เผื้อมึงจะลืม
"มาถึงกันแล้ว ขับรถยังไงวะ มาช้ากว่าพวกกูอีก" ธันถามลินกับองศาที่เดินเข้ามาในร้านเค้ก หน้าโรงเรียนเก่า ที่พวกเขาเคยมานั่งกินประจำหลังเลิกเรียน พวกเขามาถึงก่อนได้สักพักแล้ว ทั้งที่พวกเขาออกรถมาทีหลังลินอีก แต่เขาก็ไม่ได้คำตอบ เพราะว่าลินกับองศามาถึง ต่างก็นั่งลงที่ของตัวเอง แล้วก็ยกมือเรียกพนักงานให้มารับออเดอร์เลย ทำให้เขาไม่ได้คำตอบอะไร
"ลิน...นี่มึงเป็นลิน เพื่อนของพวกกูจริงๆใช่ไหมวะ" เก้ามองหน้าของลินอย่างพิจารณา หลังจากที่เขาถามจบแล้ว เพราะว่าลินสวยขึ้นจากเดิมมาก โดยเฉพาะผิวพรรณ แต่รูปร่างของใบหน้าทุกอย่างยังเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือผิวหน้าเนียนละเอียดสวยขึ้น
"องศา...มึงหนิแม่ง วิ่งหนีพวกกูไปขึ้นรถของลินเฉยเลย" เจนจบว่าให้องศาด้วยความหมั่นไส้ เพราะว่าองศาวิ่งขึ้นรถของลิน แล้วทิ้งรถของตัวเองเอาไว้ที่มหาวิทยาลัย
"กูบอกมึงแล้วไง ว่ากูขี้เกียจขับรถ" องศาพูดออกมาหน้าตาเฉย โดยที่ไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรออกมา
"พวกมึงดูหน้าของกูพอใจกันรึยังวะ" ลินถามทุกคนเสียงเรียบ หลังจากที่เธอปล่อยให้เพื่อนๆ มองหน้าของเธอจนพอใจแล้ว
"งั้นมึงก็บอกมาได้แล้ว ว่ามึงหายไปไหนมา มึงไม่ต้องรอให้พวกกูถามหรอก มึงก็รู้...ว่าพวกกูจะถามอะไร" ต้นนํ้าบอกกับลิน แล้วส่งสัญญาณให้ทุกคนเงียบ
"ที่กูหายไป ที่บ้านของกูมีปัญหาใหญ่ พ่อกูเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต ในเช้าวันที่กูกลับมาจากคอนโดขององศา พ่อกูออกมาตามหากู ทำให้พ่อกูเกิดอุบัติเหตุรถควํ่าเสียชีวิต แล้วหลังจากงานศพของพ่อกู ญาติพี่น้องของพ่อ ก็ไล่กูกับแม่ออกจากบ้าน พวกเขาบอกว่าที่พ่อกูเสีย เพราะว่ากูเป็นต้นเหตุ ทำตัวไม่ดี กูกับแม่ก็เลยย้ายไปอยู่ที่อู่ของพ่อ ที่เป็นที่ดินของแม่กู มือถือของกูก็โดนอาของกูเผาทิ้ง เพราะว่ามันเป็นสาเหตุที่ทำให้พ่อติดต่อกูไม่ได้ พ่อกูโทรหากู แล้วกูไม่รับ แล้วหลังจากนั้น ความวุ่นวายในชีวิตกูก็เกิดขึ้น" ลินหยุดพูดแล้วมองหน้าของทุกคน ที่นั่งอ้าปากค้างฟังที่เธอพูดอยู่
"พ่อของมึงเสีย...!!" เจนจบถามด้วยนํ้าเสียงที่ตกใจ ในขณะที่ทุกคนนั่งอึ้งอยู่
"ใช่ พ่อของกูเสียในเช้ามืดของวันนั้น" ลินตอบด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย
"เรื่องใหญ่จริงๆด้วยว่ะ" ต้นนํ้าพึมพำออกมาเบาๆ เขายอมรับว่าเขาตกใจจนพูดอะไรไม่ออก
"มึงโดนไล่ออกจากบ้าน แล้วมึงไปอยู่ที่ไหน อู่มึงอยู่ที่ไหน" พายถามลิน หลังจากที่เขาตั้งสติได้แล้ว
"อีกซอยหนึ่ง พ่อเสีย...ทุกอย่างในชีวิตของกูต้องสะดุด หรือว่าหยุดไปเลยก็ว่าได้ พ่อกูเสีย...กูควรที่จะเสียใจใช่ไหม เพราะว่ากูกับพ่อ เราสนิทแล้วก็รักกันมาก ตามที่พวกมึงเห็น กูเสียใจ...แต่กูไม่มีเวลาเศร้าเลย เพราะว่าแม่กูก็แทบจะตายตามพ่อกูไป อู่ก็ไม่มีคนดูแล ไหนจะโดนไล่ออกจากบ้านอีก ถึงกูจะเสียใจ แต่กูก็ต้องดูแลแม่ ต้องดูแลอู่แทนพ่อ แล้วต้องย้ายบ้านอีก กูต้องหยุดการเรียนเอาไว้ก่อน กู..."
"นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้มึงไม่อยากเจอพวกกู เพราะว่างานเลี้ยงคืนนั้น ทำให้เกิดเรื่อง..."
"ถ้ากูจะโทษว่าเป็นความผิดของใครสักคน กูต้องโทษตัวกูเอง กูบอกแล้วไง กูไม่มีเวลาที่จะติดต่อใคร พ่อกูเสีย...กูเสียใจ แต่กูไม่มีเวลาเศร้าเลย เพราะกูต้องดูแลอีกหลายชีวิตที่อยู่ในอู่ แล้วพ่อกูก็รักอู่นี้มาก เป็นทางเดียว ที่จะทำให้กูทดแทนให้กับพ่อของกูได้" ลินพูดแทรกเก้า ก่อนที่เธอจะเมินหน้าหนีจากทุกคน
"แล้วญาติของมึง..."
"ตอนนี้กูไม่มีญาติแล้ว กูมีแค่แม่แล้วก็...ช่างมันเถอะ ตอนนี้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางแล้ว กูก็เลยกลับมาเรียน แค่นี้แหละชีวิตของกู ช่วงที่กูหายไป" ลินยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย หลังจากที่เธอพูดจบแล้ว
"แล้วอู่ของมึงอยู่ที่ไหนวะ" ธันถามลินออกมาเสียงเบาจนแทบจะเป็นกระซิบ บอกตรงๆเขาตกใจมาก ถึงตอนนี้ลินจะเล่าให้พวกเขาฟัง ด้วยนํ้าเสียงและใบหน้าที่เป็นปกติก็เถอะ แต่กว่าลินจะผ่านมันมาได้ มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายแน่นอน มันทำให้เขาพูดอะไรไม่ออก เขาไม่คิดว่าลินจะเจออะไรขนาดนี้ ถ้าเป็นเขา เขาอาจจะไม่เข้มแข็งเท่าลิน
"ตอนนี้มึงยังอาศัยอยู่ที่อู่เหรอ" องศาถามลินด้วยนํ้าเสียงที่ไม่ต่างจากคนอื่น เขาไม่คิดว่าลินจะเจอปัญหาใหญ่ในชีวิตขนาดนี้ มิน่าล่ะ ลินดูเข้มแข็งมาก จนออกไปทางแข็งกระด้างด้วยซํ้า ทั้งที่ตัวของลินเล็กลงกว่าเมื่อก่อนก็เถอะ
"นี่ไง...อู่ของกู กูอยู่ที่อู่นี้ตลอด ตั้งแต่ที่พ่อของกูเสีย เพราะว่ากูไม่อยากทิ้งพ่อไปไหน ถึงธุรกิจของกูจะเริ่มขยับขยายได้แล้ว แต่กูกับแม่ก็ยังอาศัยอยู่ในบ้านทางด้านหลังของอู่ บ้านหลังที่พ่อของกูเคยใช้เวลาที่พ่อมาทำงาน แต่ต่อเติมออกมาจากเดิมอีกเล็กน้อย เพราะว่าเราใช้เป็นที่อยู่อาศัยถาวร" ลินตอบพร้อมกับให้ดูรูปอู่ของเธอไปด้วย
"จันวราประดับยนต์ เห๊ย...นี่มันอู่ที่กำลังเป็นที่นิยมหนิ หือ...เป็นอู่ของมึงจริงๆเหรอลิน มึงเอาอู่ของคนอื่นมาหลอกพวกกูป่ะเนี่ย" ต้นนํ้าถามลินด้วยนํ้าเสียงที่ตื่นเต้นปนไม่อยากจะเชื่อ
"จันวรา...?"
"จันวราเป็นนามสกุลของแม่กูเอง พ่อกูรักแม่มาก ก็เลยเอานามสกุลของแม่มาตั้ง" ลินพูดแทรกก่อนที่องศาจะถามจบ
"มิน่าล่ะ พวกกูถึงตามหาอู่ของมึงไม่เจอ ใช่ไหมพวกมึง" พายหันไปถามความเห็นของทุกคน เพราะว่าพวกเขาตามหาอู่ของลิน จากนามสกุลของพ่อลิน หลังจากที่พวกเขาไปตามหาลินที่บ้านพ่อของลินไม่เจอแล้ว บ้านของพ่อลินอยู่ในรั้วบ้านเดียวกันกับปู่กับย่าของลิน รวมทั้งญาติพี่น้องทางพ่อของลินด้วย พวกเขาไปตามหาลินที่บ้านของพ่อลินแล้ว แต่ก็โดนไล่ออกมาอย่างไม่มีเหตุผล
"รู้กันแล้วนะ กูขอพวกมึงอย่างหนึ่งนะ อยู่ที่มหาวิทยาลัย พวกมึงทำเป็นไม่รู้จักูได้ไหมวะ ไหนๆพวกมึงก็จะจบแล้ว ไหนพวกมึงจะออกไปฝึกงานอีก กูไม่อยากเป็นจุดสนใจของสาวๆของพวกมึง กูอยากตั้งใจเรียนให้จบ แล้วกูก็อยากอยู่อย่างเงียบสงบด้วย" ลินมองหน้าทุกคนด้วยสายตาที่ขอร้อง หลังจากที่เธอพูดจบแล้ว
"ทำไมวะ มึงไม่เห็นจะต้องไปสนใจเลย เอ่อ...มึงรู้ไหมลิน ว่าไอ้ชินมันจะจีบมึง หรือว่ามันจีบมึงแล้ววะ" ธันถามลิน เมื่อเขานึกขึ้นได้ ว่าชินพูดอะไรกับพวกเขาไว้
"ไม่สนใจไม่ได้ เพราะว่าสาวๆของพวกมึงจะมาดักตบกู แล้วกูก็ขี้เกียจอธิบายประวัติของกูด้วย แล้วเรื่องของไอ้ชิน กูไม่สนใจหรอก จีบไม่ติดเดี๋ยวมันก็เลิกไปเอง มันก็พอๆกับพวกมึงนั่นแหละ เจ้าชู้พอกันเลย" ลินพูดอย่างไม่ใส่ใจ
"เรื่องนั้นค่อยคุยกัน มาพูดเรื่องอู่ของมึงดีกว่า กูขอเข้าไปฝึกงานที่อู่ของมึงได้ไหม กูกับองศายังหาที่ฝึกงานไม่ได้เลย ไปไหมวะองศา กูอยากจะไปฝึกงานที่อู่นี้อยู่พอดีเลย กูไม่คิดเลยนะเนี่ย ว่าจะเป็นอู่ของมึง มึงบริหารอู่นี้คนเดียวจริงๆเหรอลิน" เก้าถามลินด้วยนํ้าเสียงที่จริงจัง เขาก็พอจะรู้ว่าลินซ่อมรถได้และเก่งด้วย เพราะว่าลินมาเล่าให้พวกเขาฟังประจำ ว่าซ่อมรถช่วยพ่อได้ และรับงานจากลูกค้ามาซ่อมเองบ้างบางคัน แต่เขาไม่คิดว่าลินจะถึงขั้นบริหารเองคนเดียว จนอู่มีชื่อเสียงและใหญ่โตขนาดนี้ได้
"คนเดียวสิ กูบอกแล้วไง กูต้องสานฝันของพ่อกูให้ได้ เพราะเป็นทางเดียว ที่กูจะทำเพื่อพ่อได้" ลินตอบคำถามของเก้าด้วยนํ้าเสียงที่มั่นใจในตัวเอง และอีกส่วนหนึ่ง เธอจะต้องทำให้ญาติของพ่อ มาดูถูกเธอกับแม่ไม่ได้ ว่าถ้าไม่มีพ่อแล้ว เธอกับแม่จะต้องไปขอทานข้างถนน
"แล้วตกลงว่าไง มึงจะให้กูกับไอ้เก้าไปฝีกงานที่อู่ของมึงไหมเนี่ย" องศาถามลินอีกครั้ง เพราะว่าลินไม่ตอบคำถามนี้ของเก้า
"พวกมึงก็มีบริษัทของที่บ้าน จะมา..."
"ก็กูอยากไปฝึกงานอู่ของมึง ที่ไม่ใช่ของที่บ้านไง" องศาพูดแทรกลิน ก่อนที่ลินจะพูดจบ
"ใช่ แล้วกูก็อยากไปกินกับข้าวฝีมือแม่ของมึงด้วย กูยังจำได้อยู่นะ จริงไหมพวกมึง" เก้าหันไปขอความเห็นจากทุกคน หลังจากที่เขาพูดกับลินแล้ว
"จริงด้วยว่ะ กูขอย้ายไปฝึกงานกับพวกมึงได้ไหมวะ ใช่ไหมพวกมึง" ต้นนํ้าหันไปหาธันกับพายแล้วก็เจนจบ เพื่อขอความเห็น
"จริงว่ะ" ทั้งสามคนพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
"พอๆ พวกมึงจะแห่กันมาทำไมเยอะแยะ เปลืองข้าวบ้านกู พวกมึงก็มีที่ฝึกงานกันแล้วไม่ใช่เหรอ" ลินว่าให้ด้วยนํ้าเสียงที่สุดเซ็ง เพราะเธอคิดว่า ความวุ่นวายว้าวุ่นกำลังจะตามมา ถ้าเพื่อนพวกนี้ไปทำงานที่อู่ของเธอ
"ถึงว่า มึงเป็นเจ้าของอู่นี่เอง มึงถึงได้ขับรถหรูขนาดนี้มาเรียน กูยังคิดเลย ว่ามึงมีเสี่ยที่ไหนเลี้ยงรึเปล่าวะ หึหึ" เจนจบพูดกับลินขำๆ เมื่อเขานึกถึงรถของลินที่ขับมาเรียนที่มหาลัย รถของลินเป็นรถซุปเปอร์คาร์คันหรู ที่มีไม่กี่คันในไทย แถมสีสันแสบตาอย่าบอกใคร พอๆกับรถหรูขององศาที่ใช้อยู่ในตอนนี้เลย ถึงบ้านของลินที่เขาเคยรู้จักจะมีฐานะ แต่ก็ไม่ถึงกับมีรถหรูราคาหลายสิบล้านแบบนี้ เขาก็เลยนึกแปลกใจในครั้งแรกที่เห็น
"กูขับมาหลอกล่อหนุ่มๆ เผื่อจะติดกับกูบ้าง แต่ที่ไหนได้ ไอ้องศาได้ขึ้นเป็นคนแรกเลย...ซวยฉิบ" ลินหันไปค้อนให้องศาด้วยความหมั่นไส้ หลังจากที่เธอพูดจบแล้ว
"ใครจะไปรู้วะ เผลอๆกูอาจจะเป็นผู้ชายคนเดียวก็ได้ ที่ได้นั่งรถของมึง" องศายักคิ้วให้ลินข้างหนึ่ง ด้วยท่าทางที่ชวนให้น่าหมั่นไส้
"ฝันไปเถอะ ต้องมีสักคนสิวะ ที่จะหลงมานั่งรถของกูบ้าง" ลินเถียงองศากลับไปอย่างไม่ยอม
"มีแน่นอนคนที่หลงมา แต่มึงจะให้ขึ้นรถของมึงไหม มันก็อีกเรื่องหนึ่ง หึหึ" องศายกยิ้มที่มุมปากอย่างรู้ทันลิน
"มึงอย่ามาทำเป็นแสนรู้ให้มาก เอาล่ะ...เรื่องของกู พวกมึงก็รู้กันแล้วนะ กูจะกลับแล้ว กูจะต้องกลับไปทำงานอีก ถึงอะไรจะเข้าที่เข้าทางแล้ว กูถึงมาเรียนได้ แต่ก็มีปัญหาให้แก้ตลอด เวลาที่กูไม่อยู่" ลินไม่พูดเปล่า เธอลุกขึ้นยืน เพื่อที่จะกลับจริงๆตามที่เธอพูดไปด้วย
"กูไปด้วย กูไม่ได้เอารถมา เผื่อมึงจะลืม" องศาลุกขึ้นยืนตามลินอย่างรวดเร็ว
"กูไม่ได้ลืม แต่กูรู้ว่ามึงมีปัญญาหาทางกลับเองได้ มื้อนี้กูเลี้ยงเอง" ลินว่าให้องศาด้วยความหมั่นไส้ ก่อนที่เธอจะหยิบเงินออกมาวางเอาไว้บนโต๊ะ แล้วเธอก็เดินออกไปจากร้านเค้ก ด้วยท่าทางที่มั่นใจในตัวเองสูง โดยที่เธอไม่ได้สนใจเพื่อน ที่นั่งมองตามหลังของเธอไปด้วยความคิดไม่ถึงอยู่
"เรามาถึงจุดที่ผู้หญิงเลี้ยงเค้กแล้วเหรอวะ อ้าว...องศา อะไรของมันวะ วิ่งตามลินไปอีกแล้ว" เจนจบมองตามหลังขององศาไปด้วยความไม่เข้าใจ ก่อนที่เขาจะหันมาถามเพื่อนๆ ซึ่งเพื่อนทุกคนต่างก็ได้แต่ส่ายหน้าว่าไม่รู้เหมือนกัน