บทที่5โดนลงโทษให้อดอาหารสามวัน
แม่สามีได้รับคำตอบที่ต้องการจึงสบายใจจึงเลิกกร่นด่าจีหว่านแต่ยังมีเสียงบ่นทิ้งท้ายให้ได้ยิน
”ถ้าปีนั้นนางไม่อุ้มท้องเอ้อหลางข้ากับพ่อของเจ้าไม่มีทางให้นางได้เข้ามาอยู่บ้านสวี่ของเราเด็ดขาดเฮ้อ!สงสารก็แต่เอ้อหลางที่มีแม่แบบนี้“
สวี่ซูลี่สนับสนุนคำพูดของผู้เป็นแม่ทันที
“นั่นสิเจ้าคะถ้านางโสเภณีชั้นต่ำไม่เปลี่ยนข้าวสารให้เป็นข้าวสุกทำให้เราต้องฝืนใจรับนางเข้ามาไม่เช่นนั้นในอนาคตพี่ใหญ่ต้องได้แต่งบุตรสาวขุนนางที่เพียบพร้อมเข้ามาสกุลสวี่ของเราแน่ๆ“
ถ้าเจ้าของร่างเดิมได้ยินคำพูดทิ่มแทงใจแบบนี้คงต้องแอบไปร้องไห้เงียบๆจีหว่านคิดในใจดีแล้วที่เจ้าของร่างเดิมตายไปไม่อย่างนั้นคงต้องอยู่อย่างทุกข์ใจเพราะเจ้าของร่างเดิมไม่สู้คน
จีหว่านคร้านที่จะสนใจสองแม่ลูกเมื่อทำความสะอาดบ้านเสร็จนางจึงคว้าตระกร้าสะพายหลังกับมีดหนึ่งเล่มและหินไฟสาวเท้าก้าวออกจากบ้านจุดหมายปลายทางคือภูเขาท้ายหมู่บ้าน
”ท่านแม่ข้าไปตัดหญ้าให้หมูนะเจ้าคะท่านช่วยป้อนข้าวให้เอ้อหลางด้วยนะเจ้าคะ” จีหว่านตะโกนบอกแม่สามีที่กำลังให้สวี่ซูลี่บีบนวดคลายความเมื่อย
หวังหงเซ่อมองฟ้าดูแล้วนี่ก็ใกล้เวลาอาหารเช้าแล้วจึงพูดว่า
”ไปเถอะเก็บฟืนมาด้วยล่ะ“
จีหว่าน “เจ้าค่ะ”
จีหว่านไม่กลัวว่าบุตรชายของตนเองจะหิวโหยเพราะถึงนางไม่บอกพ่อแม่สามีก็ไม่มีทางให้หลานชายอดอาหารแน่ๆแม้กระทั่งผู้เป็นอาอย่างสวี่ซูลี่ยังรักและเอ็นดูหลานชายอย่างสวี่หมิงยิ่งนัก
ทุกคนในบ้านสวี่รังเกียจแค่จีหว่านคนเดียวเท่านั้นส่วนสวี่หมิงที่หน้าตาเหมือนสวี่เจียถึงเพียงนั้น
และสายเลือดในกายครึ่งนึงก็เป็นสายเลือดของสกุลสวี่ทุกคนจึงรักและเอ็นดูเขา
จีหว่านคิดว่าถ้าสวี่หมิงหน้าตาไม่เหมือนบิดาคนบ้านสวี่คงไม่ยอมรับเขาและจะกล่าวหาว่าเจ้าของร่างเดิมท้องกับคนอื่นแน่ๆ
ทที่5รักแท้?
ดนลงโทษให้อดอาหารสามวัน
มื้อเย็นวันนี้จีหว่านกินข้าวไปถึงสองถ้วยท่ามกลางสายตาดุดันของหวังหงเซ่อถ้าฆ่าคนให้ตายได้ด้วยสายตาจีหว่านคงถูกสายตาคู่นั้นทิ่มแทงจนตายไปแล้ว
เพราะมีสวี่เจียอยู่ด้วยอาหารเย็นมื้อนี้จึงผ่านไปได้ด้วยดีตกกลางคืนพ่อแม่สามีก็พาสวี่หมิงไปนอนด้วย
ถึงแม้คนทั้งคู่จะไม่ชอบจีหว่านแต่กับหลานชายแล้วคนทั้งคู่ให้ความรักอย่างมากล้นอาจจะไม่มากเท่าสวี่จินซินบุตรชายของสวี่ซูลี่แต่ก็ไม่น้อยกว่ากันมากนัก
วันรุ่งขึ้นฟ้ายังไม่สว่างสวี่เจียก็เร่งรีบกลับสำนักศึกษาเขากอดลาบุตรชายด้วยความอาลัยอาวรณ์
“เอ้อหลางข้าไปก่อนนะวันหยุดครั้งหน้าข้าจะรีบกลับมา”
สวี่หมิงกอดคอสวี่เจียแน่นไม่ให้เขาไปสวี่เจียจึงเอ่ยปลอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ข้าไปศึกษาเล่าเรียนเพื่อที่ในอนาคตเจ้าจะได้อยู่อย่างสุขสบายเป็นเด็กดีรอข้าอยู่ที่บ้านนะ”
สวี่หมิงยังเด็กนักพึ่งอายุหนึ่งหนาวจึงไม่เข้าใจถ้อยคำที่สวี่เจียพูดแต่ก็ยอมปล่อยแต่โดยดีเพราะท่านปู่ของเขาเข้ามาอุ้ม
”เอ้อหลางไปเที่ยวกัน“
แค่นั้นแหละสวี่หมิงจึงปล่อยมือที่กอดคอสวี่เจียอยู่และโผเข้าสู่อ้อมแขนของชายชราในทันที
สวี่ฉางเป็นหัวหน้าหมู่บ้านและมีฐานะค่อนข้างร่ำรวยจึงมีรถม้าและเกวียนเทียมวัวเป็นของตนเองญาติผู้พี่ของสวี่เจียรับหน้าที่บังคับรถม้าไปส่งเขาที่สถานศึกษา
ทันทีที่สวี่เจียจากไปหวังหงเซ่อก็กร่นด่าเสียงดัง
”นังตัวซวยเมื่อวานข้าบอกแล้วใช่ไหมว่าห้ามกินข้าวเกินครึ่งถ้วยมีข้าวให้เจ้ากินก็ดีแค่ไหนแล้วยังไม่รู้จักสำนึกบุุญคุณตักตวงเอาผลประโยชน์เข้าหาตัวนังคนเห็นแก่ตัวเห็นแก่ได้อย่าหวังว่าได้เป็นสะใภ้บ้านข้าแล้วจะกอบโกยเอาทรัพย์สมบัติไปได้แม้แต่แดงเดียวนังคนอัปรีย์จัญไร“
จีหว่านที่กำลังกวาดบ้านอยู่ได้ยินถ้อยคำที่แม่สามีด่าแล้วถึงกับมุมปากกระตุกแต่ถ้าถามว่ารู้สึกผิดไหมที่กินข้าวไปสองถ้วยตอบเลยว่าไม่
ถ้าเมื่อวานไม่อิ่มเสียก่อนจีหว่านก็จะกินข้าวให้หมดหม้อไปเลยก็ใครใช้ให้แม่สามีปล่อยให้เจ้าของร่างเดิมอยู่แบบอดยากไม่เคยได้กินอิ่มสักมื้อทั้งที่ทำงานหนักกันเล่า
หวังหงเซ่อยังคงกร่นด่าไม่หยุดสวี่ฉางไม่สนใจที่จะห้ามปรามเขาอุ้มสวี่หมิงด้วยมือข้างเดียวอีกมือนึงก็จับจูงมือสวี่จินซิน
“ต้าหลาง,เอ้อหลางไปเที่ยวกับปู่“
เจ้าก้อนแป้งทั้งสองคนได้ยินว่าจะไปเที่ยวก็ดีอกดีใจหัวเราะดังคิกคิก สวี่ฉางไม่ได้พาเด็กๆไปเที่ยวไหนไกลการไปเที่ยวของเขาก็คือพาเด็กทั้งสองคนเดินเล่นภายในหมู่บ้านนั่นเองแต่ถึงกระนั้นเด็กๆทั้งสองคนก็ชอบมาก
แม่สามียังคงกร่นด่าไม่หยุดเพิ่มเติมคือสวี่ซูลี่มาช่วยด่าอยู่ข้างๆด่าอย่าเดียวไม่พอสวี่ซูลี่ยังคอยเสี้ยมให้หวังหงซื่อที่เดิมที่ก็เกลียดลูกสะใภ้คนนี้ที่ตนเองไม่ต้องการยิ่งเกลียดเข้าไปใหญ่
จีหว่านปล่อยให้สองแม่ลูกมหาภัยกร่นด่าจนเหนื่อยแล้วหยุดไปเองนางทำความสะอาดบ้านท่ามกลางเสียงกร่นด่าอย่างสบายๆ
จริงดังที่จีหว่านคาดการณ์ไว้ไม่นานสองแม่ลูกก็เหนื่อยแล้วหยุดกร่นด่าไปเองแต่หวังหงเซ่อยังด่าทิ้งท้ายว่า
“นังหมาป่าตาขาวข้าลงโทษให้เจ้าอดอาหารสามวัน”
ปกติถ้าสวี่เจียไม่อยู่จีหว่านก็ได้กินอาหารเพียงวันละมื้ออยู่แล้วอาหารที่กินก็ไม่ทำให้อิ่มท้องมิฉะนั้นเจ้าของร่างเดิมคงไม่ต้องไปกินเห็ดพิษจนตาย
หวังหงเซ่อไม่ได้ยินเสียงตอบจากจีหว่านจึงพูดอีกครั้ง
“เจ้าเข้าใจไหมห้ามกินอาหารบ้านข้าเป็นเวลาสามวันถ้าข้ารู้ว่าเจ้าแอบกินข้าจะให้เจ้าใหญ่หย่ากับเจ้า“
จีหว่านตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา”เจ้าค่ะ“
แม่สามีได้รับคำตอบที่ต้องการจึงสบายใจจึงเลิกกร่นด่าจีหว่านแต่ยังมีเสียงบ่นทิ้งท้ายให้ได้ยิน
”ถ้าปีนั้นนางไม่อุ้มท้องเอ้อหลางข้ากับพ่อของเจ้าไม่มีทางให้นางได้เข้ามาอยู่บ้านสวี่ของเราเด็ดขาดเฮ้อ!สงสารก็แต่เอ้อหลางที่มีแม่แบบนี้“
สวี่ซูลี่สนับสนุนคำพูดของผู้เป็นแม่ทันที
“นั่นสิเจ้าคะถ้านางโสเภณีชั้นต่ำไม่เปลี่ยนข้าวสารให้เป็นข้าวสุกทำให้เราต้องฝืนใจรับนางเข้ามาไม่เช่นนั้นในอนาคตพี่ใหญ่ต้องได้แต่งบุตรสาวขุนนางที่เพียบพร้อมเข้ามาสกุลสวี่ของเราแน่ๆ“
ถ้าเจ้าของร่างเดิมได้ยินคำพูดทิ่มแทงใจแบบนี้คงต้องแอบไปร้องไห้เงียบๆจีหว่านคิดในใจดีแล้วที่เจ้าของร่างเดิมตายไปไม่อย่างนั้นคงต้องอยู่อย่างทุกข์ใจเพราะเจ้าของร่างเดิมไม่สู้คน
จีหว่านคร้านที่จะสนใจสองแม่ลูกเมื่อทำความสะอาดบ้านเสร็จนางจึงคว้าตระกร้าสะพายหลังกับมีดหนึ่งเล่มและหินไฟสาวเท้าก้าวออกจากบ้านจุดหมายปลายทางคือภูเขาท้ายหมู่บ้าน
”ท่านแม่ข้าไปตัดหญ้าให้หมูนะเจ้าคะท่านช่วยป้อนข้าวให้เอ้อหลางด้วยนะเจ้าคะ” จีหว่านตะโกนบอกแม่สามีที่กำลังให้สวี่ซูลี่บีบนวดคลายความเมื่อย
หวังหงเซ่อมองฟ้าดูแล้วนี่ก็ใกล้เวลาอาหารเช้าแล้วจึงพูดว่า
”ไปเถอะเก็บฟืนมาด้วยล่ะ“
จีหว่าน “เจ้าค่ะ”
จีหว่านไม่กลัวว่าบุตรชายของตนเองจะหิวโหยเพราะถึงนางไม่บอกพ่อแม่สามีก็ไม่มีทางให้หลานชายอดอาหารแน่ๆแม้กระทั่งผู้เป็นอาอย่างสวี่ซูลี่ยังรักและเอ็นดูหลานชายอย่างสวี่หมิงยิ่งนัก
ทุกคนในบ้านสวี่รังเกียจแค่จีหว่านคนเดียวเท่านั้นส่วนสวี่หมิงที่หน้าตาเหมือนสวี่เจียถึงเพียงนั้น
และสายเลือดในกายครึ่งนึงก็เป็นสายเลือดของสกุลสวี่ทุกคนจึงรักและเอ็นดูเขา
จีหว่านคิดว่าถ้าสวี่หมิงหน้าตาไม่เหมือนบิดาคนบ้านสวี่คงไม่ยอมรับเขาและจะกล่าวหาว่าเจ้าของร่างเดิมท้องกับคนอื่นแน่ๆ