บทที่ 6 จากไปไม่มีวันกลับ 2/2
เวลานี้เว่ยอู๋ซินกลับมาถึงแล้ว ชายหนุ่มวิ่งกระหืดกระหอบมาจนถึงข้างเตียงที่น้องสาวของตนนอนอยู่ จากนั้นจึงได้ยื่นกระปุกยาลดไข้ให้แม่ของตนทันที
“ยาฝรั่งเหรอ ดีแล้วจะได้ให้อ้ายเหม่ยกินตอนนี้เลย” หลี่ฟางเจียวบอกด้วยรอยยิ้ม ยาฝรั่งแบบนี้นั้นหายากและมีราคาแพง ดังนั้นหากเว่ยอ้ายเหม่ยได้กินคงจะหายดีแน่ ๆ
แต่ทว่าเวลานี้เด็กสาวยังไม่รู้สึกตัวจึงไม่สามารถที่จะกลืนยาเม็ดลงไปได้ ดังนั้นผู้เป็นแม่จึงได้จัดการบดยาลดไข้นั้นผสมกับน้ำ แล้วค่อย ๆ ป้อนเข้าปากให้แทน เมื่อป้อนยาจนหมดแล้วคนทั้งบ้านก็นั่งรอคอยว่าปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้นกับครอบครัวตนเองหรือไม่
ฟางเสี่ยวหรงสลับกับหลี่ฟางเจียวมาเช็ดตัวให้เว่ยอ้ายเหม่ยตลอด แต่เวลาผ่านไปเพียงไม่กี่นาทีคนบ้านรองเว่ยกลับรู้สึกเหมือนกับว่าเวลานั้นผ่านไปช้าและดูจะยาวนานมากเหลือเกิน พวกเขารอดูอาการของสาวน้อยอย่างใจจดจ่อ และได้แต่กล้ำกลืนฝืนทนเก็บความเจ็บปวดนี้เอาไว้
หลี่ฟางเจียวนั่งหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเพื่อไหว้ขอพรจากเทพเจ้าต่าง ๆ ให้ลูกสาวของตัวเองฟื้นขึ้นมา ไหว้ไปก็ร้องไห้ไปเพราะไม่รู้จะทำวิธีไหนแล้วจริง ๆ
“แม่ครับ อีกไม่นานน้องก็จะฟื้นแล้ว ได้กินยาไปแล้วก็คงจะดีขึ้น ผมเห็นคนเขาพูดกันว่ายาฝรั่งนั่นดีมากเลย กินปุ๊บก็หายปั๊บ ยังไงอ้ายเหม่ยต้องหายอย่างแน่นอน” เว่ยตงพูดปลอบใจแม่ที่กำลังร้องไห้เสียใจจนแทบจะเสียสติ ใจเขานั้นพยายามคิดในทางที่ดีเข้าไว้ และคนต่างก็พูดว่ายาฝรั่งนั้นดียังไง อีกทั้งราคายังแพงแสนแพง
“จริงอย่างที่พี่ใหญ่พูดค่ะแม่ ฉันก็ได้ยินมาอย่างนั้นเหมือนกัน แม่อย่าเพิ่งเสียใจไปนะคะ” ฟางเสี่ยวหรงเองก็ให้กำลังใจแม่สามี เธอเห็นสภาพแม่สามีแล้วก็อดที่จะสงสารไม่ได้ แต่ก็จะห้ามให้ไม่เสียใจก็คงไม่ได้เช่นกันเพราะยังไงคนที่นอนไม่ได้สติก็คือลูกสาวทั้งคน
ตอนนี้ผ่านมาได้ครึ่งชั่วโมงแล้วหลังจากกินยาเข้าไป เหมือนกับว่าเว่ยอ้ายเหม่ยจะหยุดตัวสั่นแล้ว แต่เหงื่อที่ผุดออกมายังไม่หมด ร่างกายก็ยังคงร้อนอยู่แต่ไม่มากเหมือนก่อนหน้านี้ จางอิงจับดูตัวของเว่ยอ้ายเหม่ยแล้วรีบร้องบอกทุกคนอย่างดีใจ
“ดีขึ้นแล้ว ๆ ไข้ลดลงแล้ว”
“จริงเหรอ ขอพี่ดูหน่อย” เว่ยตงพูดแล้วรีบเดินมาหาเมื่อได้ยินว่าอาการไข้ของน้องสาวนั้นลดลงแล้ว
เมื่อเว่ยตงจับดูที่หน้าผากของน้องสาว ก็พบว่าไข้ลดลงแล้วจริง ๆ ทุกคนในบ้านรองเว่ยต่างก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่ว่าก็ยังดีใจได้ไม่เต็มที่เพราะว่าตอนนี้เพียงแต่ไข้ลดลงเท่านั้น เว่ยอ้ายเหม่ยยังไม่ฟื้นคืนสติมาเลย พวกเขาตั้งความหวังไว้รอพรุ่งนี้เช้า ระหว่างนี้ก็คงต้องสลับกันเฝ้าต่อไป
“หวังว่าพรุ่งนี้อ้ายเหม่ยจะฟื้นขึ้นมานะ แล้วต้องกินยาเม็ดต่อไปตอนกี่โมง” เว่ยตงเอ่ยถามออกมาและหวังว่าน้องสาวของตนเองนั้นจะฟื้นในวันพรุ่งนี้
“ป้อนยาอีกทีก็ตอนเจ็ดโมงเช้าค่ะ” ฟางเสี่ยวหรงคือคนทำหน้าที่ป้อนยาตอบกลับสามี
“ดี ๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้กินยาอีกรอบก็คงจะอาการดีขึ้น ฟางเจียวก็อย่าเป็นกังวลเลยนะ” เว่ยเฉียนพูดขึ้น พร้อมกับหันไปพูดให้กำลังใจภรรยาตนเอง
คนบ้านรองเว่ยยืนดูสาวน้อยของบ้านที่นอนสลบไสลด้วยความเบาใจขึ้นมาบ้าง โดยที่ไม่รู้เลยว่าตอนนี้ลูกสาวและน้องสาวของพวกเขาไม่อยู่บนโลกใบนี้แล้ว ลมหายใจกับหัวใจที่ยังเต้นอยู่กลับกลายเป็นของดวงวิญญาณอีกดวงที่เข้ามาแทน
ทว่าเวลานี้ ดวงวิญญาณดวงนี้ยังไม่พร้อมที่จะตื่นขึ้นมาเท่านั้นเอง