที่เดือดร้อนที่สุดกับการขึ้นครองอำนาจของคนที่ไม่มีกองหลังหนุนอย่างเขา จะเป็นใครอื่นไปไม่ได้ นอกเสียจาก หลักประกันคนสำคัญ!!

“จะทำวิธีไหนก็แล้วแต่ แต่ไม่ว่าจะยังไง ฉันก็ต้องได้คนของสภาสูงกลับมาที่นี่ และจำใส่หัวพวกแกเอาไว้ ห้ามให้บุบสลายแม้แต่นิดเดียว” อเล็กซ์ขบกรามแน่นจนขึ้นเป็นสันนูน สั่งเสียงกร้าวสั่งออกไป

“ครับนาย” ลูกน้องคนเดิมคำนับรับคำสั่งแล้วรีบวิ่งผละออกไปทันที

ดวงตาแข็งกร้าวของเขายังคงมองไปยังเปลวไฟกองนั้น ไม่มีอะไรจะขัดขวางการขึ้นครองของเขาได้อีกต่อไป เพราะแม้แต่แบรี่เมื่อยกตำแหน่งหัวหน้าองค์กรตะวันออกให้ ก็ยังไม่กล้าที่จะยืนอยู่ในแผ่นดินของตัวเองนาน แบรี่พารสรินทร์เดินทางท่องเที่ยวรอบโลก เพื่อหวังเยียวยาบาดแผลในจิตใจผู้เป็นภรรยา เพราะเหตุการณ์ที่ผ่านมาครั้งนั้นทำให้ทุกคนในครอบครัวไม่สามารถเรียกตัวเองว่าครอบครัวได้อีก

ถึงอย่างนั้น มันก็ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว

นอกเขตตะวันออก 21:11 นาฬิกา

รถยนต์ที่กำลังวิ่งออกจากเขตด้วยความเร็วสูง เหมือนกับว่ากำลังหลบหนีจากบางสิ่ง ไม่ใช่เพียงแค่คนที่ทำหน้าที่เป็นสารถี แต่ยังรวมไปถึงหญิงสาวที่นั่งอยู่ภายในรถคันนั้นด้วย เบลล่า ชอย..หญิงสาวผู้เป็นเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลเมล็ดวอลนัท และดวงตาของเธอก็เป็นสีเดียวกัน มันดูเปล่งประกายเมื่อต้องแสงแดดและดูโศกเศร้าเมื่ออยู่ในเงามืด

เธอไม่ต้องการที่จะถูกใช้เป็นเครื่องต่อรองของบิดา และมารดาของเธอเองก็หวังอยากให้ลูกสาวได้มีชีวิตเหมือนคนธรรมดาทั่วไป

เมื่ออำนาจของเขตปกครองตะวันออกเปลี่ยนมือ ซึ่งครั้งหนึ่งเธอเองก็เคยเกือบตกเป็นเครื่องมือเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างสภาสูงกับองค์กรตะวันออก ด้วยเพราะกฎการเชื่อมอำนาจที่ค่อนข้างเข้มงวด บุตรสาวเพียงคนเดียวของผู้ปกครองสภาสูงจำเป็นต้องสมรสเพื่อความเป็นปึกแผ่นของอำนาจ แต่ผู้หญิงที่รักอิสระและไม่เคยชื่นชอบเรื่องเสี่ยงอันตราย จึงไม่ปรารถนาที่จะถูกใช้เป็นเครื่องมือ

และที่ร้ายไปกว่านั้น… เธอไม่ได้ชื่นชอบอเล็กซ์แม้แต่น้อย

หัวใจของเธอเป็นของเจสัน ผู้ชายที่แสนอ่อนโยน อบอุ่น… แต่โชคชะตาไม่ได้กำหนดให้เธอได้เป็นคู่ชีวิตของเขา

“เร็วอีกหน่อยได้ไหม ขอแค่ข้ามเขตออกไปได้ ฉันก็จะสามารถขอความช่วยเหลือจากเขาได้”

“ตอนนี้ก็เร็วที่สุดแล้วครับ ถ้าขืนมีอะไรเกิดขึ้นกับคุณ พวกเราจะยิ่งเดือดร้อน”

“แต่คุณพ่อคงจะไม่มีทางยอมปล่อยฉันแน่ ถ้าเกิดฉันถูกจับกลับไปได้ คุณแม่เองก็คงจะขวางคุณพ่อไว้ได้อีกไม่นาน แล้วแบบนี้ถ้าฉันจะต้องถูกจับกลับไปเพื่อแต่งงานกับผู้ชายคนนั้น ฉันยอมเป็นหมาที่ตายอยู่ข้างถนนดีกว่า!!”

เธอตั้งใจอย่างแน่วแน่ และไม่ว่ายังไงก็ไม่มีทางเปลี่ยนความคิดของบิดาผู้หวังสูงเกินไป ที่คิดจะใช้เธอครอบงำอเล็กซ์ ซึ่งใคร ๆ ต่างก็รู้ดีว่าเขาไม่มีทางที่จะยินยอมให้ใครมาคุมบังเหียนอำนาจของเขาได้อย่างเด็ดขาด

เพียงไม่กี่เดือนหลังจากที่บุตรชายคนรองของตระกูลหยวนขึ้นรับอำนาจ เขากลายเป็นคนที่อันตรายไม่น้อยไปกว่าคลอฟท์แห่งตะวันตก แต่เรื่องที่ยังพอจะมองว่าดีกว่าเล็กน้อย นั่นก็คือคลอฟท์กำลังจะได้เป็นพ่อคน…

หัวใจของเบลล่าชอกช้ำเหลือเกิน เธอได้แต่กรีดร้องตีอกชกหัวตัวเองอยู่ภายในใจกับโชคชะตาที่เธอไม่มีสิทธิ์เลือกได้เลยสักครั้งในชีวิตของเธอเอง

“ประตูข้ามฝั่งอยู่นั่นแล้วครับ เดี๋ยว!!”

“มีอะไรหรือ ?”

เบลล่าพยายามเพ่งสายตามองไปเบื้องหน้า แต่ด้วยความที่ฟิล์มรถค่อนข้างทึบ ทำให้เธอมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้ไม่ถนัดตา

“มีรถบรรทุก..แต่ทำไมถึงจอดอยู่อย่างนั้น คุณหนูรออยู่ที่นี่ก่อนนะครับ”

คนขับรถจอดรถลงข้างทาง และก้าวลงจากรถแล้วรีบวิ่งไปที่รถบรรทุกคันนั้นทันที เบลล่าใจจดใจจ่อรอคนขับรถกลับมา เธอได้ยินเสียงคนขับรถของเธอ ตะโกนโวยวายเพื่อไล่ให้รถคันนั้นหลีกทาง แต่เพียงแค่ไม่กี่วินาที กลับได้ยินเสียงปืนดังสนั่นขึ้น

ปัง!!

ร่างของคนขับรถร่วงลงไปกองกับพื้น ในวินาทีนั้นหัวใจของหญิงสาวเต้นระรัว อาการตื่นตระหนกฉายให้เห็นบนใบหน้างามงด ร่างทั้งร่างสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว ดวงตาสุกสกาวสั่นระริก จดจ้องไปเบื้องหน้า และเห็นได้ว่ามีคนกำลังเดินเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ ในเงามืดนั้นเธอมองเห็นผู้ชายรูปร่างสูง เดินฝ่าแสงจันทร์ที่กำลังทอแสงลงมาทาบทุกสิ่งบนพื้นโลก

แสงของมันฉายทับรูปร่างสูงใหญ่ของชายคนนั้นให้เด่นสง่า แค่เพียงอึดใจเดียวร่างสูงก็มาหยุดยืนอยู่ตรงฝั่งประตูที่เธอนั่งอยู่ ใบหน้าหล่อเหลาพร้อมกับแววตาอำมหิตของเขาที่จ้องเข้ามา ทำให้เบลล่ารู้ได้ทันทีว่าเขาคือ..อเล็กซ์

ชายหนุ่มย่อกายลงเพื่อเพ่งดูคนที่อยู่ภายในรถ หัวใจของเบลล่าแทบจะหยุดเต้น เมื่อเห็นว่ามือข้างหนึ่งของเขาเอื้อมมาเปิดประตูรถก่อนจะกระชากให้มันเปิดอ้าอย่างแรง

กรี๊ดดดดด

“สวัสดี ยัยตัวแสบ!! กล้าขัดคำสั่งพ่อของเธอเป็นด้วยเหรอเนี่ย แบบนี้การค้าของฉันจะล่มเอาน่ะสิ”

“หยวน ตระกูลหยวนเป็นพวกที่ไม่เอาไหน นอกจากแบรี่ คนอื่นก็ไม่มีท่าทีว่าจะปกครองเขตให้สงบได้ ยิ่งไม่ต้องนับรวมถึงลูกชายคนรองด้วยซ้ำ แกกล้ายิงคนของฉันได้ยังไง ?”

ร่างเล็กที่กำลังสั่นเทิ้มไปด้วยความกลัว ตวาดออกไป

“คนของฉัน ?… แต่จำได้ว่าเมื่อครู่มันบอกให้ฉันรู้ว่าเธออยู่ในรถคันนี้นะ เสียดาย..แค่โดนเป่าหัวนิดหน่อย ดันใจเสาะตายไปซะแล้ว ไม่งั้นคงลากคอมาถามให้เคลียร์ ว่าใช่คนของเธอจริงหรือเปล่า!!”

อเล็กซ์เบือนหน้าไปทางชายที่นอนแน่นิ่งอีกฝั่ง ก่อนจะหันมาสนทนากับคนในรถ

เบลล่าสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ฟัง และไม่อยากจะเชื่อว่าเมื่อมาอยู่ต่อหน้าคนที่ทรงอิทธิพลที่สุดในเขตการปกครอง แม้แต่คนเก่าคนแก่ที่เคยคิดว่าไว้ใจได้ ก็ยังเอาความลับของเธอไปขาย หญิงสาวหวาดกลัวตัวสั่นนั่งอยู่ด้านในสุดของรถ คิดในใจเพียงอย่างเดียวว่า..ต่อให้ต้องตายก็จะไม่ยอมลงจากรถเด็ดขาด

“ถอยไปซะ ฉันจะไม่มีวันไปไหนกับพวกคุณเด็ดขาด”

“ไม่เป็นไร ไม่จำเป็นจะต้องลงจากรถก็ได้ เพราะถึงยังไงฉันก็ไม่เคยคิดจะขับรถให้ผู้หญิงคนไหนนั่งอยู่แล้ว เอาแบบนี้ก็แล้วกัน”

อเล็กซ์ล้วงเอาโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงออกมา ก่อนจะกดเบอร์ที่ตั้งไว้เป็นเบอร์ด่วน แล้วพูดเสียงเรียบออกไป

“เหยื่อไม่เป็นอะไร เอารถมารับได้”

“ฉันบอกแล้วไงว่าจะไม่ไปไหนกับพวกคุณทั้งนั้น ฉันจะกลับบ้าน”

“เสียใจด้วยนะคุณหนู คุณพ่อของเธอยืนยันแล้วว่า ก่อนพิธีแต่งงานจะเริ่ม เขายอมให้ฉันสอนมารยาทการเป็นภรรยาที่ดี เพื่อไม่ให้เธอทำตัวให้เขาต้องขายหน้าในวันงาน”

เบลล่ารู้ได้ในทันทีว่ามารดาของตนไม่สามารถขวางทางบิดาได้อีกแล้ว และนั่นก็อาจจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับผู้เป็นมารดาแน่ ทั้งที่เธอปรารถนาเพียงแค่จะเป็นผู้หญิงธรรมดา ใช้ชีวิตเรียบง่ายไปจนกระทั่งวันตาย ไม่อยากจะเกี่ยวพันกับเรื่องร้ายแรงซึ่งหากินบนความทุกข์ยากของคนอื่น เมื่อคิดดังนั้นหากไร้ซึ่งที่พึ่งพาแล้ว เธอก็ต้องหยัดยืนเอาตัวรอดด้วยตัวของเธอเองให้จงได้

หญิงสาวตัดสินใจเปิดประตูรถฝั่งที่ตนนั่งแล้วรีบลงจากรถ วิ่งหนีไปด้วยพละกำลังที่คิดว่าเพียงพอ

แต่เพียงแค่อเล็กซ์เห็นเธอกำลังวิ่งอย่างเอาเป็นเอาตาย เพื่อที่จะข้ามไปอีกฝั่งให้ได้ เขากลับยกปืนขึ้นแล้วเล็งไปที่ร่างของหญิงสาว ก่อนจะเหนี่ยวไก…

ปัง!!

เสียงปืนนัดนั้นดังขึ้นแหวกอากาศและความเงียบสงัดในค่ำคืน ร่างของหญิงสาวค่อย ๆ ร่วงลงไปกับพื้น ก่อนจะนอนแน่นิ่งไม่ไหวติง ชายหนุ่มค่อย ๆ เดินตามมาอย่างไม่รู้สึกทุกข์ร้อนหรือวิตกกังวลอันใด เขาแหงนหน้าขึ้นมองแสงจันทร์สีเงินยวง

“น่าเบื่อชะมัด ทำไมฉันจะต้องมาทำเรื่องงี่เง่าอะไรแบบนี้ด้วย!!”

เขาพูดออกไปอย่างนั้น อเล็กซ์ก้มหน้าต่ำมองกลับไปยังร่างหญิงสาวเบื้องหน้า ในขณะที่รถยนต์หลายคันซึ่งมาจากสมาคมกำลังวิ่งมาตามทางตรงมายังเขา แสงของไฟหน้ารถสาดส่องมากระทบ ไม่มีคำถามซึ่งมาพร้อมกับคำตอบ ไม่มีความเรียบง่ายถ้าไม่ฟันฝ่าขวากหนาม เขารู้ดีว่าในอีกไม่นาน..ปัญหามากมายจะต้องตามมา เพราะเรื่องของผู้หญิง!!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel