ตอนที่ 5 รับใช้นายครั้งแรก
ดลยาในร่างเนื้อนวลฝืนเคี้ยวข้าวกับน้ำพริกปลาทูผักลวกแล้วกลืนลงคอ เธอต้องกินข้าวกินยา เธอจะมาตายตอนนี้ไม่ได้เด็ดขาด ดีที่บ้านนายจ้างกินข้าวสวยเป็นหลักจึงทำให้กินง่ายขึ้นมาอีกนิด
“กินเสร็จแล้วไปป้อนข้าวป้อนยาคุณเชษฐ์ด้วย” น้ำขิงออกคำสั่งราวกับเป็นเจ้านายของเธออีกคน
เนื้อนวลไม่ได้สนใจในคำพูดนั้น เธอยังนั่งเคี้ยวข้าวอย่างช้า ๆ เหมือนไม่มีใครอยู่ในห้องนี้
“ที่ฉันพูด แกได้ยินไหม” น้ำขิงเริ่มใส่อารมณ์และเอื้อมมือไปจับไหล่เนื้อนวลให้หันหน้ามาคุยด้วย เมื่อเห็นอีกฝ่ายยังนิ่ง
เนื้อนวลหันหน้ามาหามองด้วยสายตาเอาเรื่อง กะพริบตาหนึ่งครั้งด้วยความอ่อนอกอ่อนใจแล้วเอ่ยถามออกไปสั้น ๆ “หน้าที่?” อย่ามาทำเก่งกับเนื้อนวลคนนี้เป็นอันขาด ชีวิตเธอผ่านอะไรมามาก เด็กอ่อนหัดอย่างน้ำขิงอย่ามาคิดเสี้ยมสอน
เห็นสายตาของเนื้อนวลก็ทำให้น้ำขิงถึงกับขนลุกเกรียว มือที่จับอยู่บนบ่าค่อย ๆ ลดลงข้างลำตัวช้า ๆ เธอก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไมต้องเกรงกลัวสายตาคู่นั้น เหมือนไม่ใช่แววตาใสซื่อของเนื้อนวลคนเดิม
ก่อนจากไปน้ำขิงก็ไม่วายพูดขึ้นอีก “ฉันไปทำงานก่อน อย่ากินนานล่ะ เดี๋ยวคุณนายจะมาว่าเอา” น้ำขิงเดินออกไปที่สวนหลังบ้าน ในใจยังคิดว่าเนื้อนวลดูแปลกไป เหมือนไม่ใช่คนเดิมเมื่อหลายวันก่อน พูดน้อยเหมือนเดิมแต่ท่าทีไม่ได้ดูหวาดกลัวตลอดเวลาเหมือนที่เคยเป็น แถมครั้งนี้เนื้อนวลยังใช้สายตาจิกเธอกลับอีกต่างหาก
หรือมันจะเริ่มสู้คนแล้ว ไม่ได้การแล้วเรื่องนี้ต้องถึงหูแม่
กินข้าวกินยาเสร็จเนื้อนวลเดินไปที่ห้องของเจ้านายหนุ่มพร้อมกับถาดอาหาร แม้ร่างกายยังอ่อนเพลียแต่เธอก็คงกลับไปนอนต่อไม่ได้อีกแล้ว จะดูสิว่าเธอจะตายในหน้าที่อีกไหม
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เนื้อนวลเคาะประตูสามครั้งก่อนจะเปิดประตูเข้าไปยังห้องคนป่วย ยังไม่ทันได้เอ่ยอะไรหมอนก็ถูกเขวี้ยงมาหาเธอโดยเร็ว แต่เนื้อนวลหลบทันทั้งสองครั้ง ดวงตากลมเหลือบมองไปยังพื้นห้องที่มีเศษแก้วแตกกระจายอยู่เต็ม เขาคงก่อเรื่องไว้อีกแล้ว
“ออกไป!” สุรเชษฐ์ตวาดเสียงดัง
เนื้อนวลทำตัวเหมือนไม่ได้รู้สึกรู้สากับคำสั่งของเขา มือเล็กแต่หยาบกระด้างเพราะทำงานหนักมาตั้งแต่เด็กวางถาดที่ใส่อาหารไว้โต๊ะตัวที่อยู่ห่างออกไปแล้วเดินไปหาเขา สายตากวาดมองร่างใหญ่บนเตียงที่น่าจะสูงราว ๆ ร้อยแปดสิบสามเซนติเมตรแวบหนึ่ง แล้วตัดสินใจเดินเข้าห้องน้ำที่อยู่ในห้องส่วนตัวของเขา ยกชามใส่น้ำและผ้าผืนเล็กที่ตากอยู่ในห้องน้ำออกมา
เห็นชามใบคุ้นเคยคนที่กำลังจะโดนเช็ดตัวจึงพูดขึ้นเสียงแข็ง “ฉันไม่เช็ดตัว ฉันบอกให้ออกไปไง!” สุรเชษฐ์เปล่งเสียงดังจนคอมีเส้นเลือดปูดขึ้นมา เขาไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับร่างกายของเขาแม้แต่หมอกับพยาบาลเขาก็ไล่มาแล้ว ตั้งแต่แพทย์บอกว่าเขาจะต้องเป็นอัมพาตครึ่งซีกไปตลอดชีวิตเขาก็ไม่อยากสนใจรูปร่างตัวเองอีกเลย เขาเกลียดตัวเองที่ต้องกลายมาเป็นแบบนี้
“มันคือหน้าที่ของฉันค่ะ แม่ของคุณซื้อฉันมาแล้ว ได้โปรดอย่าทำให้ฉันลำบากใจเลยนะคะ เมื่อครบสัญญาแล้วฉันจะไม่มาให้คุณเห็นหน้าอีก กรุณาให้ความร่วมมือและเห็นใจผู้หญิงจน ๆ คนนี้ด้วยค่ะ” พูดจบเนื้อนวลก็ไม่ฟังคำอนุญาตจากเขา เธอเอื้อมมือไปปลดกระดุมเสื้อเขาด้วยท่าทางช่ำชอง
หมับ! มือข้างซ้ายก็ไวเหมือนกัน เขาจับมือเธอข้างหนึ่งไว้แน่น พร้อมกับถลึงตาใส่คนที่ก้มมองเขาอยู่ไม่ห่าง “ฉันบอกว่าไม่ก็คือไม่” สรุเชษฐ์กัดฟันพูดด้วยความโกรธ เธอกล้าดียังไงถึงกล้าขัดคำสั่งเขา
“กรุณาอย่าดื้อนะคะ” เนื้อนวลสะบัดมือแรงจนหลุด กระดุมเสื้อเม็ดแรกของเขาก็ขาดออกมาเช่นกัน เธอก้าวขาขึ้นไปอยู่บนเตียงกับเขา ขาข้างหนึ่งกดทับแขนซ้ายเขาเอาไว้ไม่ให้ขยับ ขาอีกข้างวางทับขาซ้ายของเขาไว้ไม่ให้กระดิก สุรเชษฐ์ขัดขืนจนหืดขึ้นคอแต่ก็ไม่สำเร็จ ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนี้จะกล้าทำกับเขาแบบนี้ทั้งที่ยังสวมผ้าถุง
เนื้อนวลเอี้ยวตัวไปหยิบผ้าชุบน้ำแล้วบิดหมาด เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ต้องใช้ความรุนแรงแบบนี้กับคนป่วยตั้งแต่เธอเคยดูแลมา
เนื้อนวลเช็ดตัวให้เขาด้วยความชำนาญ แผงอกเขายังกำยำ มีเพียงแขนขวาเท่านั้นที่ดูลีบไปนิดหนึ่ง แต่เธอก็ไม่ได้สนใจมากนัก ก่อนหน้าที่จะย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้เธอไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงเป็นอัมพาตครึ่งซีก เพราะครอบครัวของเธอไม่ค่อยมีใครมาสุงสิงด้วย ปู่กับย่าเป็นคนเก็บขยะขาย ยากจนข้นแค้นตัวก็เหม็นแล้วใครจะมาคบค้าสมาคมด้วย เรื่องต่าง ๆ ของชาวบ้านเธอจึงไม่ค่อยรู้เท่าไรนัก
แต่สามวันที่แล้วน้ำอ้อยเล่าให้เธอฟังว่าเมื่อสองปีก่อนเขาเป็นทหารเก่ายศจ่าสิบเอก ภรรยาหนีไปอยู่กับชู้พอเขารู้เรื่องก็ขับรถจะไปตามกลับมา แต่โชคร้ายที่รถเกิดอุบัติเหตุเสียก่อนจนสมองฝั่งซ้ายได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนัก ทำให้ร่างกายซีกขวากลายเป็นอัมพาต เขาจึงจำเป็นต้องออกจากราชการมานอนพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน
เช็ดท่อนบนเสร็จเนื้อนวลก็เตรียมถอดชิ้นล่างที่เป็นกางเกงผ้านิ่มขายาว มือเล็กกำลังจับขอบกางเกงเตรียมจะถอดออก
หมับ!
แต่ก็มีมือใหญ่มายึดไว้อีกครั้ง พร้อมเปล่งเสียงแหบพร่าออกมา
“อย่า!” เด็กอะไรแก่แดดขนาดนี้ ไม่รู้จักอายผีอายสาง กลางวันแสก ๆ ยังจะแก้ผ้าผู้ชาย ถึงปู่กับย่าจะไม่ค่อยมีเวลาอบรมบ่มนิสัยให้รักนวลสงวนตัวแต่เธอก็น่าจะคิดเองเป็นบ้าง หรือเธอเป็นเด็กใจแตกถึงไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้
เช่นเดิมเนื้อนวลไม่ได้สนใจ เพราะกลิ่นตัวของเขาที่โชยเข้าจมูกเธอคิดว่าน่าจะเกือบเดือนแล้วที่เขาไม่ได้เช็ดตัว เพราะเท่าที่เนื้อนวลเข้ามารับใช้เขาไม่กี่วัน สุรเชษฐ์ก็ไล่เธอท่าเดียว แต่อย่าหวังว่าเนื้อนวลคนนี้จะยอมแพ้ง่าย ๆ
“ถ้าอายก็หลับตา” เนื้อนวลพูดเสียงเรียบเรื่อยเหมือนเป็นเรื่องปกติสำหรับเธอ มือข้างหนึ่งจับสะโพกเขายกขึ้นมืออีกข้างดึงกางเกงนอกลงมาจนสุดปลายเท้าตามด้วยกางเกงผ้าอ้อมผู้ใหญ่ เพราะเขาไม่สามารถควบคุมการขับถ่ายทั้งหนักและเบาของตัวเองได้ ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนเขาไม่ทันระวังตัว เมื่อนั้นแหละสุรเชษฐ์จึงนอนแน่นิ่งปิดเปลือกตาแน่น ร่างใหญ่แข็งทื่อไปทั้งตัว จากที่ไม่รู้สึกแค่ฝั่งขวาตอนนี้เหมือนจะชาไปทุกสัดส่วนบนร่างกาย