บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 บักอ้วน

ฝั่งขวานี้เป็นชานยื่นออกไปเช่นกันความกว้างน่าจะสามเมตรส่วนความยาวเท่ากับตัวบ้านด้านยาว ด้านบนมุงด้วยสังกะสีเช่นกัน ข้าวของทุกอย่างถูกจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบ ข้างผนังบ้านมีหม้อ ฝาหม้อ ทัพพี กระชอน หวดนึ่งข้าว และกระติบข้าวแขวนอยู่ ส่วนพื้นที่ด้านล่างฝั่งขวามีหม้อดินหรือแอ่งน้ำสองใบมีถาดสังกะสีใบเล็กปิดไว้มีขันสีเงินใบเล็กวางอยู่ด้านบน ถัดมาทางซ้ายเป็นเตาไฟและหม้อนึ่งไว้สำหรับนึ่งข้าว

นิตยาหันหลังมาเมื่อรู้สึกเหมือนมีคนกำลังยืนมองเธอ “ยืนเบิ่งหยัง” (ยืนดูอะไร)

มาวินเสมองไปทางอื่นแล้วตอบออกไป “เบิ่งต้นยาสูบ” (ดูต้นยาสูบ) เขาตอบไปอย่างนั้นทั้งที่ยืนจ้องเธออยู่ “อ้ายอยากอาบน่ำ” (พี่อยากอาบน้ำ) รู้สึกเหม็นเปรี้ยวตัวเองจนเกือบจะทนไม่ไหว ก่อนมาที่นี่เป็นโรคหัวใจ มาอยู่ที่นี่เป็นโรคอ้วน มันช่างเลวร้ายไม่ต่างกันนัก

“อาบน่ำ?” สามีเธอไม่เคยอาบน้ำหลังจากตื่นนอนในตอนสาย เหตุใดวันนี้นึกอยากอาบน้ำขึ้นมา

“แมน” (ใช่)

แต่เหงื่อเขาออกมากน่าจะร้อนจัดนิตยาจึงไม่ได้ใส่ใจ “ไปแหมะ” (ไปสิ) จากนั้นก็ยกหม้อที่ภายนอกสีดำเมี่ยมเพราะเธอใช้ทั้งถ่านทั้งฟืนขึ้นตั้งไฟ

มาวินเดินไปยังราวตากผ้าที่มีผ้าขาวม้าพาดอยู่ หยิบเสื้อผ้าชุดใหม่ แล้วเดินลงไปข้างล่าง ร่างต้วมเตี้ยมเดินไปยังห้องน้ำโดยเร็วโดยลืมนึกไปว่า ห้องน้ำมีแค่ถังน้ำเอาไว้ล้างก้นและขันน้ำสีเงินหนึ่งใบเท่านั้น แหงนหน้ามองหลังคาเมื่อรู้สึกร้อนแปลก ๆ

เห็นพระอาทิตย์สาดแสงลงมาจนเต็มหน้าเขาหรี่ตาแทบไม่ทัน

อ้าว! ลืมไปว่าห้องน้ำไม่มีหลังคา แต่ก็ขอปัสสาวะสักหน่อยก็ยังดี เขาหันหลังจะปิดประตูห้องน้ำ แล้วก็ไม่เห็น เขาเดินออกไปหาประตูห้องน้ำด้านนอก

อ้อ ประตูห้องน้ำเป็นเพียงสังกะสีแผ่นเดียวแค่ยกมาปิดประตูไว้เท่านั้น มาวินทำหน้าเลิ่กลั่กมองซ้ายมองขวา ดีหน่อยที่ห้องน้ำมีส่วนของตัวเรือนบังไว้นิตยาจึงมองไม่เห็นเขา

เฮ้อ! ชีวิต ทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยนะ เมื่อก้มมองของรักของหวงแล้วก็รู้สึกโล่งอกไปเปลาะหนึ่ง อย่างน้อยขนาดของมันก็ไม่ได้หดไปตามน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นเหมือนข้อมูลที่เขาเคยอ่านเจอมา

เมื่อนึกขึ้นได้ว่าลืมสบู่จึงเดินไปฝั่งครัวที่สูงเพียงอก

“นิด เอาสบู่มาให้อ้ายแหน่” (นิด เอาสบู่ให้พี่หน่อย)

“อยู่ในขันใต้ล่างเฮียน” (อยู่ในขันตรงใต้ถุนบ้าน)

“โอ๋ อ้ายลืม” (อ้อ พี่ลืม)

“บ่อค่อยได้อาบน่ำกะเลยลืม” (ไม่ค่อยได้อาบน้ำก็เลยลืม)

มาวินไม่ตอบโต้อะไรเมื่อรู้ว่าเจ้าของร่างนี้ขี้เกียจแค่ไหน ร่างสูงอ้วนเดินอุ้ยอ้ายไปตามทางเดินดินร่วนที่ลาดต่ำลงไปหาลำน้ำ ฝั่งซ้ายเป็นแปลงต้นยาสูบที่ปลูกไว้หลายรุ่น ฝั่งขวาเป็นพื้นที่ว่างเปล่าที่มีรอยใช้จอบขุดอยู่ครึ่งหนึ่ง ไม่ถึงยี่สิบเมตรก็ถึงลำน้ำที่ทอดยาวขนานกับเรือนของเขา ท่าน้ำมีแผ่นไม้เรียงกันไว้สามแผ่นยกสูงด้วยเสาสี่ต้น ระดับน้ำลดลงไปจนเหลือครึ่งเสา

มาวินเดินลัดเลาะไปตามริมฝั่งจนเห็นลานหิน เขาจึงถอดเสื้อชุดม่อฮ่อมสีกรมท่าออกพาดไว้ตามกิ่งไม้เหลือเพียงกางเกงผ้าบางสีเข้มขาสั้นอีกตัว สายตาก้มลงสำรวจร่างกายตัวเอง แล้วรู้สึกหนักใจจนบอกไม่ถูก หน้าอกของเขาใหญ่กว่าหน้าอกของผู้หญิงหลายร้อยคนด้วยซ้ำ ตอนเดินผ่านกระจกในบ้านเขาแอบชำเลืองมองใบหน้าตัวเองพอผ่าน ๆ แค่นั้นก็ยังรู้สึกใจหายวาบยอมรับตัวเองแทบไม่ได้ ร่างนี้อายุแค่ยี่สิบห้าแต่หน้าไปไกลจนเกือบจะถึงสามสิบห้าแล้วกระมัง

“สิลดจังได๋ไหว ถ่าบ่อลดบ่อได้ตายดีแท่” (จะลดน้ำหนักอย่างไรไหว ถ้าไม่ลดไม่ได้ตายดีแน่ ๆ)

มาวินพ้อกับตัวเองเมื่อเห็นสังขารตน

เขาค่อย ๆ เดินลงแม่น้ำพร้อมกับสบู่หนึ่งก้อน เกิดมาเพิ่งเคยใช้ชีวิตสมถะแบบนี้ คิดถึงน้ำอุ่นในห้องน้ำหรูกับครีมอาบน้ำกลิ่นหอม ๆ

อาบน้ำถูตัวเสร็จก็ว่ายน้ำกลับไปกลับมาจนเหนื่อยหอบ ขึ้นจากน้ำก็เช็ดตัวแล้วสวมเสื้อผ้าชุดใหม่ ซักเสื้อผ้าด้วยสบู่ก้อนนั้นแล้วค่อยเดินกลับ

รู้สึกรำคาญที่รองเท้าแตะคีบมันลื่นซ้ายทีขวาทีเพราะเท้าเปียกเหยียบดินมาด้วย ไม่คิดว่าต้องมาใช้ชีวิตติดดินแบบนี้

ตากผ้าไว้กับราวไม้ไผ่ข้างเรือนฝั่งตะวันตก ก้าวเท้าจะเดินมาขึ้นเรือนก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นบ้านหลังเล็กเสาเอียงไปทางทิศใต้จนเกือบจะถึงสามสิบองศา

เจ้าของร่างเดิมกับภรรยาอยู่มาได้อย่างไรตั้งหลายปี
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel