ตอนที่ 3 คู่อริ
“แกขึ้นไปคุยกับพี่แกเดี๋ยวนี้ให้ลงมาทำพิธีต่อไม่งั้นฉันจะเอาเรื่องแกให้ถึงที่สุด” คุณประภาวดียื่นคำขาดให้ลูกสาวคนเล็ก
“ไม่ค่ะ เรื่องความรักไม่มีใครมาบังคับใครได้ แม่อย่าไปบังคับพี่เขาเลยนะคะ”มณีอินเปลี่ยนคำพูดให้ดูอ่อนโยนเผื่อว่ามารดาของเธอจะใจอ่อนบ้าง
“ฉันเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้พี่แกแล้ว และทำตามคำสัญญาที่พ่อแกเคยสัญญาเอาไว้ด้วย”
“รู้สึกว่าแม่จะชอบคนรวยๆเหลือเกินนะคะ คนรักของพี่กานต์ก็รวยนะคะแถมเป็นถึงตำรวจด้วย หล่อกว่าท่านชีคอะไรของแม่อีก” มณีอินเผลอพูดเรื่องคนรักของพี่สาวออกมา คุณประภาวดีเบิกตากว้าง ลูกสาวไม่เคยบอกเธอเลยว่ามีคนรักอยู่แล้ว แต่มาถึงตอนนี้แล้วแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วเธอต้องหาทางพาลูกสาวลงมาจากชั้นบนให้ได้ก่อน
“ยัยอินช่วยแม่หน่อยนะ นะ” คุณประภาวดีเปลี่ยนมาเป็นพูดขอร้อง มณีอินถอนหายใจแล้วพยักหน้าเดินขึ้นไปข้างบน
มณีอินยืนมองประตูห้องพี่สาวแล้วถอนใจอีกครั้ง ก่อนที่จะยกมือเคาะเรียกพี่สาว
“พี่กานต์อินเองนะคะ” มณีอินร้องเรียกพี่สาวแต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับมา เธอจึงเรียกอีกครั้ง
“พี่กานต์คะ เปิดประตูให้อินหน่อยซิคะอินมีเรื่องจะคุยกับพี่” คราวนี้ได้ผลกานต์ธีรายอมมาเปิดประตูให้ มณีอินเดินเข้ามานั่งลงข้างๆพี่สาวแล้วใช้มือของตนเองกุมมือพี่สาวไว้
“พี่กานต์ลงไปด้านล่างเถอะค่ะ”
“พี่ไม่ลง พี่ไม่ต้องการหมั้นกับเขา พี่มีคนรักอยู่แล้ว อินก็รู้ แล้วตอนแรกอินเป็นคนบอกพี่เองนี้นาว่าให้กล้าตัดสินใจทำในสิ่งที่เราต้องการ แล้วทำไมมาบอกให้พี่ลงไป” กานต์ธีราพูดไปสะอื้นไป
“ใช่ อินพูดแบบนั้น แต่พี่ต้องกล้ารับในสิ่งที่ตนเองตัดสินใจลงไป ต้องกล้าเผชิญหน้ากับมัน ลงไปบอกกับเขาดีๆว่าพี่มีคนรักอยู่แล้ว และไม่ต้องการหมั้นกับเขา” มณีอินลุกขึ้นแล้วดึงมือกานต์ธีราให้ลุกขึ้น
ทั้งคู่เดินลงมาจากชั้นบน คุณประภาวดีเดินตรงไปหากานต์ธีราแล้วหยิกที่ต้นแขน
“แกทำฉันขายหน้ามากเลยนะยายกานต์ มานี้มาทำพิธีต่อ”คุณประภาวดีดึงกานต์ธีราให้มานั่งลงตรงข้ามกับจามาล แต่กานต์ธีราสะบัดตัวจากมือมารดา แล้วหันไปทางท่านอูลดาและจามาล
“กานต์ต้องขอประทานโทษด้วยค่ะที่รับหมั้นกับลูกชายของท่านไม่ได้ กานต์มีคนรักอยู่แล้ว เรารักกันมากค่ะ กานต์ไม่ต้องการทนอยู่กับผู้ชายที่กานต์ไม่ได้รัก”กานต์ธีราพูดความในใจออกมาจนหมด ทำให้คุณประภาวดีลมแทบจับจนลูกสาวคนโตต้องรีบเข้ามาประคองไว้
“แกพูดอะไรยัยกานต์ โอ๊ย ฉันจะเป็นลม ยัยอินฉันให้แกไปกล่อมให้พี่แกลงมาร่วมพิธีต่อไม่ใช่ให้มาบอกยกเลิกพิธี” คุณประภาวดีทรุดนั่งลงกับโซฟาแล้วทำท่าเป็นลม เสาวลักษณ์ต้องนำยาดมมาให้ดมและพัดให้
“พี่กานต์เขาทำถูกแล้วค่ะแม่ อยู่กับคนที่เรารักย่อมดีกว่า” มณีอินยืนมองมารดาแล้วส่ายหน้า
“คุณแม่อย่าบังคับใจใครอีกเลยค่ะสงสารคนที่เขารักกันบ้างซิคะ” มณีอินหันมามองพี่สาวแล้วหันไปมองหน้ามารดา
จามาลพอจะฟังภาษาไทยรู้เรื่องบ้างและเขารู้สึกอับอายมากที่มีผู้หญิงปฏิเสธเขา ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าปฏิเสธเขาซักคนเดียว แล้วผู้หญิงคนนี้กล้าดียังไงถึงปฏิเสธเขา ชายหนุ่มขบกรามแน่น
“คุณมีคนรักอยู่แล้ว แล้วทำไมแม่คุณถึงให้คุณมาหมั้นกับผมอีก อย่างนี้มันหลอกลวงกันนี่นา” จามาลเอ่ยออกมาหลังจากที่นั่งฟังมานาน มณีอินหันไปมองตาเขียว เขามากล่าวหามารดาของเธอว่าเป็นคนหลอกลวงได้ยังไง
“แต่ฉันเชื่อว่าคนอย่างคุณก็ต้องมีคนรักแล้วเหมือนกัน แล้วที่คุณจะมาหมั้นกับพี่สาวของฉันมันก็เข้าข่ายหลอกลวงเหมือนกัน”มณีอินยืนกอดอกมองหน้าเขาอย่างไม่ยอมแพ้ ทำให้จามาลหน้าเสียไปเพราะเขาก็มีฟิน่าอยู่เหมือนกันแต่คนอย่างเขามีหรือจะยอมแพ้ใครง่ายๆเขาลุกขึ้นเดินตรงไปหามณีอิน
“แล้วคุณมาเกี่ยวอะไรด้วยในเมื่อเป็นเรื่องของพี่สาวคุณ” จามาลยืนกอดอกมองจ้องใบหน้างามนั้นเขายอมรับว่าผู้หญิงคนนี้สวยมากทีเดียวและกล้ามากด้วย
“ทำไมฉันจะยุ่งไม่ได้ในเมื่อพี่สาวฉันกำลังจะตกนรกทั้งเป็น”มณีอินพูดใส่หน้าอีกฝ่ายเชิดหน้าขึ้น
“คุณคิดว่าการเป็นเมียผมมันตกนรกยังงั้นหรือ”จามาลยังจ้องมองมณีอินอย่างไม่ยอมลดละเหมือนกัน
“ใช่ การที่ต้องแต่งงานกับคนที่เราไม่ได้รักมันก็ย่อมเจ็บปวดอยู่แล้ว”มณีอินพูดออกมาแล้วหันไปมองกานต์ธีราที่นั่งร้องไห้อยู่
“แต่งกับผมออกจะสุขสบายมีทั้งเงินทองให้ใช้อย่างที่พวกคุณไม่เคยมีมาก่อนด้วยซ้ำ” เขาพูดเหยียดหยามครอบครัวของมณีอินอย่างเห็นได้ชัด มณีอินกำมือแน่นพยายามระงับอารมณ์อย่างที่สุด
“เงินของคุณไม่มีความหมายสำหรับพวกฉันเลยหรอกนะ เพราะพวกฉันมีสิ่งที่มีค่ามากกว่านั้น ซึ่งคุณไม่มี” มณีอินเชิดหน้าขึ้น
“อะไรที่คุณว่าผมไม่มี”เขาถามออกมา
“คุณไปคิดเอาเองก็แล้วกัน เงินของคุณอาจซื้อผู้หญิงคนอื่นได้ แต่ไม่ใช่พี่สาวของฉันแน่นอน และคุณก็คงไม่ต้องการที่จะหมั้นกับผู้หญิงที่ปฏิเสธคุณหรอกนะคะ” มณีอินพูดแล้วยิ้มเยาะใส่หน้าเขา
“มันจะมากไปแล้วนะเธอ ปากกล้ามากนะก็ได้งานวันนี้ยกเลิก แต่สำหรับเธอ เราจะต้องเจอกันอีกแน่”เขาพูดด้วยเสียงรอดไรฟัน มณีอินยักไหล่ไม่สนใจแล้วเดินเข้าไปหามารดา
“คุณแม่ได้ยินแล้วนะคะว่าเขายกเลิกการหมั้นแล้วพี่กานต์เป็นอิสระแล้วนะคะ”มณีอินมองหน้ามารดาแล้วยิ้มให้พี่สาว
“คุณพ่อครับเรากลับกันดีกว่าครับขืนอยู่ผมอาจจะได้เป็นฆาตกรฆ่าคนก็ได้ครับ”จามาลหันมาบอกกับบิดาแล้วลุกเดินออกมานอกบ้าน เดินตรงไปที่รถอีกคันหนึ่งซึ่งเป็นคนละคันกับตอนที่เขามาและสั่งให้คนขับๆรถออกไปโดยเร็ว