5 หาทางกลับ
บทที่ 5 หาทางกลับ
จิวฉิงยิ้มร่าออกมาอย่างดีใจ
“ท่านเอ่ยออกมาเองนะห้ามกลับคำ รุ่งเช้าข้าจะนำเรื่องนี้ไปแจ้งท่านพ่อหลังจากนั้นข้าจะออกจากเรือนของท่านทันที” คำพูดของนางทำเอาเหิงเยว์ต้องสงสัยคิ้วขมวดเข้าหากัน นางยอมมาอยู่ที่เรือนของเขานานนับ 5 ปี ไม่ยอมไปไหนแต่เหตุใดวันนี้นางถึงดีใจที่เขาจะหย่าให้นางเช่นนี้ แต่ก็ดีเช่นกันตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาเองก็ไม่ได้มีใจให้นางสักนิด แม้นางจะงดงามแต่เวลาที่มองใบหน้าของนางก็เห็นใบหน้าของภรรยาทับซ้อนเข้ามาทุกครั้ง ทำให้เขาไม่เคยมานอนที่ห้องของนางเลยตั้งแต่แต่งนางเข้ามา
“หากเจ้าต้องการเช่นนั้นก็เป็นการดีต่อตระกูลของข้าเช่นกัน” พูดจบเหิงเยว์ก็ได้เดินออกไปด้านนอก เข่อซิงก็ได้เดินเข้ามาเห็นนายหญิงของตนเองยิ้มมุมปากนางจึงเกิดความสงสัยมีเรื่องอันใดที่ทำให้นางมีความสุขได้ขนาดนี้
“คุณหนูยิ้มเช่นนี้มีเรื่องดี ๆ อันใด หรือเจ้าคะ”
“เข่อซิง คุณชายเหิงเยว์บอกว่าจะหย่าให้ข้า วันรุ่งขึ้นข้าจะนำเรื่องนี้ไปแจ้งต่อท่านพ่อเจ้ารีบไปพักผ่อนเถิดข้าเองก็จะไปพักเช่นกัน ” เข่อซิงงงงวยเอะใจที่เห็นคุณหนูดีใจขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนนางต้องร้องกรี๊ดออกมาไม่พอใจเป็นแน่ และไม่มีทางที่นางจะยอมหย่ากับคุณชายเหิงเยว์หรือว่าตอนนี้คุณหนูของนางจะเหนื่อยที่จะตามเอาใจคุณชายแล้ว
“ช่างเป็นเรื่องดีนะเจ้าคะ งั้นข้าจะพาท่านไปส่งที่ห้องเสียก่อนไปกันเถอะเจ้าค่ะ” เข่อซิงเองก็ดีใจหากคุณหนูของนางได้เลิกหมกมุ่นอยู่กับคุณชายเหิงเยว์ ต่อจากนี้นางอยากให้คุณหนูของนางเจอคนที่รักคุณหนูของนางจริง ๆ เสียที
จิวฉิงเดินตามหลังของเข่อซิงและครุ่นคิดหาทางกลับโลกของตนเอง ก็ได้เอ่ยถามเข่อซิงเพราะที่ตนเองมาที่นี่ได้ก็เพราะว่าตกน้ำ และร่างของหานเสี่ยว์ที่นางมาสิงอยู่ในตอนนี้ก็ตกน้ำเช่นกัน หากให้เลือกนางเองก็อยากกลับโลกตนเองจะดีกว่า
“จริงสิเข่อซิง บึงน้ำที่ข้าตกไปนั้นอยู่ที่ใดหรือ ข้าอยากจะไปดู” เข่อซิงหยุดเดินและมองหน้าคุณหนูของนาง
“นี่ท่านจำอะไรไม่ได้จริง ๆ นะหรือ "
“สงสัยความทรงจำของข้าได้หายไปตอนที่ข้าตกน้ำนะ”
“งั้นคุณหนูเดินตามข้ามาเถิดเจ้าค่ะ แต่ข้าว่าคุณหนูได้เพียงชั่วครู่นะเจ้าคะ อากาศเริ่มเย็นหมอกก็เริ่มลงแล้วเดี๋ยวร่างกายของคุณหนูจะไม่สบายเอาได้”
“รู้แล้ว รู้แล้ว” จิวฉิงดีใจที่เข่อซิงจะพาไปดูโดยไม่สงสัยนางสักนิด เมื่อเดินมาถึงก็พบสะพานข้ามสระน้ำช่างกว้างมากจริง ๆ จิวฉิงคุ้นตากับสะพานนี้นักเสมือนสะพานในโลกของตัวเองมาก ๆ เพียงแต่สระน้ำไม่ได้เป็นสายน้ำใหญ่เช่นในอนาคต และสระนี้ดันอยู่ในเรือนของเหิงเยว์อีกต่างหาก
“ที่นี่คือที่ที่คุณหนูตกลงไปเจ้าค่ะ” เข่อซิงผายมือไปด้านหน้าให้หานเสี่ยว์เดินดูตามที่นางต้องการ
จิวฉิงมองทอดไปยังแม่น้ำที่กระทบแสงจันทร์บนฟากฟ้าคืนนี้ช่างงดงามยิ่งนัก หากนี่เป็นที่ที่นางมานางก็อยากกลับไป คิดได้เช่นนั้นจิวฉิงก็ได้กระโดดลงสระโดยไม่ได้เอ่ยอะไรกับเข่อซิงสักคำ
ตู้ม!! พลันเสียงที่หานเสี่ยว์กระโดดลงน้ำทำให้เข่อซิงกระวนกระวายใจที่เห็นคุณหนูตนเองตกลงไป
“คุณหนู ใครก็ได้ช่วยด้วย ช่วยคุณหนูด้วย คุณหนูทำไมถึงกระโดดลงไปเช่นนั้นเจ้าคะ คุณหนูว่ายน้ำไม่เป็นด้วยซ้ำเช่นนี้ข้าจะทำเช่นไร” เข่อซิงตื่นตระหนกทำอะไรไม่ถูกหากจะลงไปช่วยตนเองก็ว่ายน้ำไม่เป็นหากจะวิ่งไปตามผู้อื่นมาช่วยก็กลัวไม่พบคุณหนู ความหวาดกลัวภายในใจก็เริ่มก่อตัวขึ้นมา เข่อซิงไม่อาจจะห้ามน้ำตาไว้ได้ ตอนนี้ร่างของหานเสี่ยว์ก็ได้ลงน้ำไปเนินนานไม่มีแม้ฟองอากาศที่โผล่ลอยขึ้นมา
“คุณหนู ไม่น่าเลย ข้าไม่น่าพาท่านมาเลย อึก ฮื้อ ฮื้อ” ทันใดนั้นเองก็มีมือเย็นเปียกชุ่มไปด้วยน้ำแตะลงที่ไหล่ของเข่อซิงที่ก้มหน้าร้องไห้อยู่
“เจ้าจะร้องไห้ทำไมเข่อซิง น้ำในบึงนี้มีเพียงน้อยนิดอีกอย่างข้าว่ายน้ำเป็น เฮ้อ! หนาวชะมัดกลับห้องกันเถอะข้าอยากล้างเนื้อล้างตัวเปลี่ยนเสื้อผ้า” เข่อซิงเห็นว่าเป็นคุณหนูของตนเองก็ได้ดีใจโผล่กอดนางทันที
“อึก อึก คุณหนูท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้าใจหายหมดคิดว่าจะไม่ได้พบคุณหนูอีกแล้ว” นางสะอื้นไห้จนจิวฉิงต้องปลอบให้นางหยุดร้องไห้
“ข้าขอโทษที่ทำอะไรโดยไม่คิดถึงความรู้สึกเจ้าไปกันเถิด ข้าหนาวเหลือเกิน” เข่อซิงเช็ดน้ำตาพยักหน้าและพาจิวฉิงกลับห้อง
ส่วนจิวฉิงนั้นได้ลงไปใต้น้ำเพื่อหามิติกลับโลกเดิมของตนเองกลับไม่พบอันใดเลยมีเพียงความมืดมิดใต้น้ำเท่านั้น ไม่เหมือนละครที่นางเคยดูแม้แต่น้อยที่จะมีมิติส่องสว่างอยู่ในจุดที่มา แล้วอย่างนี้นางจะกลับได้อย่างไร
เมื่อกลับมาถึงห้องนางได้ล้างเนื้อล้างตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าอาภรณ์ชุดใหม่เตรียมเข้านอน ก็ได้ครุ่นคิดตลอดเวลาวันที่ตนเองทะลุมิติมาที่นี่เป็นฤดูใบไม้ผลิมีเทศกาลลอยโคม จึงหันไปถามเข่อซิงที่แปรงผมให้นางอยู่
“เข่อซิงตอนนี้ถึงฤดูอันใดแล้ว "
“ตอนนี้ฤดูลี่ชิว (ฤดูใบไม้ล่วง) เจ้าค่ะ " เมื่อได้คำตอบหากเป็นเช่นดังที่จิวฉิงคิดนางมาในโลกนี้ ในฤดูใบไม้ผลิเช่นนั้นนางก็อาจจะได้กลับในฤดูใบไม้ผลิเช่นนี้นางก็ต้องอยู่ที่นี่อีก 1 ฤดูนางถึงจะกลับได้ หากเป็นเช่นนี้นางจะหย่ากับเหิงเยว์ไม่ได้เพราะบึงน้ำที่จะพานางกลับไปยังโลกของนางอยู่ที่เรือนของเขา ความคิดของจิวฉิงก็ได้เปลี่ยนไป นางจะไม่ยอมหย่ากับเหิงเยว์จนกว่าจะถึงฤดูใบไม้ผลิอีกครั้ง จิวฉิงได้สั่งให้เข่อซิงไปพักผ่อนหลังจากที่ผมของนางแห้งแล้ว นางเอนตัวลงนอนบนเตียงนอนที่ปูด้วยฟูกหน้านุ่ม พลางคิดถึงโลกของตนเอง
“ที่นอนนี่นุ่มจัง ไม่เหมือนตอนที่เป็นจิวฉิงเลยจะมีโอกาศนอนสบาย ๆแบบนี้มั้ยนะ” จิวฉิงเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวันเมื่อหัวถึงหมอนดวงตาก็เริ่มหนักอึ้งค่อย ๆ หลับไปอย่างเงียบ ๆ