บทที่ 2
“ตกลงกันได้แบบนี้ก็ดี… งั้นเอาเป็นว่าฉันจะกักตัวลูกสาวเธอไว้สามวันเพื่อแลกกับหนี้ก้อนนี้”
คมกริชเอื้อมมืออีกข้างมาเปิดประตูรถพร้อมกับผลักร่างน้อยๆ เข้าไปด้านใน
“ไอ้เรือง… ไอ้เดช… กลับโว้ย”
คมกริชตะโกนแล้วเข้าไปนั่งในรถคู่กับร่างน้อยๆ ของพิมพิศร์ที่กลัวจนตัวสั่น
ไอ้เรืองขึ้นมานั่งในตำแหน่งสารถี ไอ้เดชรีบเข้ามานั่งข้างๆ ปิดประตูรถแล้วขับออกมา ทิ้งนางชบาที่ยืนร้องไห้ฟูมฟายไว้เบื้องหลัง
พิมพิศร์มองภาพของมารดาจากกระจกมองหลัง กระทั่งลับจากสายตา
ในขณะที่รถกำลังแล่นออกมาสู่ถนนใหญ่ หญิงสาวกำลังจะกดโทรศัพท์มือถือ แต่โดนคนตัวใหญ่ที่นั่งเคียงข้างคว้าโทรศัพท์เอาไว้เสียก่อนจะทันได้โทร
“จะโทรไปไหน”
คมกริชถามเสียงเหี้ยม
“นายจ๋า… หนูขอโทรหาแม่”
พิมพิศร์วิงวอนเสียงอ่อน คมกริชครุ่นคิดชั่วอึดใจสั้นๆ… ก่อนจะคืนโทรศัพท์ให้หล่อน
“อย่าคุยนานนะ”
กำชับเสียงดุ เงี่ยหูรอฟัง
“ค่ะ… ”
พิมพิศร์รีบโทรหาแม่
“แม่จ๋า… ไม่ต้องห่วงนะแม่… ”
พิมพิศร์กล่าวลามารดาเพียงสั้นๆ
“พวกมันทำอะไรหนูหรือเปล่า”
นางชบาละล่ำละลักถามด้วยความเป็นห่วง
“ไม่ค่ะแม่… ”
หญิงสาวรีบตอบเพื่อให้มารดาสบายใจ ทั้งที่ในใจหวาดกลัวจนเหงื่อชุ่มอยู่ใต้ฝ่ามือ
“แม่ขอโทษนะลูก… ฮือๆ… ”
นางชบากล่าวทั้งเสียงสะอื้น ทั้งที่แสนเป็นห่วงลูกสาว หากแต่ตอนนี้ก็ไม่มีทางเลือกอื่นใดเหลือไว้ให้หล่อน นอกจากทำตามข้อเสนอของเจ้าหนี้ที่ยื่นข้อแลกเปลี่ยนสุดอำมหิตมาให้… ด้วยการเอาตัวลูกสาวของหล่อนไปบำเรอกามแลกกับหนี้ก้อนใหญ่
ในเวลาต่อมา
เมื่อกลับมาถึงบ้านหลังใหญ่ของพ่อเลี้ยงคมกริช เขาสั่งให้ ‘ลำไย’ สาวใช้วัยเบญจเพสซึ่งมีชะตากรรมเดียวกับพิมพิศร์ พาหล่อนมายังห้องพักเล็กๆ ที่อยู่ด้านหลังครัว
ลำไยมาอยู่ที่นี่เกือบสามเดือนแล้วก็ยังไม่ได้กลับบ้าน ด้วยมารดาของหล่อนเอาบ้านและที่ดินมาจำนองไว้กับพ่อเลี้ยงคมกริชและไม่มีปัญญาหาเงินมาใช้คืน ทำให้ต้องมาอยู่รับใช้ในบ้านหลังนี้
ลำไยพาหญิงสาวผู้มาใหม่เข้ามาในห้องพัก จัดเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นไว้ให้กับพิมพิศร์ที่มาแต่ตัวและหัวใจดวงน้อยที่ไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าจากนี้โชคชะตาจะเล่นตลกอะไรกับชีวิตของหล่อน
“พี่ลำไย… ชุดแบบนี้ฉันไม่ใส่นะ… แล้วนี่ไม่มีชุดชั้นในให้บ้างหรือจ๊ะ”
พิมพิศร์ยื่นชุดนอนแบบสายเดี่ยวเปิดอกกว้างคืนให้กับลำไย
“ชุดชั้นใน… จะใส่ทำไมวะ เพราะว่ายังไงเอ็งก็ต้องถอดอยู่ดี และพ่อเลี้ยงคมกริชก็ไม่ชอบให้ใส่ชั้นในเสียด้วยสิ… เอ็งอย่าเรื่องมากน่ะอีหนู ไหนๆ ก็เข้ามาอยู่ในบ้านเขาแล้ว ทำตัวให้ง่ายเข้าไว้… ฉันเตือนแล้วนะ”
เสียงดุๆ ของผู้ที่อยู่มาก่อนจนรู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร ทำให้สาวน้อยจำต้องยอมสวมชุดนอนบางๆ โดยปราศจากชั้นใน เป็นชุดที่ใส่แล้วทำให้หล่อนกลายเป็นนางโลมนางยั่วไปทันที เพราะว่าเนื้อผ้าซาตินพลิ้วบางๆ แนบเน้นเข้ากับผิวกายตามกระแสลมสาดเข้ามาปะทะเรือนร่าง ทำให้มองเห็นส่วนเว้าส่วนโค้งของความเป็นสาวชัดเจนสะดุดตา
“ตัวแค่นี้… นมใหญ่เนินใหญ่เหลือเกินนะแม่คุณ”
ลำไยวิจารณ์สองเต้าคัพเอฟอวบใหญ่และหนอกเนินสวาทโหนกนูนเบียดแน่นอยู่เต็มง่ามขา ทำให้ลำไยที่มีทุกอย่างด้อยกว่า มองอย่างนึกอิจฉา ‘ลูกหนี้สาว’ คนใหม่ที่มีนอกจากจะมีดวงหน้าหวานสะสวยสะดุดตา ทรวดทรงยังเซ็กซี่เหลือเกิน
“ไปเถอะ… ชักช้าเดี๋ยวนายด่า”
ลำไยทำท่าว่าจะเดินนำออกมาจากห้อง ท่าทางยำเกรงเจ้าของบ้านทำให้พิมพิศร์รู้ว่าพ่อเลี้ยงน่าจะเป็นคนเจ้าอารมณ์
“ไปไหนคะพี่ลำไย… ”
พิมพิศร์ตกใจ
“วันนี้วันเกิดนาย… นายมีปาร์ตี้ริมสระน้ำ”
ลำไยเดินออกมาจากห้อง
พาสาวน้อยที่ยังไม่รู้ชะตาว่าวันนี้หล่อนกำลังจะกลายเป็น ‘ของขวัญวันเกิด’ ชิ้นสำคัญที่ถูกใจนายและลูกสมุนของนายที่สุด
ลำไยพาพิมพิศร์เดินมาจนถึงสระน้ำหลังบ้านหลังใหญ่ แลเห็นแสงไฟสว่างสาดลอดพุ่มลีลาวดีออกมาถึงทางเดินเล็กๆ ปูด้วยกระเบื้องหยาบสีน้ำตาล ทอดยาวมาถึงงานปาร์ตี้ที่มีพ่อเลี้ยงคมกริชนอนเหยียดยาวอยู่บนเตียงไม้ริมสระ