บทที่2.คำสัญญา 2/2
เมรีเบียดตัวให้แนบกับตัวโต๊ะมากขึ้น ฟรองซัวร์เป็นของต้องห้ามสำหรับเธอ เธอไม่อยากเผลอใจมากไปกว่านี้ แค่แอบรัก...มันก็หนักสาหัสแล้ว แต่ถ้าชิดใกล้มากกว่านี้ เธอเกรงว่าเผลอตัวและผิดคำสัญญากับมารดาของชายหนุ่ม
“เธอจะออกมาเองรึว่าจะให้ฉันเป็นคนดึงเธอออกมา?” ฟรองซัวร์กล่าวเสียงเข้ม เมรีเข้ามาวนเวียนอยู่ในความคิดของเขาจนลืมตัวบ่อยๆ
“เมรีๆ ออกไปเองค่ะ” เมรีละล่ำละลักตอบ เธอรีบมุดออกมาจากซอกโต๊ะตัวใหญ่
ฟรองซัวร์มองใบหน้าที่เปรอะเปื้อนคราบน้ำตาด้วยความสับสน เขานึกอยากเข้าไปปลอบขวัญให้เธอคลายความหวาดกลัว แต่ต้องชะงักไว้ เมื่อนึกถึงฐานะของตัวเอง เขาทรุดนั่งบนเก้าอี้เอนหลังพิงพนัก ตวัดขาขึ้นไขว่ห้าง และจ้องมองเมรีอย่างจริงจัง
“เธอร้องไห้ทำไม มีใครทำอะไรเธองั้นเหรอ?”
“ปะ เปล่าค่ะไม่มีใครทำอะไรเมรี” เมรีรีบปฏิเสธ เธอก้มหน้าหลบสายตาของฟรองซัวร์
“แล้วเธอร้องไห้ทำไมล่ะ หรือว่าคิดถึงซาร่า?” ฟรองซัวร์ถามต่อแอบนึกสงสาร หญิงสาวเพิ่งสูญเสียมารดาไป เธอคงกำลังรู้สึกเคว้งคว้าง
เมรีน้ำตาตก เมื่อฟรองซัวร์เอ่ยถึงมารดาที่จากลาไปไกล น้ำใสๆ ไหลหล่นออกมาจากหน่วยตา หัวไหล่สั่นเทาเพราะกลั้นเสียงสะอื้นไว้ ฟรองซัวร์ทอดสายตามอง แววตาสงสารผุดวาบขึ้นมา ฟรองซัวร์ลุกขึ้นจากที่นั่ง เดินไปทรุดนั่งข้างเมรี ก่อนจะรวบเธอเข้ามากอด มือลูบไล้เรือนผมสลวย เมรีใจหายวาบ!! เธอเกือบจะขืนตัว ถ้าคนตัวใหญ่ไม่กดแผ่นหลังเธอไว้ หญิงสาวเผลอตัว เมื่อความอบอุ่นจากกายใหญ่แผ่ซึมให้ตนเองรู้สึกปลอดภัย เธอแนบใบหน้ากับแผงอกแข็งแรง จนน้ำตาเม็ดเล็กๆ ซึมผ่านเนื้อผ้าเรียบกริบบริเวณอกของเขา เปียกชุ่มไปเป็นวงกว้าง เมรีสะอึกสะอื้นเธอสอดมือกอดลำตัวของฟรองซัวร์ไว้อย่างต้องการพึ่งพิง
ฟรองซัวร์รั้งเมรีขึ้นมานั่งบนตัก และกอดเธอแน่นขึ้น เขาอยากปลอบโยนเพราะรู้สึกแสนสงสาร ใบหน้าเปรอะเปื้อนคราบน้ำตาจนมองดูเหมือนลูกนกหลงรัก ต้องการความอบอุ่นและพื้นที่ปลอดภัย
“ชูว์!! หยุดร้องได้แล้วคนดี เธอยังมีฉันอยู่ทั้งคนนะ” ฟรองซัวร์กระซิบปลอบชิดริมใบหู จนเมรีค่อยๆ คลายจากการเสียใจ เธอหยุดสะอื้นซึมซับความอบอุ่นที่ได้รับไว้ในใจ
“อย่าลืมนะเมรีเธอยังมีฉันอยู่ ถ้ามีอะไรทำให้เธอไม่สบายใจ ฉันยินดีรับฟัง” ฟรองซัวร์กดปลายจมูกข้างขมับเมรีด้วยความลืมตัว หญิงสาวผงะ!! เธอกำลังจะขืนตัวออกห่าง
พอดีกับที่ชายหนุ่มดันตัวเธออกห่างแผงอกเขาพอดี
เธอช้อนสายตาวาวน้ำตามองสบตากับเขา แววตาภักดีกระทบใจฟรองซัวร์จังๆ ชายหนุ่มจึงยกมือขึ้น ใช้ปลายนิ้วเกลี่ยรอยน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน เขามองสบนัยน์ตากลมโตของเมรีด้วยแววตาที่อ่านไม่ออก
เมรีเผยอปากเหมือนจะพูดอะไร แต่ฟรองซัวร์โน้มตัวเข้ามาใกล้ เขาก้มลง...จูบ ปิดปากจิ้มลิ้มด้วยริมฝีปากตัวเอง
ไม่มีเสียงร้อง มีเพียงเสียงครางที่เล็ดลอดออกมาเบาๆ
ฟรองซัวร์ดันท้ายทอยของเมรีให้แหงนหน้ารับจุมพิตได้อย่างถนัดถนี่ ริมฝีปากหนาขบเม้มเบาๆ ที่กลีบปากหวานหอม เขาละเลียดชิมความหวานของสาวแรกรุ่นอย่างหลงใหล ปลายลิ้นอุ่นร้อนสอดเข้าไปในโพรงปากหวานฉ่ำ กวาดไล้เรียวลิ้นเล็กๆ อย่างหยอกเย้า ดูดซึมจนเมรีหลงมัวเมา เธอตัวสั่นเทาเมื่อฟรองซัวร์เริ่มรุกหนัก รสจูบทวีความร้อนแรงขึ้นทุกเวลา
เสียงครางแหบห้าวเพราะพอใจ ฟรองซัวร์มัวเมาดื่มชิมอย่างดุดัน มือหนาลูบไล้ลำตัวบางที่น่าถนอม ผิวเนื้อเนียนลื่นอุ่นร้อนปลุกกระแสความต้องการในกายใหญ่ให้ลุกชัน เมรีครางอย่างลืมตัว เปล่งเสียงสั่นพร่าเมื่อเกินกว่าจะควบคุมความปรารถนาไว้ได้
ฟรองซัวร์ดันเมรีเอนลงบนพื้นพรม มีร่างใหญ่ของตนเองกักกันไว้ เขามองดวงหน้าหวานใสอย่างพิจารณา ริมฝีปากอิ่มเห่อบวม แดงก่ำเพราะทุกบดจูบอย่างดุดัน ดวงตากลมโตพริบพราวระยิบระยับ เธอสูดลมหายใจแรงๆ จนหน้าอกอวบอิ่มไหวกระเพื่อม มือของฟรองซัวร์ยกขึ้นเกลี่ยปรอยผมที่ปรกใบหน้าของเมรี เกลี่ยไปทัดเก็บไว้ริมหูให้อย่างอ่อนโยน ดวงตาสีมรกตเป็นประกาย เต็มไปด้วยไฟปรารถนาที่ลุกฮือ