บทที่ 3 สวัสดีฉิงเชาเจ้าของมิติ
บทที่ 3 สวัสดีฉิงเชาเจ้าของมิติ
"ฟู่เยี่ยนทำไมเธอพึ่งกลับเอาป่านนี้! เถลไถลไปที่ไหนแล้วเธอเอาเงินที่ไหนจ่ายค่ารถ" เธอมองตามต้นเสียงเห็นชายหนุ่มร่างกายบึกบึนยืนชูกระเป๋าเงินของเธอพลางกอดอกใบหน้าบูดบึ้งอย่างกับแบกโลกไว้ทั้งใบ แม้ตอนแรกที่เห็นเธอจะตะลึงในความคมเข้มของใบหน้าแต่ทว่าปากของเขากลับเลี้ยงสุนัขไว้เป็นร้อยตัว ทำให้ความหล่อของเขาได้หายไปหมดสิ้น ผู้ชายอย่างเขาไม่เข้าตาเธอเลยสักนิด
"ฮ่า ฮ่า นี่คุณถามว่าฉันไปเถลไถลที่ไหนอย่างนั้นเหรอ ช่างกล้าพูดออกมานะหรือว่าลืมไปแล้วว่าคุณทำอะไรกับฉันไว้ ส่วนค่ารถฉันขายแหวนจ่ายหมดเรื่องแล้วใช่มั้ยเอากระเป๋าเงินของฉันคืนมา" เธอเดินเข้ามาใกล้ยื้อแย่งเอากระเป๋าเงินคืน แต่ทว่าตอนนี้เธอกลับทำให้เขาโมโหมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ ก่อนที่เธอจะคว้าเอากระเป๋าเขาจับแขนของเธอเอวไว้เอ่ยถามเสียงแข็ง
"เธอเอาแหวนแต่งงานไปขายอย่างนั้นเหรอ! นี่มันจะมากเกินไปแล้วนะ" เธอถอนใจหายเงยหน้ามองร่างกายที่สูงใหญ่มากกว่าเธอก่อนจะตอบเขาอย่างไม่เกรงกลัว
"ใช่นะสิ ฉันขายแหวนแต่งงานเพื่อนำมาจ่ายค่ารถอย่ามาโทษฉันนะเป็นเพราะใครกันล่ะที่บังคับให้ฉันทำอย่างนี้ อีกอย่างคุณเองก็ไม่ได้สนใจในตัวฉันและไม่เคยรักฉันเลยสักนิดแค่แหวนแต่งงานจะเสียดายไปทำไม อ้อจริงสิ...ฉันมีเรื่องหนึ่งที่จะต้องคุยกับคุณให้รู้เรื่องในวันนี้ "
"คนอย่างเธอมีเรื่องอะไรจะคุยกับฉัน รีบกลับไปเอาแหวนแต่งงานคืนมาเดี๋ยวนี้เลยนะ "
"ไม่!! เพราะเรื่องที่ฉันจะพูดกับคุณคือเรื่องหย่า ฉันต้องการหย่าแต่นี่ไม่ใช่การปรึกษาหารือแต่เป็นความต้องการของฉัน พรุ่งนี้เช้าฉันกับคุณจะไปที่อำเภอด้วยกัน ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่แล้วต่างคนต่างไปดีกว่า อ้อมีอีกเรื่องค่าสินไหมเงินค่าเสียหายที่ฉันต้องมาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่กับคุณ หวังว่าคุณจะจ่ายให้ฉันสมน้ำสมเนื้อนะ คุณเป็นพวกที่ขี้อายไม่ใช่เหรอ เรื่องนี้ก็อย่าให้มันน้อยเกินไปนะไม่งั้นอายชาวบ้านตายเลย " มีมี่พูดจบสะบัดแขนของเขาออกเดินไปที่ห้องของตัวเองโดยไม่สนใจเขาอีกต่อไป
"โฮ่! ตั้งแต่ผมรู้จักคุณนายมามีวันนี้ที่ผมพึ่งจะเคยเห็นคุณนายกล้าจ้องหน้าท่านนายพลอีกทั้งยังกล้าขึ้นเสียงใส่ร่างกายไม่สั่นกลัวเหมือนที่ผ่านมาแววตาที่ดูแน่วแน่นั้นด้วย คงเพราะอยากหย่าจริง ๆ " เสี่ยวฮั่วหันควับไปจ้องมองใบหน้าลูกน้องตาขวาง เขารีบหลบหน้าปิดปากทันที
"ฉันแค่ให้เดินกลับบ้านถึงขั้นโมโหพูดเรื่องหย่าขึ้นมาอย่างนั้นหรือ ทั้ง ๆ ที่เธอตามเอาอกเอาใจฉันทุกวันจนน่ารำคาญ เฮอะ! "
"แล้วท่านนายพลจะเอาอย่างไรต่อไปครับ " ตู่หนานเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าเขาจะทำอย่างไรกับคุณนายในเมื่อสิ่งที่เขาต้องการตอนนี้มาถึงแล้ว ไปที่ไหนออกงานครั้งใดมักจะอับอายในเมื่อคุณนายต้องการหย่านับว่าเป็นเรื่องดีต่อตัวของเขาไม่น้อย
เสี่ยวฮั่วจ้องมองด้านหลังของฟู่เยี่ยนที่เดินกระแทกเท้าเข้าห้องปิดประตูเสียงดัง
"ในเมื่ออยากหย่าฉันจะหย่าให้ ดีเหมือนกันต่อจากนี้ไปที่ไหนจะได้ไม่ต้องอับอายที่มีภรรยาด้วยอย่างนี้ " เขาพูดจบไปเดินกลับห้องตัวเอง ตู่หนานมองตามหลังอย่างไม่เข้าใจปากบอกจะหย่าทำไมสีหน้าถึงได้บูดบึ้งไม่พอใจอย่างนั้น
ในห้องนอนของฟู่เยี่ยน
ตอนนี้มีมี่ได้เดินสำรวจห้องนอนคว้ากระเป๋าใบเล็กออกมาเก็บเสื้อผ้าสามสี่ตัวของใช้จำเป็นเพื่อออกไปอยู่ที่อื่น แต่แล้วจู่ ๆ เธอกลับมองเห็นแสงสว่างอยู่ด้านหน้าของตัวเอง
แสงสีขาวสว่างจนแสบตาทำให้เธอสงสัยอยากรู้ว่าแสงนั่นคืออะไรกันแน่ ตอนเข้าห้องมาทำไมเธอถึงไม่เคยเห็น
"นั่นแสงอะไรกัน" มีมี่ลุกขึ้นเดินไปที่ผนังห้องใช้มือสัมผัสแสงสีขาวแต่แล้วจู่ ๆ ร่างกายของเธอได้ดูดเข้าไปในมิติที่แสงสว่างไสวทันที
ตึก ตึก เสียงหัวใจของมีมี่เต้นแรงความหวาดกลัวเริ่มถาโถมเข้ามาเธอค่อย ๆ ลืมตาขึ้นช้า ๆ แต่แล้วสิ่งที่ปรากฏต่อหน้าต้องทำให้เธอตกใจมากกว่าเดิม ดวงตาเบิกโพลงโตเธอแทบไม่เชื่อสายตาใช้มือตบเข้าที่ใบหน้าของตัวเองเพื่อตอกย้ำว่าสิ่งที่เห็นอยู่นั่นใช่ความจริงหรือไม่?
"โอ๊ย! เจ็บ ... ว๊าวววแทบไม่อยากเชื่อสายตาเลยเหมือนเป็นความฝันก็ไม่ปาน” ใครจะคิดว่าเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นกับชีวิตเธอถึงสองครั้ง ดวงตาของเธอเป็นประกายเดินหยิบจับอย่างตื่นเต้น
"ฮ่า ฮ่า ในความโชคร้ายยังมีความโชคดีกับฉันจริง ๆ เมื่อครู่ฉันคิดอยู่เลยว่าออกไปจากบ้านหลังนี้แล้วฉันจะทำอะไรดี แม้ว่าฟู่เยี่ยนจะมีครอบครัวของเธอ แต่ถ้าฉันกลับไปได้ยังไงคุณพ่อคงไม่ยอมให้เธอหย่ากับเว่ยเสี่ยวฮั่วง่าย ๆ แน่ แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้ว ต่อจากนี้ฉันจะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ร่ำรวยเลี้ยงลูกโดยไม่ง้อสามีเอง ฮ่า ฮ่า" ในตอนแรกแม้เธอจะตกใจไม่น้อยที่จู่ ๆ เธอได้เห็นมิติที่แสดงอยู่ต่อหน้านั่นคือมิติซุปเปอร์มาร์เก็ตของใช้ทุกอย่างมีครบครัน เสมือนในยุคสมัยของเธอเลยไม่ผิดเพี้ยน
"ฉันฟู่เยี่ยนคนใหม่คิดออกแล้ว เมื่อออกจากที่นี่ฉันจะเปิดร้านขายของ เอ๊ะเดี๋ยวสิแล้วฉันจะเอาของจากที่นี่ออกไปได้มั้ยนะ แล้วมิตินี้ใช้งานยังไงกัน" เธอเริ่มสงสัยในการใช้งานของมิติได้เดินสำรวจดูจนทั่วและได้พบวิธีการใช้งาน
ติ่ง! มิติซุปเปอร์มาร์เก็ตได้เริ่มต้นการใช้งาน
"สวัสดีค่ะฉันฉิงเชาเป็นผู้ดูแลระบบระหว่างมิติยินดีต้อนรับคุณฟู่เยี่ยน" เสียงพูดได้ดังขึ้นในร้านตอนนี้เธอพอเข้าใจแล้วว่านี่คืออะไร เพราะเธอเคยอ่านนิยายเกี่ยวกับทะลุมิติมามาก ไหนจะทะลุมิติมาพร้อมระบบ ของเธอน่าจะเป็นทะลุมิติมาพร้อมมิติซุปเปอร์มาเก็ตสินะ!
"สวัสดีฉิงเชา ฉันมีเรื่องสงสัยของในนี้ฉันสามารถทำอะไรได้บ้าง"
"ไม่ว่าคุณจะทำอะไรสามารถทำได้ทั้งนั้น แต่ว่าเรามีข้อแม้นั้นก็คือทุกครั้งที่คุณฟู่เยี่ยนนำของออกไปต้องทำความดีช่วยเหลือคนยากไร้ ยิ่งทำมากเท่าไหร่คุณจะยิ่งได้ของไปมากเท่านั้น และของในนี้จะไม่มีวันหมด "
"เอาความดีมาแลกของอย่างนั้นเหรอและยังไม่มีวันหมดอีกด้วยเรื่องแค่นี้ไม่ใช่เรื่องยาก แล้วทุกครั้งที่ฉันต้องการจะใช้มิติจะทำยังไง "
"เพียงแค่คุณเรียกฉันฉันจะปรากฏต่อหน้าคุณตามที่ต้องการ แต่ไม่ต้องกลัวว่าคนอื่นจะเห็นเพราะมีเพียงคุณฟู่เยี่ยนเท่านั้นที่จะได้เห็นมิตินี้ นี่เป็นครั้งแรกและคุณงามความดีที่คุณทำมาตลอดสามารถหยิบของที่ต้องการออกไปได้ แต่ครั้งต่อไปฉันจะมาเมื่อเห็นว่าคุณได้ทำความดีแล้วเท่านั้น " เธอเริ่มคิดอย่างหนักในเมื่อตอนนี้เธอยังอยู่ที่นี่จะเอาของออกไปยังไงกัน จนในที่สุดเธอก็คิดบางอย่างออก
"วันนี้ฉันจะยังไม่เอาอะไรทั้งนั้นไว้ฉันออกไปจากที่นี่และมีหน้าร้านของตัวเองฉันจะเรียกเธอได้มั้ย?"
"ได้ค่ะ ต่อจากนี้หากอยากได้ของในมิติเรียกฉันได้เสมอ" เมื่อสิ้นเสียงภาพตรงหน้าของฟู่เยี่ยนได้หายไปเหลือเพียงแค่ห้องของเธอ ทำให้เธอตะลึงในสิ่งที่เกิดขึ้นมากกว่าเดิม
"นี่ฉันคงไม่สมองเบลอจนคิดไปเองใช่มั้ย ?ภาพเมื่อครู่นี่คงเป็นของจริงสินะ"
'เรื่องที่เกิดขึ้นกับคุณเมื่อครู่เป็นเรื่องจริงทั้งหมดค่ะ ฉันมีเรื่องหนึ่งที่ยังไม่ได้บอก อย่าให้ใครรู้เรื่องนี้เด็ดขาดหากความลับนี้แพร่งพรายออกไปมิติจะหายไปทันทีรวมทั้งฉันด้วย'
"เข้าใจแล้ว ฉันไม่ปากโป้งบอกใครหรอกนะ นี่คือหนทางที่จะทำให้ฉันร่ำรวยนี่น่า" หลังจากนั้นเสียงได้เงียบหายไป มีมี่ที่อยู่ในร่างของฟู่เยี่ยนได้อาบน้ำล้างกายแต่งชุดนอนดิ้นไปมาอยู่บนเตียง แม้ยังไม่คุ้นชินร่างกายที่อวบอ้วนนี่แต่เธอสามารถใช้ชีวิตไม่ต่างจากปกติ
"ช่างน่าเหลือเชื่อจริง ๆ ฉันทะลุมิติมาพร้อมมิติซุปเปอร์มาร์เก็ต นี่เจ้าหนูน้อยต่อจากนี้ฉันจะเป็นแม่ของเธอ เป็นฟู่เยี่ยนแม่หม้ายหย่าผัวที่สวยและร่ำรวยที่สุด ฉันจะเลี้ยงดูแลเจ้าหนูน้อยให้เป็นอย่างดีเอง วันนี้เราเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวันแล้วนอนพักกันเถอะนะ พรุ่งนี้เราจะต้องผจญภัยอีกยาวนาน " เธอลูบท้องเบา ๆ ก่อนจะหลับไปด้วยความเหนื่อยล้า