3
“แอล” วิลลี่เรียกชื่อคนกำลังทำอาหาร
“กลับมาแล้วหรือคะ เดี๋ยวแอลเอาน้ำไปเสิร์ฟให้คุณฌอร์นกับแขกค่ะ รอสักครู่นะคะ” ปรินดาหันมาเอ่ยเสียงหวาน ละมือจากหม้อแกงบนเตาไฟ เดินไปหยิบน้ำที่เตรียมไว้ในตู้เย็นมารินใส่กแก้ว “แขกคุณฌอร์นมาสองคนใช่ไหมคะ ไม่ได้มาเพิ่ม”
“อืม สองคน” วิลลี่ตอบ ขณะเดินเข้ามายืนใกล้ๆ “พี่ยกไปเอง แอลไปทำกับข้าวต่อเถอะ คุณฌอร์นสั่งมาด้วยว่า ให้จัดโต๊ะภายในครึ่งชั่วโมง ว่าแต่ทำทันไหม”
คำถามแสดงถึงความเป็นห่วง เพราะหากทำไม่ทัน ปรินดาคงโดนเจ้านายผู้เหี้ยมโหดลงโทษแน่
“ทันค่ะ เหลือไข่เจียวกุ้งสับอีกอย่างค่ะ ทอดแปปเดียวก็เสร็จ” คนตอบลงมือทำอาหารตั้งแต่ได้รับสายจากวิลลี่ว่า จะมีแขกมากินมื้อเย็นที่บ้าน อาหารมื้อนี้ฌอร์นบอกให้ทำอาหารไทย เธอทำสามอย่าง มีแกงเขียวหวานเนื้อ ไข่เจียวกุ้งสับ และผัดบล็อคโคลี่กุ้ง
วิลลี่พยักหน้ารับรู้ ยกถาดน้ำออกไปจากห้องครัว ปรินดาหันไปสนใจหม้อแกงตามเดิม เธอทำอาหารต่ออีกราวยี่สิบนาที จึงนำอาหารมาลำเลียงไว้บนโต๊ะอาหาร หลังจากจัดเตรียมอาหารเสร็จ ปรินดาเดินไปยังห้องรับแขก เพื่อบอกกล่าวเจ้าของบ้านว่า อาหารพร้อมรับประทาน
บรรยากาศภายในห้องรับแขกมีหลายความรู้สึก เริ่มจากฌอร์น เขามองกนิษฐาบ่อยครั้ง มองด้วยสายตาสื่อความหมาย ความพอใจเต็มเปี่ยม เขามีความคิดอย่างหนึ่งว่า ในรูปภาพว่าเธอสวยแล้ว ได้เห็นตัวจริง ความสวยทวีคูณหลายเท่า เช่นเดียวกับความอยากได้ครอบครอง เวลานี้พุ่งพรวด เป็นความอยากได้ที่ต้องได้
นัยน์ตาสีน้ำเงินของฌอร์นร้อนแรงมาก ดูมีเสน่ห์เหลือหลาย ทำให้คนถูกมองร้อนสลับหนาว เป็นสายตาชื่นชมที่เรียกความกังวลในใจ เดิมทีเธอมักรังเกียจ ไม่พอใจสายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาของบุรุษแปลกหน้า แต่สำหรับฌอร์น เธอไม่มีความรู้สึกนั้น กนิษฐาแปลกใจไม่น้อย นางร้ายแสนสวย หลบสายตาหลายครั้ง เลี่ยงไปมองทางอื่นก็หลายหน แต่เมื่อฌอร์นชวนคุยการสบตามองคู่สนทนาจึงเลี่ยงได้ยาก แล้วพอได้เห็น หัวใจสาวกระตุกวูบ รีบเบนสายตามองคนรักทันที
แน่นอนว่าณัฐกิตต์เห็นสายตาฌอร์นยามมองคู่รัก เขากลับไม่มีความหึงหวงหรือโกรธ เขาพอใจด้วยซ้ำไป และคิดแผนที่จะทำให้ตนค้นพบกับคำว่าสำเร็จ
ความสนใจของณัฐกิตต์กลับเป็นสตรีนางหนึ่งกำลังเดินมาในห้องรับแขก นัยน์ตาเขามองนิ่งราวกับให้แน่ใจว่า เป็นคนคนนั้นจริง แล้วเมื่อแน่ใจ ณัฐกิตต์ฉีกยิ้มกว้าง ลุกเดินไปหาปรินดา
วินาทีที่ณัฐกิตต์มองปรินดา ฌอร์นมองเห็นจึงมองตามสายตาคู่นั้น แล้วเมื่อรู้ว่า ณัฐกิตต์มองใคร ความไม่พอใจเหมือนแรงดันน้ำ พุ่งใส่หัวใจเขาทันที ยิ่งเห็นณัฐกิตต์เดินไปกอดปรินดา ความรู้สึกนั้นเพิ่มพูน ดวงตาสีน้ำเงินเปลี่ยนเป็นสีแดง ทว่าแค่ชั่วครู่เท่านั้นมันก็จางหายในพริบตา คนที่อึ้งและตกใจอีกคนคือ กนิษฐา
“แอล พี่ดีใจจังที่ได้เจอแอล ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้เจอแอลที่นี่ พี่ดีใจที่สุดเลย” ณัฐกิตต์กอดปรินดาแน่นมาก กอดด้วยความคิดถึงที่ไม่ได้เจอนานหลายปี ปรินดาไม่ได้ตกใจที่ถูกสวมกอด เธอยิ้มกว้าง กอดตอบร่างสูงโปร่งของณัฐกิตต์
“แอลก็ดีใจค่ะที่ได้เจอพี่ตั้ม” เธอตอบกลับ ณัฐกิตต์คลายอ้อมกอด ดันร่างปรินดาให้ออกห่าง
“รู้จักกันด้วยเหรอ” ยังไม่ทันที่ณัฐกิตต์จะเอ่ยคำใด เสียงฌอร์นดังขึ้นเสียก่อน คำถามง่ายๆ ที่เต็มไปด้วยความอยากรู้ของคนสองคน คนหนึ่งคือคนถาม อีกคนคือกนิษฐา
“รู้จักดีเลยครับ ครอบครัวแอลเคยอยู่บ้านผมครับ ตอนแอลย้ายออกไปผมกลับเมืองนอกพอดี ไม่ทันล่ำลากันเลย ว่าแต่แอลมาอยู่ที่นี่ได้ไงครับ”
ณัฐกิตต์ตอบ พร้อมยิงคำถามใส่ ปรินดาใจสั่นหนักมาก เธอไม่คิดว่าจะได้เจอณัฐกิตต์จึงไม่ได้เตรียมคำตอบ แล้วกลัวว่าฌอร์นตอบความจริง หากเขาตอบความจริงปรินดาคงอายหนักมาก
“ตอนนี้ครอบครัวแอลทำงานให้ผมน่ะ แล้วแอลก็เป็นคนรับใช้ของผม” ฌอร์นตอบ
“วันนี้ผมถือว่าคิดไม่ผิดที่บ้านคุณฌอร์น นอกจากได้คุยเรื่องงานสำคัญ ยังได้เจอแอลด้วย ผมดีใจมากๆ ครับที่ได้เจอแอล” ไม่ว่าด้วยคำพูดหรือรอยยิ้มของณัฐกิตต์ บอกให้รู้ว่า เขารู้สึกตามพูดจริง ก่อนหันไปสวมกอดปรินดาอีกครั้ง
หารู้ไม่ว่า เพลิงไฟในหัวใจกนิษฐากำลังปะทุที่เห็นคนรักสวมกอดหญิงอื่น ทว่าเธอไม่แสดงออก นั่งเฉยมองดูสองร่างกอดกันอย่างไม่พอใจ
“ผมว่าคุณเลิกกอดแอลดีกว่าครับ เราจะได้ไปกินมื้อเย็นกัน ที่แอลเข้ามาในห้องนี้คงมาบอกว่า อาหารเย็นพร้อมแล้ว” เสียงฌอร์นนิ่งเรียบ เหมือนไม่รู้สึกใดใดกับภาพนี้ แต่เปล่าเลย ใจเขาคล้ายกาต้มน้ำบนเตาไฟ ค่อยๆ เดือดทีละน้อยไม่รู้ตัว “เชิญครับ ไปกินมื้อเย็นกัน”
“เอาไว้ค่อยคุยกันนะที่รัก”
ฌอร์นถึงกับหูผึ่งกับคำเรียกปรินดาตบท้ายประโยค เขาเป็นคนอิตาเลี่ยนก็จริง แต่พูดและฟังภาษาไทยได้ เพราะน้องชายจอมกวนบาทามักพูดกับเขาเป็นภาษาไทย ฌอร์นจึงได้เรียนรู้ภาษานี้ไปในตัว เขาตวัดสายตามองปรินดาที่บังเอิญเหลือเกินว่า สาวใช้นางบำเรอหันมามองเจ้านายพอดี ช่วงวินาทีนี้เอง ปรินดาตัวชาวาบ ใจสั่นหนักมาก เนื่องจากแววตาเขามีพลังแห่งความไม่พอใจเต็มเปี่ยม เธอรีบก้าวถอยหลังมาสองก้าว เหมือนรู้ตัวว่า ตัวเองไม่ควรทำแบบนี้