ตอนที่ 10 สองต่อสอง
วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการสัมมนาที่แสนจริงจัง แต่ตารางการอบรมมีเพียงแค่ครึ่งวันเช้าเท่านั้นเพื่อให้คณะหมอใช้เวลาครึ่งบ่ายในการท่องเที่ยวและซื้อของฝากก่อนที่จะแยกย้ายกันเดินทางกลับในวันรุ่งขึ้น
“พวกเราไปหาซื้อของฝากกันดีไหม” หมอสาวชักชวนเพื่อนทั้งสองขณะที่เดินออกจากห้องสัมมนา
“ไปดิ ไปไหมไอ้เหนือ” ราวินตอบรับทันที
เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ของหมอสุดหล่อดังขึ้นขัดจังหวะการตอบรับคำชวนของเพื่อน
“รับโทรศัพท์แป๊บนะ”
หมอหนุ่มเดินเลี่ยงออกไปรับสาย เพราะคนที่โทรมาคือขวัญข้าว ไม่ดีแน่หากคุยกับเธอต่อหน้าเพื่อนๆจอมซัก เข้าเบื่อที่จะตอบคำถาม
“ครับ”
“เอ่อ หมอคะ คือข้าวมีเรื่องจะคุยกับหมอ ลงมาหาข้าวที่ลานจอดรถได้ไหมคะ เราไปหาที่เงียบๆคุยกัน”
“ผมกำลังจะออกไปข้างนอกกับเพื่อนครับ คงไปหาคุณไม่ได้”
“แต่ข้าวมีอยากคุยเรื่องเมื่อคืน คือว่าข้าว เอ่อ”
“ก็ได้ครับ งั้นเดี๋ยวผมลงไปหา ขอไปบอกเพื่อนก่อน”
พิชญะเดินกลับไปหากลุ่มเพื่อน แล้วพูดในสิ่งที่หมอสาวไม่อยากได้ยิน
“เอ่อ ฉันคงไปกับพวกแกไม่ได้แล้วว่ะพอดีมีธุระต้องออกไปข้างนอก”
“ธุระอะไรอ่ะเหนือ ไปด้วยกันก็ได้ เดี๋ยวเราแวะให้เหนือทำธุระก่อนค่อยไปเที่ยวกับหาซื้อของฝากกัน พรีมเช่ารถไว้แล้ว”
“ธุระส่วนตัวน่ะพรีม เหนือไม่สะดวกให้ใครไปด้วย อย่ารอเลย พรีมกับวินไปกันก่อนเถอะ”
“ธุระส่วนตัวอะไร เหนือไม่ได้รู้จักใครที่นี่ มีอะไรหรือเปล่า”
“พรีม อย่าไปซักไซ้มันเลย ปล่อยมันไปทำธุระเถอะ เราไปกันสองคนก็ได้”
ราวินตัดบท ไม่อยากให้เพื่อนทั้งสองต้องมีเรื่องขุ่นใจกัน
“ธุระที่ว่านี่ กับคุณข้าวใช่ไหมเหนือ เหนือยังต้องข้องเกี่ยวอะไรกับเขาอีกเหรอ”
ความร้อนใจทำให้หมอสาวเก็บอาการไม่อยู่
“ใช่ เหนือมีเรื่องต้องเคลียร์กับคุณข้าว แต่ไม่ต้องเป็นห่วงนะ เหนือรู้ตัวดีว่ากำลังทำอะไรอยู่”
หมอหนุ่มตัดบทแล้วรีบเดินหนีไปอย่างรวดเร็วก่อนที่จะโดนเพื่อนซักฟอกไปมากกว่านี้
“ฉันว่าเธอทำเกินไปหน่อยนะพรีม”
“ฉันทำอะไรวิน ที่ว่าเกินไป”
“เธอก้าวก่ายชีวิตไอ้เหนือมันมากเกินไปไง เราเป็นแค่เพื่อนมันนะพรีม มีสิทธิ์ห่วง แต่อย่าให้มันมากเกิน มันไม่ดี”
“นายก็รู้ว่าฉันรู้สึกยังไงกับเหนือ แต่ทำไมเหนือทำกับฉันแบบนี้”
“ตบมือข้างเดียวมันไม่ดังนะ บางทีเธออาจต้องยอมรับความจริงแล้วว่ะ นี่มันนานมากแล้วนะที่เธอรอแต่ไอ้เหนือแค่คนเดียว”
“ไม่ ถ้าไม่มีผู้หญิงคนนั้น เหนือต้องหันมามองฉัน”
“มันไม่เกี่ยวกับผู้หญิงคนไหนทั้งนั้น เพราะถ้ามันจะมอง มันมองเธอนานแล้ว มันไม่ขีดเส้นความสัมพันธ์กับเธอไว้แค่เพื่อนแบบนี้มาเป็นสิบๆปีหรอก”
“ฉันไม่มีวันยอม นายก็รู้ว่าต่อให้เหนือจะชอบผู้หญิงคนนั้นแค่ไหน ก็ไม่มีทางที่จะเป็นไปได้ ฉันก็ยังมีสิทธิ์ และฉันจะไม่มีวันยอมเสียเหนือไปให้กับผู้หญิงหน้าไหนทั้งนั้น”
“ฉันว่าเธอมาไกลไปแล้วนะพรีม ฉันทำได้แค่เตือนเธอว่าอย่าถลำลึกไปให้มากกว่านี้ถ้าไม่อยากเจ็บปวด”
ราวินวางมือบนไหล่บอบบางของเธอเพื่อแสดงความห่วงใย
“ไป ไปเที่ยวกันเถอะ หาอะไรอร่อยๆกินดีกว่า ฉันพาเธอทัวร์เอง”
แล้วก็เป็นเขาอีกตามเคย ที่ถึงแม้จะทะเลาะตบตีกันยังไง สุดท้ายเขาก็ต้องเป็นฝ่ายง้อ หรือทำให้เธออารมณ์ดีเสมอ
“เห้อ ไปก็ไป”
หมอสาวถอนหายใจอย่างแรงเพื่อไล่ความรู้สึกเสียใจและผิดหวัง แต่คนอย่างเธอทำได้แค่อดทนและเฝ้ารอต่อไป
ภายในรถยนต์คันหรูที่มีสาวสวยเป็นสารถี กำลังมุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมือง
“หมออยากไปไหนหรือเปล่าคะ ข้าวจะพาไป”
“ไหนบอกว่าเราจะมาคุยกันไงครับ คุณมีอะไรก็ว่ามาเถอะ”
“ข้าวหิวนี่คะ แวะหาอาหารเหนือทานกันดีกว่านะ ข้าวมีร้านแนะนำ บรรยากาศดีมากค่ะ”
แล้วเจ้าบ้านอย่างเธอก็พาเขามาทานอาหารเหนือ ราคาหลักร้อยแต่วิวหลักล้าน ตัวร้านอยู่บนเนินเขาสูงมีชานไม้ยื่นออกนอกหุบเขา หันหน้าชมวิวแนวเทือกเขาสูงที่มีต้นไม้เขียวชอุ่ม บนพื้นชานไม้มีโต๊ะไม้เตี้ยๆตั้งวางเป็นแนวยาวรอบชิดริมระเบียง
ขันโตกขนาดใหญ่ถูกเสิร์ฟให้กับหนุ่มสาวที่นั่งบนฟูกพื้นชานไม้ อาหารเหนือรสชาติพื้นเมืองแท้ถูกปากทั้งคู่เป็นอย่างมาก ความหิวทำให้เธอกับเขาตั้งหน้าตั้งตาทานอาหารจนแทบไม่พูดคุยกัน
“คุณมีอะไรจะคุยกับผมเหรอครับ” เขาเอ่ยถามขึ้นเมื่อทั้งคู่ทานอิ่ม
“ขอข้าวหาที่ที่เป็นส่วนตัวกว่านี้หน่อยนะคะ”
ชายหนุ่มมองไปรอบๆร้านก็พบว่ามีผู้คนมากมายมาใช้บริการ เรื่องที่เธอคุยอาจเป็นเรื่องส่วนตัวจริงๆ จึงไม่อยากคุยในท่าสาธารณะขนาดนี้