ตอนที่7 ออกจากบ้านสามี
กว่าจะถึงบ้านเดิมเหงื่อก็ไหลโชกจนเสื้อของเธอเปียกชื้นในตอนนี้พระอาทิตย์ยังอยู่กลางหัวอยู่เลยคาดว่าตอนนี้น่าจะเป็นบ่ายกว่าๆ เหมยจิงรีบจอดจักรยานไว้หน้าบ้านในตอนนี้เด็กๆ น่าจะติดตามตามพ่อกับแม่ของเธอลงทุ่งนา เด็กๆ ค่อนข้างคุ้นชินกับการเล่นกลางทุ่งนาเพราะเขาเติบโตมาจากชนบทเธอจึงไม่ต้องกังวล เหมยจิงรู้สึกร้อนและเหนียวตัวมากจึงต้องการอาบน้ำก่อนที่จะทำอาหารเย็นรอพ่อและแม่ของเธอ
ห้องอาบน้ำมีเพียงไม้กระดานเก่าๆ มากั้นไว้ ส่วนหลังคานั้นโล่งไม่มีอะไรปกปิด อีกด้านเป็นส้วมที่เหมยจริงเห็นทีไรยังอดรู้สึกขนลุกไม่ได้ มันเป็นเพียงหลุมที่ถูกขุดขึ้นมาแล้วมีไม้กระดานพาดผ่าน ไม่ต้องพูดถึงเรื่องกลิ่นแน่นอนว่ามันย่อมมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์มากอยู่แล้ว เหมยจิงลืมมันไปสนิทว่าเธอพลาดการซื้อสุขภัณฑ์แบบปัจจุบันติดมิติมาด้วย แต่เอาเถอะในตอนนี้ในอำเภอน่าจะมีขาย เพราะส่วนใหญ่ในเมืองจะเริ่มนิยมใช้ส้วมซึมกันเยอะแล้ว และแน่นอนว่าถึงเธอจะมีเงินหยวนก็ไม่สามารถซื้อมันได้ตามใจคิด ส่วนมากจะเป็นร้านค้าของรัฐปฏิเสธไม่ได้ว่าต้องใช้คูปอง ซึ่งนั่นหมายความว่าเธอต้องสอบถามความคิดเห็นของพ่อและแม่ของเธอด้วย เพราะอย่างไรเรื่องคูปองเธอคงต้องรบกวนพ่อกับแม่ของเธอ
เหมยจิงอาบน้ำอย่างมีความสุขกับสบู่กลิ่นหอมที่เธอชอบใช้เป็นอย่างประจำร่างเดิมนั้นผิวหยาบกร้านจนเกินไปแม้ว่าหน้าตาจะน่ามองอยู่บ้าง แต่เธอก็ยังต้องบำรุงผิวอย่างเข้มงวด เพราะรับไม่ได้หากต้องอยู่ในร่างที่ผิวไหม้แดดหน้าดำๆ ด่างๆ แถมยังผอมจนแทบไม่มีแรงเดิน เห็นทีการกินอาหารบำรุงแบบปกติคงไม่ได้ผลคงต้องกินอาหารเสริมร่วมด้วย เหมยจิงนำพวกโปรตีนเวย์เสริมกล้ามเนื้อออกมาหนึ่งกระป๋องขนาดกลาง เมื่อก่อนตอนเข้ายิมเธอมักกินโปรตีนเวย์เสริมกล้ามเนื้ออยู่เป็นประจำ และแน่นอนว่าต้องออกกำลังกายร่วมด้วยเธอนำฉลากของมันออกก่อนจะต้มน้ำร้อนเพื่อชงโปรตีนเพื่อรับประทาน
หลังจากดื่มเสร็จเธอก็เข้าห้องไปจัดการกับที่นอนลูกเดิมแม้มันจะยังใหม่อยู่แต่ความแข็งนั้นมันค่อนข้างทรมานในการนอนแบบสุดๆ เธอนำที่นอนฟองน้ำแบบเสริมสปริงออกมาจากมิติมาวางแทนลูกเก่าของเธอส่วนของเก่านั้นเธอนำเก็บไว้ในมิติหากจะเอาออกไปทิ้งชาวบ้านจะหาว่าเธอฟุ่มเฟือยเอาได้เพราะสภาพมันยังคงสมบูรณ์ เก็บไว้ในมิติก็ดีแล้วอย่างน้อยๆ วันหนึ่งมันคงสร้างประโยชน์ได้สักอย่างเธอไม่ลืมเปลี่ยนชุดผ้าปูลวดลายพื้นๆ เพื่อไม่ให้สะดุดตามากนัก นำผ้านวมผืนหนาออกมาพับวางไว้ ก่อนจะนำหมอนใบใหม่ออกมาสวมปลอกหมอนอย่างดีเธอไม่ลืมที่จะถอดผ้าม่านผืนเดิมออกเพื่อเปลี่ยนเป็นผืนใหม่ จริงๆ แล้วเธออยากเปลี่ยนชุดที่นอนให้พ่อและแม่ด้วย แต่เธอไม่กล้าเข้าไปในห้องพ่อและแม่โดยพลการไม่รู้ว่าแม่จะเก็บของมีค่าอะไรไว้บ้าง ทางที่ดีเธอต้องขออนุญาตแม่ก่อนเป็นการดีที่สุด
อาหารเย็นในวันนี้เหม่ยจิงทำเป็นหมูสามรสน้ำมันในหมูสามชั้นเมื่อรวมกับน้ำซอสอย่างดีมันส่งกลิ่นหอมเย้ายวนใจไม่น้อย ส่วนอาหารหารอีกจานหนึ่งเธอหยิบจากมิติเป็นขนมจีบที่ใช้กุ้งและหมูบดเป็นไส้ของมันอาหารในมิติคงสภาพเดิมไว้ตอนนี้มันจึงกำร้อนอยู่ เธอนำข้าวขาวมาหุงจำนวนหนึ่งกลิ่นหอมของข้าวขาวมันมีกลิ่นที่หอมจนรู้สึกหิว เมื่ออาหารเย็นเสร็จไม่นานก็ได้ยินเสียงของเด็กๆ และพ่อแม่ของเธอเดินกลับมาเหมยจิงค่อนข้างพอใจเมื่ออาหารเสร็จตรงเวลาพอดี
"ทำไมลูกกลับมาเร็วกว่ากำหนดละ"
แม่ของเธอถามขึ้นอยากแปลกใจเพราะก่อนหน้านี้ลูกสาวบอกว่าฝากเด็กๆ ไว้ก่อนถึงสองวัน
"ฉันไม่ปิดบังนะคะ บ้านโน้นไล่ฉันออกมาทั้งยังจะให้สามีหย่าจากฉันอีกด้วย แม่กับพ่อจะรังเกียจฉันรึเปล่าคะ หากฉันต้องกลายเป็นหญิงม่ายที่สามีหย่า"
"ทำไมถึงพูดแบบนั้นจิงจิงแม่เป็นแม่ของลูกนะ ทำไมแม่ต้องรังเกียจลูกด้วย"
แม่ของเธอพูดอย่างหนักแน่น พ่อที่ยืนเงียบตลอดแต่ยังคงส่งแววตาห่วงใยมาให้เธอ
"ขอบคุณค่ะแม่ ฉันสัญญานะคะว่าฉันจะต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นด้วยสองมือของฉันเองค่ะตอนนี้ฉันว่าเรารีบล้างมือแล้วไปกินข้าวกันเถอะค่ะ"
"ไปสิไปกินข้าวกันเถอะ"
เมื่อทั้งหมดเห็นอาหารจานเนื้อแม้จะรู้สึกปวดใจอยู่บ้างแต่ความหิวมีมากกว่าที่จะมาคิดอะไรที่ไร้สาระในตอนนี้พวกเขามีหน้าที่จะต้องจัดการอาหารพวกนี้ให้เรียบ
เฟยเทียนกับเฟยหยางรับจานกับจากแม่อย่างตื่นเต้นกลิ่นอาหารจานเนื้อลอยฟุ้งเข้าจมูกพวกเด็กๆ แอบกลืนน้ำลายลงคอกัน แม้สองวันมานี้พวกเขาจะได้กินเนื้อกันทุกวันก็ตามแต่ยังอดรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้เมื่อเห็นเนื้อสามชั้นฉ่ำๆ ในจานใบโตพวกเขารู้โดยสัญชาตญาณว่าสามารถกินเท่าที่พวกเขาต้องการ
พวกเขามีความสุขมากหากไม่ต้องกลับไปบ้านของย่าจริงๆ ตามที่แม่บอกที่บ้านของย่าพวกเขาไมเคยกินอิ่มสักมื้อบางวันก็ถึงกับแทบไม่ได้แตะอาหาร ในตอนนี้อาหารถูกกวาดลงท้องอย่างรวดเร็วโดยใช้เวลาอันรวดเร็วถึงเช่นนั้นเด็กๆ ก็รับประทานอาหารอย่างสุภาพ เหมยจิงมีความรู้สึกดีเพิ่มขึ้นเมื่อเห็นว่าเด็กๆ ว่านอนสอนง่ายเอ่ยบอกเพียงครั้งเดียวพวกเขาก็ช่างรู้ความยิ่งนักหลังจากมื้ออาหารเธอจะต้องคุยกับพ่อและแม่เรื่องการปรับปรุงห้องน้ำใหม่
"พ่อคะแม่คะ ฉันมีเรื่องจะปรึกษาค่ะ"
"จิงจิงมีเรื่องอะไรหรือ"
แม่ของเธอเอ่ยถามอย่างสงสัย
"ฉันอยากปรับปรุงห้องส้วมใหม่ค่ะ พ่อกับแม่คิดเห็นว่ายังไงบ้างฉันจะเป็นคนออกเงินแต่คงต้องรบกวนเรื่องคูปองกับแม่ได้หรือไม่คะ"
"ห้องส้วมหรือผมเคยเห็นในอำเภอ"
พ่อนี่นั่งเงียบมาตลอดเอ่ยขึ้นอย่างตื่นเต้นเมื่อลูกสาวเอ่ยถึงห้องส้วมฉบับในเมือง
"แต่นั่นมันต้องใช้เงินมากเลยนะจิงจิง แม่รู้ว่าลูกมีเงินแต่มันจะไม่ดีกว่าหรือหากลูกจะเก็บไว้สำหรับเด็กๆ"
แม่เหมยเอ่ยอย่างกังวลใจ ในส่วนเรื่องคูปองแน่นอนว่าเธอมีอย่างเหลือเฟือแต่การที่ลูกสาวของเธอใช้เงินอย่างมือเติบแบบนี้ก็แอบทำให้เธอทุกข์ใจ
"แม่คะ ตอนนี้ฉันได้งานแล้วในอนาคตฉันยังต้องทำรายได้เข้ากระเป๋าได้อีกมาก "
"ลูกได้งานอะไรจิงจิง"
แม่เหมยเอ่ยถามอย่างตกใจ
"ฉันรับเสื้อผ้ามาขายเก็งกำไรในตัวอำเภอค่ะ แน่นอนว่าฉันได้ผลตอบแทนมาก"
ทั้งพ่อและแม่ของเธอตกใจแทบช็อก เมื่อรู้ว่าลูกสาวของตนลูกสาวริอาจกลายเป็นแม่ค้าแผงลอยถึงช่วงนี้รัฐจะเปิดให้การค้าเสรีมากแล้วก็ตาม แต่ส่วนมากยังขึ้นอยู่กับรัฐ
"มันสามารถขายได้ดีขนาดนั้นเลยหรือ"
"ใช่ค่ะแม่ ฉันคิดว่าหากไปได้ดีฉันจะพาแม่ไปขายของด้วยกันแม่สนใจมั้ยคะ"
"แต่มันจะดีหรือจิงจิง"
"มันต้องเป็นไปด้วยดีค่ะ"
หลังจากพ่อและแม่ยินยอมสำหรับการปรับปรุงห้องส้วมใหม่ เหมยจิงก็รับตั๋วจากแม่และเธอจะออกไปจัดการเรื่องหาส้วมซึมในรุ่งเช้า สมัยนี้ยังไม่ส้วมระบบชักโครกเธออดรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ซื้อพวกมันติดมาด้วยแต่เอาเถอะได้แค่ส้วมซึมก็ถือว่าดีมากแล้วส่วนการก่อสร้างพ่อของเธอจะเป็นคนจัดการเองโดยจะขอแรงช่วยจากเพื่อนบ้านชายแข็งแรงสองคน
หลังจากเด็กๆเข้าไปในห้องนอนยังมีเรื่องชวนตกตะลึง ทั้งห้องสะอาดทั้งยังมีผ้าม่านสะอาดๆ ไหนจะที่นอนหนาๆ ผ้านวมที่ดูแล้วคงต้องอบอุ่นมากๆ พวกเขาอยากลงไปนอนเกลือกกลิ้งให้สมกับความต้องการหากไม่มีสายตาของแม่ที่ยืนกดดันให้พวกตนไปชำระร่างกายให้เรียบร้อยก่อน
หลังจากอาบน้ำเฟยหยางและเฟยเทียนก็ต้องแปลกใจอีกครั้งเมื่อผิวสัมผัสของการนอนมันดีมาก ดีจนเสียอยากหลับในทันทีตั้งแต่เกิดมานอกจากกินเนื้อนี่ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้พวกเด็กๆ มีความสุขมากอีกอย่าง
อย่าว่าแต่เด็กๆ เลยแม้แต่ผู้ใหญ่อย่างเธอยังรู้สึกมีความสุขเลยเหมยจิงมองลูกๆ อย่างมีความสุขในอนาคตเธอต้องสามารถเลี้ยงพวกเขาให้เติบโตขึ้นอย่างมีคุณภาพ แม้ไม่ได้ทำงานโรงงานในอนาคตพวกเขาก็จะมีกิจการที่เธอสร้างขึ้นมา เป็นงานที่สร้างรายได้และเลี้ยงตัวเองอย่างไม่ลำบากและแน่นอนมันย่อมดีกว่าลูกจ้างในโรงงานเป็นไหนๆ มีโอกาสเจริญเติบโตในเส้นสายธุรกิจเป็นอย่างมาก
เช้าวันถัดมาเหมยจิงปั่นจักรยานเข้าอำเภอไปสั่งซื้อส้วมซึมและพวกปูนและอิฐแดงจำนวนหนึ่งเธอควักเงินหยวนจ่ายถึง50หยวน และคูปองอีกปึกหนึ่งมันชวนให้ปวดใจอย่างยิ่งยวด ดีสักหน่อยทางร้านมีบริการส่งถึงบ้าน และแน่นอนว่าเมื่อเห็นรถยนต์เข้าไปในหมู่บ้านชาวบ้านย่อมแตกตื่นหากไม่ติดงานในทุ่งนาพวกเขาย่อมอยากตามไปดูว่ารถยนต์คันงามนั้นมาบ้านใครกันแน่ แต่ทำได้แค่เก็บความสงสัยไว้ภายในอกก้มหน้าก้มตาทำงานในส่วนของตนเองไป
วันพรุ่งนี้พ่อกับเพื่อนบ้านคงจะเริ่มลงมือแล้ว เหมยจิงจัดเตรียมอาหารเที่ยงง่ายๆ ในวันนี้เพียงแค่ข้าวขาวผัดใส่ไข่และหมูเธอไม่ลืมที่จะใส่ผักต่างๆ เพื่อให้ครบคุณค่าทางโภชนาการ มีทั้งหอมใหญ่ แครอท มีน้ำซุปกระดูกเนื้ออีกหนึ่งหม้อโรยผักชีหอมๆ แค่ได้กลิ่นก็ชวนน้ำลายสอแล้ว
พ่อและแม่กลับมาหลังจากนั้นไม่นานพร้อมกับเด็กๆ ที่เล่นซุกซนจนเหงื่อไหลท่วมตัวเธอบอกให้เด็กๆ ไปล้างตัวก่อนมารับประทานอาหารเมนูวันนี้ชวนให้เจริญอาหารมาก เด็กๆ ไม่เลือกที่จะกินเพราะฉะนั้นผักที่เด็กๆ ในยุคสองพันมีปัญหาในการกิน แต่ไม่ใช่สำหรับเด็กน้อยที่น่าสงสารสองคนนี้พวกเขากินมันไปได้โดยไม่มีปัญหาน้ำซุปกระดูกวัวที่ทั้งหอมทั้งอร่อย พวกเขาแทบจะอยากกลืนลิ้นลงท้องไปเลยด้วยซ้ำไป