บทที่ 5 นี่คือผลจากการที่เจ้าดูหมิ่นข้า
บทที่ 5
นี่คือผลจากการที่เจ้าดูหมิ่นข้า
อย่ารังแกข้า!
อวี้อ้ายฉิงพยายามดิ้นรนออกจากอ้อมกอดกักขฬะ แต่วงแขนแข็งแกร่งกลับยิ่งกอดรัด แล้วโดยที่นางไม่ทันตั้งตัวเขาก็ใช้นิ้วมือบีบปลายคางของนางอย่างแรงจนเรียวปากอวบอิ่มบิดเบี้ยว
“อ้ายฉิงเจ้าวางแผนอะไรอยู่กันแน่!”
“อื้อ...อ้าไอ่ไอ้อางแอน”
นางพยายามบอกว่านางไม่ได้วางแผน แต่เพราะมือหนาราวกับคีมเหล็กที่กำลังบีบเรียวปากทำให้นางออกเสียงได้ไม่ชัดนัก และนั่นทำให้คนตัวโตปล่อยมือออกเพื่อให้นางได้แก้ตัวอีกครั้ง
“โปรดเชื่อข้าและคลายโทสะลงก่อนเถอะเจ้าค่ะท่านโหว เวลานี้ข้าตัดใจจากท่านแล้วจริงๆ ข้าไม่ได้รักท่าน ไม่ได้ชอบท่าน ไม่ได้อยากได้ท่านเป็นสามีอีกต่อไปแล้ว เรื่องคืนนั้นข้าไม่สน... อะ...อื้อ”
พูดยังไม่ทันจบเรียวปากที่กำลังขยับชี้แจงก็ถูกปล้นปลิดอย่างรวดเร็ว
ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจที่เรียวปากถูกบดเบียดอย่างฉกฉวย สองมือจึงดันแผงอกแกร่งแล้วออกแรงทุบตีเขาอย่างไม่ยอมจำนน
“ท่านโหวหยุดนะ!”
เมื่อเรียวปากเป็นอิสระนางจึงรีบเบือนหน้าหนีเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาที่โน้มต่ำลงมา ทว่าโหวหนุ่มหาได้ยอมล่าถอย
“ในเมื่อเจ้ากล้าดูหมิ่นข้า เจ้าก็ต้องเผชิญกับสิ่งที่จะตามมา”
“ข้าไปดูหมิ่นท่านเมื่อไหร่กัน”
“หึ! ยังต้องให้ข้าพูดอีกงั้นหรืออ้ายฉิง หญิงแพศยามากเล่ห์อย่างเจ้ามีหรือจะไม่รู้ตัวว่าทำสิ่งใดลงไป”
พูดจบก็กดปลายจมูกลงบนซอกคองามระหง หญิงสาวทั้งหวาดกลัวทั้งหวิวโหวงจากสัมผัสที่ชายหนุ่มยัดเหยียดให้ นางพยายามทุบตีเขาทว่าเขากลับรวบข้อมือทั้งสองข้างของนางด้วยมือเพียงข้างเดียว ก่อนจะดันร่างบางให้ถอยร่นจนกระแทกเข้ากับผนังห้อง
ตึง!
เสียงแผ่นหลังกระแทกแรง ก่อนที่เขาจะตรึงมือของนางเอาไว้เหนือศีรษะแล้วดึงผ้าผูกเอวของนางมามัดข้อมือนางเอาไว้
“ท่านบ้าไปแล้วหรือ ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้นะ จู่ๆ มามัดมือข้าทำไม ปล่อยนะ!”
หญิงสาวตวาดแหวด้วยความกลัว เสียงของนางสั่นเครือ ใบหน้าซีดขาว ทว่าซือหม่าตงหยางคุ้นชินกับท่าทางจอมปลอมเช่นนี้ของอวี้อ้ายฉิงเสียแล้ว เขาจึงเข้าใจว่านางกำลังแสร้งทำเป็นหวาดกลัว ทั้งที่ภายในใจคงกำลังสั่นระริกด้วยความซ่านกระสันไร้ยางอาย
“คงอยากให้ข้าสนใจเจ้ามากสินะ จึงได้ฝากข้อความดูหมิ่นข้าไปกับพ่อบ้าน จงใจป่าวประกาศข้อความที่โรงตีเหล็กราวกับจะฉีกหน้าข้าต่อหน้าคนเป็นจำนวนมาก”
“ขะ...ข้อความหรือ”
อวี้อ้ายฉิงงุนงงสับสนไปหมด ข้อความที่นางฝากพ่อบ้านไปก็เพื่อจะให้เขาสบายใจว่านางไม่สนใจเขาอีกต่อไปแล้ว ไม่สนใจ ไม่ไยดี ไม่ต้องการ แล้วนางทำอะไรผิดพลาดตรงไหนเล่า เหตุใดมันจึงกลับตาลปัตรเช่นนี้
“ได้โปรด...อย่ารังแกข้าเลยนะเจ้าค่ะท่านโหว”
เมื่อทุบตีผลักไสไม่ได้ผล นางจึงใช้ไม้อ่อนด้วยการวอนขอ แม้ว่าร่างนี้จะเคยตกเป็นของเขา แต่จิตวิญญาณของนางยังคงเป็นสาวบริสุทธิ์ผุดผ่อง ไม่เคยผ่านมือชายใดมาก่อน อีกทั้งยังไม่เคยมีคนรักเลยสักครั้ง
เรียกได้ว่านางเชี่ยวชาญทางด้านทฤษฎีเพราะชอบอ่านฉากเอ็นซียี่สิบห้าบวกบวกบวกในนิยาย แต่ภาคปฏิบัติอ่อนด้อยจนน่าอนาถใจ
เมื่อถูกกอดรัดลวนลามจากบุรุษเพศนางจึงหวาดกลัวจนตัวสั่นเทา หยาดน้ำตาเอ่อคลอหน่วยตาราวกับจะหยาดหยดลงมา
วูบหนึ่งซือหม่าโหวรู้สึกสงสาร แต่เมื่อคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืน นางแก้ผ้าเปลือยเปล่าต่อหน้าเขาอย่างไร้ยางอาย คิดเช่นนั้นโหวหนุ่มก็แสยะยิ้มที่มุมปากด้วยเข้าใจว่านางกำลังเสแสร้งแกล้งแสดงเช่นทุกครั้ง
“เมื่อคืนเจ้าไม่ได้เป็นเช่นนี้นี่อ้ายฉิง เจ้าร้อนแรงราวกับหญิงแพศยา เจ้าครวญครางอยู่ใต้ร่างข้าด้วยความกระสันอยาก แล้วตอนนี้เจ้าจะมาพลิกลิ้นเล่นบทบาทดั่งเป็นสาวน้อยใสซื่องั้นหรือ ช่างน่าขันเกินไปแล้ว”
แคว้ก!
พูดจบชายหนุ่มก็ดึงทึ้งสาบคอเสื้อตัวนอกของหญิงสาวออก ก่อนจะปลดเปลื้องอาภรณ์สีขาวตัวในโดยที่อวี้อ้ายฉิงไม่อาจปกป้องตนเองได้เลย
“อย่านะ ยะ...อย่า อื้อ...”
เรียวปากของนางถูกปล้นปลิดอีกครา ทว่าครานี้หาใช่การใช้ปากบดเบียดลงมาอย่างในคราแรก ซือหม่าโหวสอดลิ้นร้อนเข้าไปในโพรงปากรสหวาน ปลายลิ้นกระหวัดลิ้นเล็กพันเกี่ยวในขณะที่ริมฝีปากบดเร้าหนักหน่วงจนหัวใจของหญิงสาวเต้นระรัวแรงแทบจับจังหวะไม่ได้
ตึก! ตึก! ตึก!
จูบที่นางเคยเฝ้าจินตนาการมันเป็นเช่นนี้เองหรอกหรือ ไอ้ความรู้สึกที่คุณนักเขียนเคยบรรยายเอาไว้ว่าดั่งมีผีเสื้อนับร้อยพันบินวนอยู่ในท้องมันเป็นเช่นนี้เอง เวลานี้ในท้องของนางบิดมวนหวิวโหวง หัวใจอ่อนยวบก่อนจะเต้นแรงแทบกระโจนออกมาจากอก
รู้สึกดีจัง...
ชั่วขณะอวี้อ้ายฉิงรู้สึกเผลอไผลไปกับจูบของเขา ดั่งถูกมอมเมาด้วยฤทธิ์สุราดีกรีแรง แต่ทว่าสติสัมปชัญญะอันน้อยนิดก็ผุดพรายขึ้นมาราวกับเตือนสติ
ไม่!
ไม่ได้!
ข้าไม่ควรข้องเกี่ยวกับพระเอกนิยาย เพราะถึงอย่างไรเขาก็ไม่มีวันรักนางร้ายเช่นข้า หากข้าถลำกายให้เขาด้วยจิตวิญญาณนี้ แล้วข้าจะต่างอะไรกับนางร้ายผู้เป็นเจ้าของร่างเล่า
เมื่อสมองคัดค้านหญิงสาวจึงดิ้นรนขัดขืน นางใช้เท้าถีบถองต่อสู้ ก่อนจะตัดสินใจกัดลิ้นของเขา ทว่าชายหนุ่มกลับชักลิ้นออกจากเรียวปากเสียก่อนราวกับรู้ทัน
ทว่า
กลับช้าไปเพียงเสี้ยวลมหายใจ เพราะฟันคมๆ ของนางได้กัดลงบนริมฝีปากหนาของเขาจนเลือดไหล