บทที่ 1
บทนำ......
สิ่งแรกที่ผมทำหลังจากที่ตื่นเช้าขึ้นมาคือดูตารางงานในโน้ตที่บันทึกไว้ในสมาร์ทโฟนประมาณหนึ่งนาที แล้วต่อด้วยการเข้าเช็คเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม จริงๆ ผมไม่ได้ติดอะไรนักหนากับสื่อโซเชียลพวกนี้ แต่ผมมีไว้เพื่อการทำงานของผม
ข้อแรก...ผมเปิดคลีนิคและขายของเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง จึงต้องมีเพจไว้ เพื่อแนะนำและโฆษณาให้กับลูกค้า จริงๆ แล้วผมไม่ได้เป็นแอดมินเพจด้วยซ้ำ เป็นน้องสาวผมต่างหากล่ะครับ บทความ คำกล่าวทักทาย และทุกสิ่ง ยัยหมูน้อยเป็นคนจัดการ ผมแค่แว้บมาดูบ้าง ว่าน้องสาวตัวแสบทำงานดี คุ้มกับค่าจ้างหรือเปล่า
ข้อสอง...ผมเอาไว้ส่องครับ...
ผมอาจจะดูเหมือนเป็นโรคจิตหรือเปล่านะ?
ไม่หรอกคนอื่นก็ทำกัน...ใช่ไหมครับ แหะๆ อย่างเพื่อนผมก็เอาไว้ส่องดูเพจวับๆ แวมๆ เพจที่พริตตี้ หรือเนตไอดอล ออกมาอวดนั่นนี่โน่นกันให้เพลินสายตา
คนที่ผมติดตามดูรูป ดูการอัพเดตของเธอ มีแค่คนเดียวล่ะครับ
ผมไม่ได้เป็นโรคจิตอะไรจริงๆ ผมก็แค่อยากจะทราบข่าวคราว ความเคลื่อนไหวของเธอ...ครับเธอ...คนที่ผมติดตามนี้เป็นผู้หญิง ซึ่งผมก็ไม่รู้หรอกว่า เธอจะเห็นผมอยู่ในสายตาบ้างไหม ผมเป็นเหมือนเพื่อนคนหนึ่งของเธอ เพื่อนที่จะเพิ่งกลับมาสนิทสนมกันเมื่อไม่กี่ปีที่แล้วอีกครั้ง แต่ทว่า...
ความประทับใจแรก
รักแรกพบ
มันทำให้ผมติดตามและอยากจะรู้ว่าเธอมีชีวิตแบบไหน ยังไง มีความสุขดีหรือเปล่านะ
แม้ผมจะรู้ว่ามันเป็นรักที่เป็นไปไม่ได้ก็ตามที
แต่ผมก็มีความสุขที่ได้มองเธอล่ะครับ
สีรุ้ง ไตรสุริยะ
เพื่อนสมัยมัธยมของผม ผู้ที่ทำให้ผมตกลงไปในหลุมแห่งความรัก
จนป่านนี้
ผมอายุ 30 ปีแล้ว พอจะผ่านการมีแฟนมาแล้วบ้าง
ผมก็ยังปีนขึ้นมาจากหลุมแห่งรักของเธอที่กลบฝังผมไว้ไม่ได้สักที
เฮ้อ...
มันก็เป็นความสุขเล็กๆ ของหมอหมา หมอแมวอย่างผมล่ะครับ
เหมือนนั่งดูดาวแล้วเคลิ้มๆ ฝันๆ แม้จะคว้าเอามาไว้ไม่ได้ก็ตามที
รักที่แทบจะไม่ได้หวังอะไรสักนิด
เจ็บนิดๆ สุขหน่อยๆ ตามประสาคนโสดนั่นแหละครับ
…………………….
“เห็นว่ายัยสีน่ะหย่าแล้วนะแก”
“อะไรกันอะ ฉันเพิ่งจะไปงานแต่งของชีมาเองนะ อะไร้ อะไรกันทำไมเร็วแบบนี้”
“เมื่อเดือนก่อนเองอะ ฉันจำด้ายยย”
คนพูดทำเสียงลากยาว พร้อมกับหน้าตาตื่นเต้นไปด้วย
“ฉันเพิ่งจะจ่ายค่าชุดหมดไปเดือนนี้เองนะยะ อุ๊บ!”
“ชุดสวยเงินผ่อนรึไงล่ะแก”
“แหม...อย่าเพิ่งมาเบี่ยงประเด็น ไหนๆ รู้ลึกๆ บ้างรึเปล่าบอกหน่อยสิ ว่าทำไมถึงเลิกกับผัวได้ไวขนาดนั้น ก้นหม้อข้าวไม่ทันดำเลยนะแก”
“ไม่รู้หรอก แฟนยัยสีออกจะเพียบพร้อม ไฮโซ รวย เท่ หล่อ ติดอันดับผู้ชายในฝันด้วยซ้ำ ทำไมยัยสีถึงทิ้งนะ”
“ฉันว่าไม่ใครก็ใครต้องมีปัญหาสักคนล่ะ แต่ว่าอยากรู้จริงๆ ว่าเรื่องอะไรอะ มือที่สาม มือที่สี่ หรือว่าไม่คลิก ไม่ลงตัวเรื่องชีวิตรักๆ”
นั่นสินะ...งานวิวาห์ที่ใหญ่ระดับประเทศ ที่ดูแล้วแสนจะประทับใจ กับความรักของคนทั้งคู่ขนาดนั้น ทำไมถึงเลิกรากันเร็วมาก ไม่ถึงสามเดือนด้วยซ้ำ...
ธารคิดตาม แต่ก็ไม่ได้เอ่ยต่อบทสนทนาอะไร เขาเพียงแค่นั่งฟังเงียบๆ ทำทีเป็นไม่สนใจคนช่างนินทาทั้งสอง เอาที่คนเหล้าคนน้ำแข็งในแก้วเล่น คนข้างๆ เขาสะกิดพร้อมกับจะเติมเหล้าให้ แต่เขายกมือห้ามไว้เสียก่อน
“พอก่อนดีกว่า จะไม่ไหวเอา”
“พออะไรกันไอ้ธาร รถมึงก็ไม่ได้เอามา เดี๋ยวกูให้ยัยเปรียวไปส่ง ยัยเปรียวมันเมาดิบ กินโค้กก็เนียนเมาแล้ว”
“หึๆ เกรงใจ”
ธารว่าพลางยิ้ม จนตาหยี คนที่ได้ยินชื่อตนเองถูกส่งรายชื่อเป็นสารถีชั่วคราว หันหน้ามาจากคนที่กำลังสนทนาด้วย แล้วรีบลุกจากเก้าอี้ตัวเอง มายืนอยู่ด้านหลังเขา พลางเอามือเกาะไหล่ของธาร แล้วชะโงกมาจนใกล้แทบจะชิดเขา ใกล้กันจนได้กลิ่นน้ำหอมของเธอโชยกรุ่นเลยทีเดียว
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกเพื่อนธาร นี่เพื่อนนะ ส่งเพื่อนได้ ส่งยันเตียงก็ได้”
“เฮ้ยๆ เบาๆ หน่อยเปรียว นี่เพื่อนนะ”
กำธรคนที่ยุให้ธารดื่มต่อทำหน้าตึงใส่สาวซ่านามปรียานุชหรือเปรียว ที่ทำหน้าเจ้าเล่ห์อยู่ข้างหลังธาร สองมือของเธอจับที่บ่าไหล่ที่ตึงแน่นของชายหนุ่ม พลางทำตาโต เจ้าตัวไม่เห็นเพราะเธออยู่ข้างหลัง แต่เพื่อนๆ คนอื่นในโต๊ะเห็นเข้า จึงพากันหัวเราะขำปรียานุชที่ทำหน้าทำตาแบบนั้น
“เพื่อนแน่นขนาดนี้ งานดีขนาดนี้ โอ๊ยยย”
ปรียานุชทำเสียงแหลมปรี๊ด พร้อมกับกัดปาก แล้วทำท่าจะถลามานั่งบนตักของธาร แต่กำธรเอาเก้าอี้มาขวาง พร้อมกับทำตาขวางใส่เจ้าหล่อน
“เบาๆ เบาๆ เว้ยเฮ้ย! นอแกมันยาวจริงๆ นะวันนี้”
“แหมๆ เมื่อก่อนทำไมไม่หล่อเร้าใจแบบนี้นะ เพื่อน เพิ่งมาหล่ออะไรตอนโตอะ”
เธอเดินเยื้องย่างไปนั่งที่เดิมของตัวเองคือตรงกันข้ามกับธาร พร้อมกับขยิบตาให้ ด้วยท่าทางทอดสะพานสุดๆ ธารได้แต่หัวเราะขำ เขาไม่เคยคิดเกินเลยกับคนตรงหน้าแม้แต่น้อย
“ของดีไงแก มันก็เลยต้องมาดีตอนแก่ ใช่มะ...ขืนงานดีมาตั้งแต่ตอนเราเรียน ป่านนี้มันมีเมียไปล่ะ เหมือนอีตาไก่ไง มีเมียแล้วหย่า มีเมียแล้วหย่า กี่เมียแล้วน่ะแก เพราะงานดีตอนเด็กไง อิอิ”
รัญญาเพื่อนหญิงอีกคนในกลุ่มหันมาหยอกกำธรเข้า ทำเอาชายหนุ่มทำตาถลึงใส่ แล้วทำเสียงโอดโอย
“โจมตีอะ ทำไมวะ หย่าเมียบ่อย แล้วมันไม่ดียังไง ก็มันไปกันไม่รอดนี่หว่า เพราะหย่าเมียแล้วหรือเปล่า ถึงกลับมารวมกลุ่มกับพวกแกได้ ไม่งั้นก็ไม่มีเพื่อนสมัยมัธยมที่กลมเกลียวแบบฉันนะเว้ย ยัยญา”
“ของดีไม่จริง ถ้าของดีจริง เมียๆ แกแต่ล่ะนางจะมีชู้ทำไม๊ อุ๊บ!”
รัญญาทำท่าปิดปาก แล้วตาโตได้สะดีดสะดิ้งน่าหมั่นไส้นัก เรียกเอาเสียงหัวเราะเบาๆ ดังขึ้นมา สองคนนี้ชอบแหย่กันแรงๆ ไม่มีใครถือสาใครมาตั้งแต่สมัยวัยเรียนแล้ว คนไม่รู้ก็นึกว่าทั้งสองคนทะเลาะกัน เกลียดขี้หน้ากัน แต่จริงๆ แล้วกำธรกับรัญญาสนิทกันมาก และเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันในระดับที่เรียกว่าเพื่อนแท้เลยก็ว่าได้