ตอนที่ 6 ถึงเวลาชดใช้ 2
“ดูเหมือนเธอจะลืมว่าฉันรออยู่” พราวมุขตกใจกับเสียงทักทายที่เริ่มคุ้นหูของเธอพร้อมหันไปมองอย่างรวดเร็ว
โภไคยที่ดูท่าทางผ่อนคลายในชุดทำงานที่ถอดสูทตัวนอกออกเรียบร้อย เผยให้เห็นเชิ้ตสีขาวด้านในที่ปลดกระดุมลงมาสองเม็ด แขนเสื้อทั้งสองข้างถูกพับขึ้นมาเกือบระดับข้อศอก มือข้างหนึ่งถือแก้วไวน์ในขณะที่อีกข้างล้วงกระเป๋ากางเกงกำลังเดินเข้ามาหานักโทษของตัวเองอย่างช้า ๆ
“นายใหญ่!”
“ชอบเหรอ อยากว่ายน้ำผ่อนคลายสักหน่อยไหมล่ะ”หญิงสาวรีบส่ายหน้า ถึงแม้ว่าสิ่งที่ชายหนุ่มเสนอจะน่าสนอยู่ไม่น้อยก็ตาม อากาศที่ร้อนอบอ้าวแบบนี้หากเธอได้ลงไปว่ายน้ำสักนิดคงทำให้ความรุ่มร้อนทั้งอากาศและความร้อนรุ่มในใจคลายลงไปได้บ้างไม่มากก็น้อย
“แต่ฉันอยากว่ายน้ำและเธอก็ต้องลงไปว่ายด้วย” ไม่ทันที่พราวมุขจะได้เอ่ยถามอะไรเพิ่มก็มีแม่บ้านเดินอย่างนอบน้อมเข้ามาหา ในมือนั้นถือชุดว่ายน้ำทั้งของเขาและเธอพร้อมทั้งชุดคลุมมาให้พร้อมราวกับว่าเตรียมการไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
“เอ่อ มุขว่ายน้ำไม่เป็นค่ะ ว๊าย!!” สิ้นเสียงคำโป้ปด ร่างบางก็ถูกมือหนาแตะแล้วดันเบา ๆ ด้วยความที่อยู่ใกล้ขอบสระจึงทำให้หญิงสาวตกลงไปอย่างง่ายดาย
พราวมุขตะเกียกตะกายโผล่ศีรษะขึ้นพ้นน้ำและตั้งหลักพยุงตัวในน้ำได้อย่างรวดเร็วตามสัญชาตญาณการเอาตัวรอด ทำให้คนที่ยืนมองอยู่ข้างบนสระยกยิ้มที่มุมปากเบา ๆ
“ไหนเธอบอกว่ายน้ำไม่เป็นยังไงล่ะ” ไม่เพียงแต่จะไม่แสดงความห่วงใยคนที่กำลังแช่ตัวอยู่ในน้ำแต่ชายหนุ่มกลับถามถึงคำโกหกที่พึ่งได้รับจากหญิงสาวเมื่อไม่กี่วินาทีก่อน
พราวมุขไม่กล้าสบสายตาคมที่กำลังมองมายังเธอตอนนี้ เพราะมันเหมือนคมมีดที่พร้อมจะกรีดเนื้อหนังโดยเฉพาะหัวใจเธอให้เกิดแผลเหวอะหวะโดยที่เจ้าตัวไม่ต้องพูดอะไร
“มุขขอโทษค่ะ” ทั้งที่เธอควรโกรธที่ถูกเขาทำให้ตกน้ำแต่ทำไมเธกลับรู้สึกผิดที่โกหกเขา
“อย่าใช้คำขอโทษพร่ำเพรื่อ เพราะมันจะทำให้เธอรับโทษไม่ทัน” น้ำเสียงเยือกเย็นบอกจนคนฟังที่แช่ตัวอยู่ในน้ำรู้สึกหนาวกว่าเดิมไปถึงขั้วหัวใจ
โภไคยวางแก้วไวน์ในมือลงบนโต๊ะเล็กข้างสระน้ำก่อนจะคว้าชุดคลุมและกางเกงว่ายน้ำที่แม่บ้านนำมาให้หายเข้าไปในห้องเล็กที่อยู่ติดผนังอีกฝั่งซึ่งเป็นห้องล้างตัวและเปลี่ยนชุดอาบน้ำ ไม่นานก็ออกมาด้วยชุดคลุมที่มีเพียงกางเกงอาบน้ำตัวเดียวอยู่ด้านใน
“จะให้ฉันลงไปอุ้มเธอขึ้นมาเปลี่ยนชุดหรือว่าเธอจะขึ้นมาเอง” ร่างสูงนั่งลงบนเก้าอี้อาบแดดใกล้กับโต๊ะเล็กที่วางแก้วไวน์ก่อนจะคว้าไวน์ในแก้วใบเดิมขึ้นมาจิบอีกครั้ง
พราวมุขกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น หากจะให้เธอขึ้นไปจากน้ำตอนนี้โดยที่ร่างกายเปียกปอนเสื้อผ้าเปียกลู่แนบไปกับเนื้อหนังแบบนี้เธอก็ไม่กล้า แต่อีกใจหนึ่งก็กลัวว่าชายหนุ่มจะลงมาอุ้มตัวเธอจริง ๆหากว่าเธอยังแช่อยู่ในน้ำแบบนี้
“ยังไงฉันก็ต้องเห็นในสิ่งที่เธอไม่อยากให้เห็นอยู่ดี เธอคงไม่คิดที่จะแช่อยู่ในน้ำทั้งคืนให้หนาวตายหรอกใช่มั้ย..พราวมุข” เสียงเข้มนั้นช่างสวนทางกับสายตาที่หญิงสาวรู้สึกว่ามันแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์บางอย่าง
“มุขใส่ชุดนี้เล่นก็ได้ค่ะ” เธอหลบสายตาคมคู่นั้น
“ฉันไม่ชอบให้ใครลงสระด้วยชุดอื่นที่ไม่ใช่ชุดว่ายน้ำ และฉันก็ไม่ชินกับการที่จะเล่นน้ำกับผู้หญิงในชุดแบบนี้ด้วย ที่สำคัญ…ฉันไม่ชอบเล่นเกมส์รอ” สายตาที่ดูเรียบนิ่งย้ำสิ่งที่เจ้าของได้พูดบอกไป
พราวมุขจำใจค่อยเดินขึ้นจากสระน้ำพร้อมข่มความอายอย่างสุดกำลัง ตอนนี้มือทั้งสองข้างของเธอไม่อาจปิดบังร่างกายที่มีเพียงเสื้อผ้าที่เปียกชุ่มซึ่งแนบไปกับลำตัวจนเห็นทุกส่วนเว้าส่วนโค้งได้ ทำได้แค่ปล่อยเลยตามเลยเท่านั้น
หญิงสาวเดินมาหยิบเอาชุดว่ายน้ำและเสื้อคลุมที่วางอยู่แล้วเดินไปยังห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าห้องเดียวกันกับที่ชายหนุ่มเดินออกมาเมื่อครู่
โภไคยมองตามร่างระหงนั้นไปด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา มุมปากยกยิ้มราวกับพึงพอใจบางอย่าง และไม่นานคนที่รอคอยก็เดินออกมาจากห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าพร้อมกับชุดคลุมสีเดียวกันกับเขา
ร่างสูงลุกขึ้นยืนพร้อมสลัดชุดคลุมตัวนอกออกแล้วโยนลงบนเก้าอี้สระน้ำ เผยให้เห็นอกผายไหล่ผึ่งของร่างกำยำที่ดูสุขภาพดี หน้าท้องที่เป็นกล้ามซิกแพกเรียงกันอย่างสวยงามจนพราวมุขเริ่มรู้สึกหวั่นไหวแปลก ๆ รวมถึงบางอย่างที่อัดแน่นอยู่ตรงเป้าของกางเกงว่ายน้ำนั้นก็ทำให้เธอต้องรีบเบือนหน้าหนี ใบหน้าที่ขาวนวลเริ่มมีสีแดงระเรื่อโดยไม่รู้ตัว
“ฉันไม่ชอบรออะไรนาน ๆ” เสียงเรียบเอ่ยก่อนจะพุ่งตัวลงน้ำแหวกว่ายอย่างพริ้วไหวไปตามความยาวของสระจนสุดขอบอีกฝั่ง ก่อนจะหมุนตัวกลับแล้วว่ายกลับมาที่เดิม
พราวมุขยืนตัวสั่นอยู่ริมขอบสระไม่กล้าที่จะสลัดชุดคลุมตัวนอกออก อาการหนาวสั่นที่เธอมีตอนนี้ไม่ใช่เพราะความหนาวแต่เป็นเพราะสั่นกลัวคนที่กำลังแหวกว่ายอยู่ในน้ำมากกว่า ยิ่งชายหนุ่มว่ายเข้ามาใกล้เท่าไหร่เธอก็ยิ่งสั่นมากเท่านั้น
โภไคยโผล่พ้นจากน้ำเมื่อว่ายมาชนขอบสระทางเดิมที่พุ่งตัวลงไปเมื่อครู่ ผมที่เปียกลู่เผยให้เห็นใบหน้าที่หล่อเหลาราวกับหลุดออกมาจากปกนิตยสาร สายตาคมจ้องไปยังร่างบางที่ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิมก่อนที่เขาจะลงสระ
พราวมุขมองสบตาของคนที่กำลังอยู่ในน้ำ แววตาที่นิ่งลึกนั้นยิ่งกว่าคำข่มขู่ใด ๆ และนั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับการบังคับทางอ้อมให้เธอจำต้องสลัดชุดคลุมกายภายนอกออก เผยให้เห็นชุดว่ายน้ำแบบวันพีซสีดำที่เว้าตรงช่วงเอวทั้งสองข้างขนาดพอดีกับสรีระ ราวกับว่าคนสั่งซื้อเคยเห็นหรือสัมผัสร่างกายนี้มาก่อน
หญิงสาวรีบนั่งลงแล้วหย่อนเท้าลงไปในสระ หวังว่าท่านั่งจะปิดบังเรือนร่างจากสายตาคู่คมที่กำลังจ้องมองมา แต่ก็ยังช้าไปกว่าสายตาเหยี่ยวของชายหนุ่มที่เก็บทุกรายละเอียดบนร่างงามนั้นไว้ตั้งแต่เธอสลัดชุดคลุมให้พ้นกาย
“ว๊าย!!”
“ตูม!!”
มือหนายื่นมาดึงร่างบางให้ตกลงไปในสระ พร้อมกันนั้นก็รีบคว้าตัวเธอและโอบรอบเอวคอดนั้นไว้แน่น แรงเบียดเสียดสีใต้น้ำระหว่างสองร่างทำเอาบางอย่างในกางเกงว่ายน้ำของโภไคยเริ่มตื่นตัว
“ฉันบอกเธอแล้วไงว่าฉันไม่ชอบรออะไรนาน ๆ”เสียงทุ้มพูดชิดริมหูจนกายสาวปั่นป่วนและหวั่นไหว
พราวมุขตัวเกร็งเมื่อถูกคุกคามจากเพศตรงข้ามเป็นครั้งแรกในชีวิต ความเย็นจากน้ำบวกกับปฏิกิริยาจากร่างกายแทบทำเอาเธอยืนไม่อยู่ ในขณะที่วงแขนแข็งแรงก็โอบรัดเอวเธอไว้แน่นไม่ยอมคลายออก
โภไคยค่อย ๆ หมุนร่างบางให้มาเผชิญหน้ากับตนเองแล้วจ้องลึกลงไปในดวงตาคู่หวานที่กำลังสั่นไหวเพราะความกลัว
“กลัวฉันเหรอ” เสียงทุ้มถามออกไป
พราวมุขส่ายหน้าเป็นคำตอบพร้อมกับเอียงหน้าหนึสายตานั้น มือหนาย้ายจากเอวคอดขึ้นมาเชยคางมนบังคับให้สบตากับตนเองก่อนจะโน้มใบหน้าลงมาประทับรอยจูบแบบไม่ทันให้หญิงสาวได้ตั้งตัว
ปากหยักหนาได้รูปบดเบียดกับริมฝีปากบางอย่างหยอกเย้าก่อนจะเพิ่มแรงบดขยี้ให้หนักขึ้น โดยคิดว่าอีกฝ่ายคงจะเคยผ่านมือชายมาบ้างแล้วจึงไม่คิดที่จะอ่อนโยนเท่าไหร่นัก
“อื่อ!” พราวมุขที่ทั้งเคลิ้มทั้งเจ็บพยายามเบี่ยงหน้าหนีรสสัมผัสที่เริ่มจะรุนแรงขึ้น
“ทำไม” เสียงเข้มถามอย่างขัดใจ
“มุขเจ็บค่ะ”
“อย่าบอกนะว่าเธอยังไม่เคย..แม้แต่จูบ” สายตาคมเป็นประกายอย่างเด่นชัดขณะถาม
พราวมุขไม่ตอบแล้วเบือนหน้าหนีอีกครั้งแต่ก็ถูกบังคับให้หันมาด้วยมือหนาที่แข็งราวกับคีมเหล็ก
“ฉันอยากได้ยินคำตอบจากปากเธอก่อนที่ฉันจะพิสูจน์ด้วยตัวเอง” เสียงทุ้มที่บังคับอยู่ในทีทำพราวมุขขนลุก หากจะตอบตามจริงว่าไม่เคยก็กลัวจะเข้าทางชายหนุ่ม แต่หากโกหกว่าเคยผ่านมือชายมาก็กลัวว่าจะได้รับการดูถูกกลับมาอีก
“มันสำคัญด้วยเหรอคะ ในเมื่อยังไงนายใหญ่ก็ต้องการพิสูจน์อยู่ดี”
“หึ” ปากหนายกยิ้มบาง ๆ กับคำตอบนั้น
“หมายความว่าเธอพร้อมที่จะให้ฉันพิสูจน์แล้วล่ะสิ”
