บทที่ 2 ปะทะป้ามหาภัย
บทที่ 2 ปะทะป้ามหาภัย
หลิวหลิวเดินออกจากห้อง ชิงเทียนน้องชายเห็นท่าไม่ดีกลัวว่าจะทำให้เกิดเรื่องใหญ่ตามมาทีหลังรีบดึงมือเธอเอาไว้ก่อน
“พี่ชิงฮวา พี่พึ่งหายจากการเป็นไข้อย่าหาเรื่องให้คุณป้าทำร้ายพี่อีกเลย แค่ได้กินก้อนแป้งพวกเราก็อิ่มมากแล้วไม่อยากให้พี่ต้องมานอนไม่ได้สติแบบนี้อีก” หลิวหลิวหันกลับมามองมือเล็กที่สั่นเทาจับเธอเอาไว้แน่นสายสัมพันธ์ความเป็นห่วงเป็นใยต่อพี่ทำให้หลิวหลิวเจ็บจี้ดที่ใจ ยกมือลูบที่หัวของเด็ก ๆ อย่างเอ็นดู
“ชิงเทียนพี่จะไม่ยอมทนคุณป้าอีกต่อไป บ้านหลังนี้เป็นบ้านของคุณพ่อเป็นบ้านของเรา พี่จะไม่ทนให้ป้าใช้งานเราและโขกสับเราอีกต่อไป ไม่ต้องเป็นห่วงนะพี่จะไม่ให้คนพวกนั้นทำอะไรเราได้อีก”
"จะทำแบบนั้นได้จริง ๆ หรือครับ "
"ได้สิ มาเถอะไปที่ห้องครัวกัน "หลิวหลิวเห็นร่างกายของเด็กทั้งสองที่ผอมแทบเหลือแต่กระดูกคงไม่ได้กินอะไรดี ๆ เลยสินะ เธอไม่เกรงกลัวใครทั้งนั้นแค่ดูในทีวีเธอแทบอยากจะเข้ามาจัดการผู้เป็นป้า ในเมื่อตอนนี้เธอเข้ามาอยู่ในร่างนี้แล้วเธอจะไม่ให้พวกนั้นมาทำอะไรเธอกับน้อง ๆ ได้อีก
สกุลไป๋เป็นตระกูลที่ร่ำรวยมีลูกสามคนด้วยกัน คือไป๋ชิงฮวา ไป๋ชิงเทียนและไป๋ชิงหนี่ว์ที่เป็นฝาแฝด เด็กทั้งสามคนเติบโตมาอย่างดีจนกระทั่งพ่อกับแม่ของเธอต้องเจออุบัติเหตุทำให้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ลู่ซิ่นเจี่ยวพี่สาวของพ่อไป๋ชิงฮวาเมื่อรู้ข่าวจึงรีบมาดูแลเด็ก ๆ เพราะรู้ดีว่าบ้านสกุลไป๋มีสมบัติมากเพียงใด เธอเป็นคนโลภหลังจากสามีของเธอตายไปทิ้งให้เธอเลี้ยงลูกชายและลูกสาว เมื่อเธอเห็นหนทางสบายและร่ำรวยโดยไม่ต้องทำอะไรจึงอาศัยช่วงเวลาที่ตระกูลไป๋เศร้าโศกเสียใจมาเป็นผู้ดูแลเด็ก ๆ เพราะตอนนั้นไป๋ชิงฮวามีอายุเพียงสิบหกปี น้อง ๆ อายุเพียงแค่สามขวบเท่านั้นจึงยังไม่รู้ประสีประสาคิดว่าการปรากฏตัวของคุณป้าจะทำให้พวกเธอรู้สึกว่ามีญาติผู้ใหญ่คอยดูแล แต่ทว่ากลับกันตั้งแต่เธอเข้ามาอยู่ในบ้านสกุลไป๋ เธอทำตัวเหมือนเป็นเจ้าบ้านพาลูกชายที่อายุมากว่าไป๋ชิงฮวาถึงสามปีเข้ามาอยู่ด้วยและลูกสาวของเธออายุน้อยกว่าไป๋ชิงฮวาหนึ่งปี ทั้งสองพี่น้องนิสัยไม่ต่างจากผู้เป็นแม่ เข้ามายึดห้องของไป๋ชิงฮวาและห้องของน้อง ๆ จึงตกเป็นของลูกชายและลูกสาวของป้า พวกเธอต้องย้ายไปนอนห้องเก็บของแทน เธอถูกต้าหลงลูกชายคุณป้าและเหมยอิ๋งใช้งานอยู่ตลอดเวลาจนตอนนี้ผ่านมา สี่ปีแล้วที่เธอถูกรังแกข่มเหง
หลิวหลิวเดินเข้ามาในห้องครัวเปิดตู้กับข้าวเห็นไก่ต้มน่ากินจึงยกจานไก่ออกมาให้เด็ก ๆ พร้อมเดินไปเปิดดูหม้อข้าวเห็นว่าข้าวก็มีเต็มหม้อจึงไม่รอช้ารีบตักใส่จานยื่นให้เด็ก ๆ คนละจาน
“นี่รีบมากินสิ หิวไม่ใช่หรือไงเร็ว ๆ มานั่งลงที่เก้าอี้”
“เอ่อ..พี่ชิงฮวาไก่ต้มตัวนี้เป็นของคุณป้านะคะ ถ้าเรากินต้องเกิดปัญหาใหญ่แน่ ๆ” ชิงหนี่ว์ใบหน้าซีดเซียวไม่กล้าแม้จะมานั่งที่เก้าอี้
“นั่นสิพี่ชิงฮวาเรากินก้อนแป้งได้เก็บไก่เอาไว้ที่เดิมเถอะนะ ถ้าทำให้คุณป้าไม่พอใจพี่ต้องโดนทำโทษอีกแน่ ๆ” ชิงเทียนพูดขึ้นอีกคน
“เฮ้อ! พี่บอกแล้วใช่มั้ยว่าพี่ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น และนี่ไม่ใช่ไก่ของป้าเสียหน่อยเงินทุกหยวนที่คุณป้านำไปใช้เป็นของคุณพ่อคุณแม่ที่หามาอย่างเหน็ดเหนื่อย ดังนั้นเราเป็นลูกต้องกินอยู่อย่างสบายสิรีบกินเถอะ” หลินหลินดึงมือเด็กทั้งสองมานั่งลงกิน ในตอนแรกเด็ก ๆ ไม่กล้าที่จะกินด้วยซ้ำแต่เมื่อถูกพี่สาวคะยั้นคะยอจึงยอมกินและเมื่อไก่ต้มพร้อมข้าวเมล็ดสวยเข้าปากเด็ก ๆ ต่างพากันตาโตเป็นประกายนานเท่าไหร่แล้วที่พวกเขาไม่ได้กินแบบนี้
“ว๊าวว^ ^ อร่อยมากเลยค่ะพี่ชิงฮวาพี่เองก็กินด้วยกันสิ”
“แน่นอนอยู่แล้วเราจะมากินไก่ต้มตัวนี้ให้หมด” หลิวหลิวแสยะยิ้มคิดแผนการเอาคืนซิ่นเจี่ยวก่อนจะกินข้าวกับน้อง ๆ โชคดีที่ตอนนี้ทั้งสามคนไม่อยู่บ้าน ป้าซิ่นเจี่ยวมักจะเข้าบ่อนเล่นการพนัน ส่วนต้าหลงก็มักจะออกไปเกเรทำตัวเสเพลกับเพื่อน ๆ และเหมยอิ๋งรายนั้นมักจะออกไปเดินเล่นที่ห้างเลือกซื้อเครื่องสำอางและเครื่องแต่งกายที่ทันสมัย พวกเขาใช้เงินของสกุลไป๋อย่างเบิกบานใจ
หลังจากที่ทุกคนกินอิ่มหลิวหลิวให้น้องทั้งสองไปอาบน้ำเข้านอนก่อนส่วนตัวเองจะเก็บชามล้างเอง ตอนนี้ในหม้อข้าวเหลือข้าวเพียงแค่นิดหน่อยและไก่ต้มทั้งตัวเหลือเพียงแค่กระดูกเท่านั้น เธอใส่จานและนำใส่ตู้กับข้าวไว้เช่นเดิมคอยดูว่าทั้งสามกลับมาไม่มีอะไรกินสักอย่างจะอาละวาดขนาดไหน
“ฮึ ฮึ หมั่นไส้ตั้งนานแล้ววันนี้ถึงเวลาที่ฉันจะเอาคืน ต่อจากนี้ฉันจะแก้เผ็ดป้าและลูก ๆ ของเธอที่กลั่นแกล้งนางเอกผู้น่าสงสารของฉัน ฮ่า ฮ่า” หลิวหลิวหัวเราะออกมาอย่างพึงพอใจก่อนจะรีบเดินกลับห้อง เห็นน้อง ๆ หลับอย่างสบายเธอเองก็สบายใจจึงได้ไปอาบน้ำล้างกายกี่วันมาแล้วที่ร่างกายนี้นอนเป็นผักเป็นปลาอยู่ เมื่อเธอถอดเสื้อผ้าเพื่อล้างร่างกาย ได้เห็นอะไรบางอย่างที่สะดุดตา แขนข้างซ้ายของเธอมีปานวงกลมสีแดงไม่ใหญ่มากนักนูนขึ้นมา
“เอ๊ะ! ปานนี้มาจากไหนกัน ฉันจำได้ว่าชิงฮวาไม่มีปานนี่น่าร่างกายของเธอสะอาดหมดจด ทำไมถึงมีปานสีแดงเล็กที่แขนนี่นะ โชคดีที่อยู่ในเสื้อ” หลิวหลิวใช้มือลูบที่ปานอย่างสงสัยจู่ ๆ เกิดแสงสว่างจ้าทำให้เธอแสบตารีบหลับตาทันที แต่เมื่อลืมตาขึ้นมาเธอต้องตกใจตะลึงอ้าปากค้าง
“นี่มันอะไรกันเนี้ยะ!!!. .” ภาพเบื้องหน้าคือมิติห้างที่มีของกินของใช้มากมายอยู่ต่อหน้าเธออย่างไม่น่าเชื่อ เธอหยิกแขนตัวเองอย่างแรงเพื่อให้มั่นใจว่าสิ่งที่เห็นอยู่ตอนนี้ไม่ใช่ความฝันหรือเธอเบลอไปเอง
“โอ๊ย!! เจ็บชะมัดนี่มันไม่ใช่ความฝันแต่เป็นความจริง ฉันทะลุมิติมาในซีรี่ย์ไม่พอยังมีมิติติดตัวมาด้วยอย่างนั้นเหรอ ว๊าวว^ ^นี่มันสวรรค์เมตตาชัด ๆ ต่อจากนี้เด็ก ๆ จะไม่ต้องอดอยากอีกแล้ว ชิงฮวาคนใหม่จะดูแลน้อง ๆ ให้เติบโตเอง ฮึ! ต่อให้ป้ามหาภัยทำโทษไม่ให้ข้าวให้น้ำต่อจากนี้ฉันก็ไม่กลัวอีกต่อไป ฮ่า ฮ่า” หลิวหลิวเพลิดเพลินกับมิติและคิดหาทางเลี้ยงดูน้องต่อจากนี้ เมื่อเธอเดินสำรวจของในมิติห้างจนพึงพอใจเธอจึงลูบปานที่แขนอีกครั้งมิติได้หายไปในพริบตา หลินหลินอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเธอเดินมานอนบนเตียงเดียวกับเด็กทั้งสอง จ้องมองด้วยความสงสาร
“ฉันไม่รู้ว่าฉันจะมาอยู่ในร่างพี่สาวพวกเธอได้นานแค่ไหน แต่เมื่อตอนนี้ฉันอยู่ที่นี่ในร่างนี้ฉันจะไม่ให้ใครมารังแกพวกเธอได้อีก” เธอพูดพลางใช้มือลูบที่หัวของเด็ก ๆ อย่างอ่อนโยนก่อนจะดึงผ้าห่มมาห่มกายให้และเธอกำลังเอนกายลงนอนกับเด็ก ๆ
ครั้นนั้นเสียงกรีดร้องด้วยความไม่พอใจของผู้เป็นป้าดังขึ้นและเหมือนเสียงเท้ากำลังมุ่งหน้ามาที่ห้องของชิงฮวาอีกด้วย
“มาแล้วสินะ ป้าซิ่นเจี่ยว” หลิวหลิวแสยะยิ้มพลางลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูดูสีหน้าของคนที่หิวโหยกลับมา
“เด็กระยำ พวกแกกล้านักนะที่มากินไก่ของฉันจนหมดหายหัวไปอยู่ไหนกัน หรืออยู่ในห้องออกมาจากห้องเดี๋ยวนี้เลยนะวันนี้ฉันจะต้องสั่งสอนให้พวกแกได้รู้สึกนึกต้องตีใจเข็ดจะได้ไม่กล้าทำอีก” ซิ่นเจี่ยวที่เสียการพนันกลับมาบ้านด้วยความหิวเมื่อเปิดหม้อข้าวดูเห็นข้าวเหลือเพียงนิดหน่อยทำให้เธอแปลกใจและยิ่งมาเห็นไก่ต้มทั้งตัวเหลือเพียงกระดูกทำให้เธอโมโหเลือดขึ้นหน้า และคิดว่าคงเป็นใครไม่ได้นอกจากเด็กทั้งสองในเมื่อตอนนี้พี่สาวของพวกมันยังนอนไม่ได้สติอยู่บนเตียงเลยมาแอบกินไก่
“เอะอะโวยวายทำไมกันคะคุณป้า มีอะไรหรือคะ”
“นี่แกฟื้นแล้วสินะ หรือว่าเป็นแกที่กินไก่ของฉัน”
“อะไรไก่ของป้า อ้อ..ถ้าหมายถึงไก่ต้มที่อยู่ในตู้กับข้าวใช่ค่ะฉันกินเอง อีกอย่างมันไม่ใช่ไก่ของป้าเสียหน่อย ทุกวันนี้ป้ามาอยู่ที่นี่ในฐานะคนอาศัยเงินในบ้านข้าวในบ้านและของกินของใช้ทุกอย่างเป็นของฉันกับน้อง ๆ ทำไมพวกฉันถึงไม่มีสิทธิ์กินมัน” หลิวหลิวทำท่าทางไม่รู้ร้อนรูหนาวก่อนจะตอบกลับผู้เป็นป้าอย่างเหลืออด
“อ๊ายยย! นี่แกเดี๋ยวนี้กล้าเถียงฉันเหรอ? ได้วันนี้ฉันจัดการแกกับน้องของแกไม่ให้กล้าทำตัวแบบนี้กับผู้มีพระคุณอย่างฉันอีก ถ้าวันนั้นฉันไม่มาที่นี่มาดูแลเธอกับน้องป่านนี้เธอคงไม่ได้อยู่สบายอย่างนี้หรอกนะ”
“ฮ่า ฮ่า น่าตลกจังถ้าวันนั้นไม่มีป้าป่านนี้ชีวิตของฉันกับน้อง ๆ คงสบายกว่านี้และผู้มีพระคุณที่เลวร้ายอย่างป้าฉันไม่ขอมีดีกว่า อ้อ! จริงสิผู้ที่มีพระคุณนะต้องเป็นคำพูดของฉันต่างหาก” หลิวหลิวรอคอยเวลานี้มานานเธอจ้องซิ่นเจี่ยวไม่หลบสายตา พร้อมปะทะลมปากอย่างไม่หวาดหวั่นแต่สิ่งนั้นทำให้ซิ่นเจี่ยวที่ไม่เคยถูกต่อเถียงโมโหตาจ้องเขม็งใบหน้าบึ้งตึง เพราะเมื่อก่อนไม่ว่าเธอจะต่อว่าหรือลงไม้ลงมือชิงฮวาไม่แม้จะกล้าสบตาและต่อปากต่อคำกับเธอเช่นนี้เลยสักครั้ง ร่างกายของซิ่นเจี่ยวสั่นเทาด้วยความโมโหง้างมือขึ้นหวังตบเข้าที่ใบหน้าของชิงฮวาเพื่อสั่งสอน