บทที่ 4
ใจลึก ๆ ก็อยากจะไปตามหาจันทร์เจ้ากับปลาดาว แต่สองคนนั้นไม่รู้ไปอยู่ที่ไหนแล้ว ส่วนมารินเองก็ทำหน้าเศร้า บอกชัดว่าอยากอยู่คนเดียว
“เอ๊ะ! หรือว่าจะไปกวนฟองคลื่นดี” แต่จะให้เรียกรุ่นน้องคนสวยมารับฟังปัญหาของคนวัยทำงานมันก็คงไม่เข้าท่า ฟองคลื่นอุตส่าห์ให้พักในโรงแรมในราคาพิเศษ ไปกวนใจน้องก็คงไม่เหมาะ
วันนี้คงต้องพึ่งพาตัวเอง… เหมือนกับทุก ๆ วันที่ผ่านมา
สองขาเรียวพาร่างสูงหนึ่งร้อยหกสิบห้าเซนติเมตรเดินตรงไปยังบาร์ริมสระน้ำเพื่อหาอะไรดื่มคลายเครียด กอหญ้าไม่ชอบดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มที่ซื้อมาจึงมีแค่น้ำอัดลม ส่วนเบียร์ของเพื่อนนั้นขมจนเธอดื่มไม่ไหว ไม่ว่าจะราคาถูกหรือแพง เข้าปากทีไรขมหนักทุกที แต่ถ้าเป็นค็อกเทลสักแก้วก็น่าจะพอไหวอยู่
“ขอโทษนะคะพี่ภู กอหญ้าขอพีนา โคลาดาสักแก้วทันไหมคะ” เธอสั่งค็อกเทลที่ตัวเองชื่นชอบ กอหญ้าชอบกลิ่นของกะทิและน้ำสับปะรดมาก มันทำให้ลืมความขมติดปลายลิ้นเล็กน้อย จริง ๆ เธอจะขอให้บาร์เทนเดอร์พี่ภูไม่ใส่เหล้ารัมก็ได้ แต่ถ้าไม่มีแอลกอฮอล์สักสองสามหยดในคืนนี้ เธอคงกลับเข้าห้องไปทำงานต่อแทนการพักผ่อนอย่างที่ตั้งใจ
“ต้องขอโทษด้วยนะครับน้องกอหญ้า พอดีพี่ปิดบาร์ได้สักพักแล้วละครับ” ภูผา บาร์เทนเดอร์หนุ่มหล่ออารมณ์ดีนิ่วหน้า เขาจำได้ดีว่าสาวสวยคือเพื่อนรุ่นพี่ของคุณฟองคลื่น ลูกสาวเจ้าของโรงแรม เธอมากับเพื่อนหลายคนและดื่มแค่น้ำผลไม้ตลอดช่วงบ่าย แต่ตอนนี้กลับอยู่คนเดียว แถมสั่งเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์อีกต่างหาก
“เดี๋ยวกอหญ้ากลับไปหาอะไรดื่มที่ห้องก็ได้ค่ะ” แต่หลังจากภูผาคิดคำนวณอยู่ได้ไม่ถึงนาที เขาก็โพล่งออกไปว่าจะเปิดบาร์และทำเครื่องดื่มให้กับเธอ
“ไม่เอาดีกว่าค่ะ กอหญ้าเกรงใจ เดี๋ยวไว้กลับมาดื่มพรุ่งนี้ก็ได้ค่ะ” รอยยิ้มแฝงความเหนื่อยล้าของเธอทำให้บาร์เทนเดอร์หนุ่มยืนยันว่าจะเปิดบาร์อีกครั้ง จนเจ้าของเสียงนุ่มทุ้มเอ่ยแทรกขึ้นมา ทั้งสองจึงได้หยุดเกรงใจกัน
“มาดื่มกับผมดีกว่า ไม่งั้นนายภูผาคงตื๊อคุณไม่หยุดแน่ ๆ” กอหญ้าหันไปตามเสียงนุ่ม พบชายหนุ่มร่างสูงมากกว่าเธออย่างน้อยก็ราวยี่สิบเซนติเมตรยืนอยู่ใกล้ ๆ เขาสวมเสื้อสีขาว พับแขนจนถึงข้อศอก กางเกงสีดำถูกพับขึ้นไม่ต่างกัน ความมืดทำให้เธอมองไม่เห็นหน้าของเขา เห็นแค่ฟันเรียงสวยยามยิ้มกว้างและแผงอกที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามที่ทำให้คนมองต้องกลืนน้ำลายเบา ๆ
หุ่นดีขนาดนี้ สมควรจะปลดกระดุมทั้งหมด ไม่ใช่แค่สองสามเม็ด…
“ดื่มด้วยกันนะครับคุณ” กอหญ้าไม่ใช่คนมนุษยสัมพันธ์ดีถึงขั้นที่จะออกไปกับคนแปลกหน้า แต่พอถูกเรียกเสียงอ่อนเสียงหวานปานตัวเองเป็นนางเอกในละครทีวีที่เคยดูตอนเด็ก ๆ เธอก็อดใจอ่อนไม่ได้ ที่สำคัญคือเกรงใจบาร์เทนเดอร์หนุ่มที่ตั้งหน้าตั้งตาจะเปิดบาร์ให้ได้
“กอหญ้าไปดื่มกับคุณเขาก็ได้ค่ะ กอหญ้าไม่อยากรบกวนพี่ภู” เธอยิ้มกว้างให้กับบาร์เทนเดอร์ที่ดูแลกันตลอดช่วงบ่าย ก่อนจะเดินนำผู้ชายที่ไม่รู้จักออกจากบาร์ ตั้งใจว่าพ้นบริเวณนี้แล้วค่อยขอตัวกลับห้องไปทำงาน
แต่เสียงแก้วไวน์กระทบกันทำให้เธอเริ่มเกรงใจ เขาคนนั้นขอให้บาร์เทนเดอร์พี่ภูหยิบแก้วให้ ก้าวขายาว ๆ ไม่กี่ก้าวก็ตามกันทันแล้ว
โลกคงไม่อยากให้กอหญ้าอยู่คนเดียวจริง ๆ
“ไปนั่งที่ริมสระดีกว่านะครับ ตรงนั้นสว่างหน่อย เราจะได้เห็นหน้ากันชัด ๆ” ดวงตาของคนพูดทอประกายวาววับจนกอหญ้ารู้สึกไม่ปลอดภัย กลิ่นตัวของเขาหอมมาก แต่พอขยับเข้าใกล้กลิ่นเหล้าก็ลอยมาเตะจมูก กอหญ้าจึงถอยห่างตามสัญชาตญาณ ทว่าพอเห็นใบหน้าหล่อคมคร้ามต้องแสงไฟริมสระ เธอก็ถึงกับต้องกลั้นหายใจทันที
หล่อจนกอหญ้าลืมเรื่องกลิ่นเหล้าฉุน ๆ เลยทีเดียว!
มือหนาจงใจเสยผมที่ตกลงมาปรกใบหน้าฝั่งซ้าย เพราะรู้ว่าทำแบบนี้แล้วหล่อขั้นเทพจนสาวคลั่ง เขาเห็นเธอว่ายน้ำเล่นสลับกับอาบแดดในช่วงบ่ายและสนใจจะทำความรู้จักมาตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว แต่น่าเสียดายที่ติดประชุมนานหลายชั่วโมง ไม่งั้นก็คงจะได้มีโอกาสแนะนำตัวเองในตอนที่หล่อเนี้ยบมากกว่านี้
“แย่จริง ผมลืมแนะนำตัวไปเลย ผมชื่อพายุนะครับ”
