บทที่ 6 รักมากเกลียดมาก
บทที่ 6 รักมากเกลียดมาก
“ปล่อยนะคะ ฉันเจ็บ!”
ยิ่งบิดแขนออกมากเท่าไหร่ แรงบีบจากฝ่ามือของสหรัฐก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ความโกรธเกลียดที่ชายหนุ่มมีต่อเธอไม่เคยลดลงเลย มีแต่จะมากขึ้นเมื่ออีกฝ่ายมาอยู่ตรงหน้าแบบนี้
รักมาก...ก็เกลียดมาก...และแค้นมาก...
หลากหลายความรู้สึกตีกันจนยุ่งเหยิง เขาอยากทำให้เธอเจ็บเหมือนที่ครั้งหนึ่งพิมพ์พธูเคยยัดเยียดความทรมานเจียนตายนั้นให้กับเขา โดยที่เขาไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ทว่าเพียงแค่ได้สบตากัน...หัวใจแข็งกระด้างของชายหนุ่มแทบจะอ่อนยวบแล้วลืมสิ้นถึงสิ่งที่อีกฝ่ายเคยทำเอาไว้
“เจ็บแค่นี้มันยังน้อยไป อย่ามาสำออย!”
พลั่ก!
เขาสะบัดเธอทิ้งจนคนตัวเล็กล้มถลาลงไปกองกับพื้นทราย พิมพ์พธูพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ด้วยคิดว่ามันคือสิ่งที่ต้องชดใช้ให้กับชายหนุ่ม ต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดเริ่มมาจากที่เธอทิ้งเขาไป แล้วจะเรียกร้องเอาอะไรได้ หากจะถูกเขาเกลียดชังมากขนาดนี้
มันก็สมควรแล้ว
“เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้เถอะ พองานแต่งงานเสร็จสิ้นลง เธอจะไม่ต่างอะไรกับลูกนกในกำมือของฉัน จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด”
“ค่ะ”
หญิงสาวรับคำโดยไม่เงยหน้ามองเขา เธอรอจนกระทั่งเสียงฝีเท้าหนัก ๆ ทิ้งห่างออกไปจึงเริ่มส่งเสียงสะอื้นเบา ๆ ออกมา จากนั้นก็ค่อย ๆ กอดเข่าตนเองแล้วซบหน้าลงร้องไห้
ให้เธอทนคิดถึงเขาตลอดไปทั้งชีวิตยังดีเสียกว่า ให้ต้องมาทนเห็นเขาทุกวันแต่ไม่สามารถแสดงความรักที่มีในใจให้เขารับรู้ได้ เธอไม่มีความกล้ามากพอจะทำแบบนั้น ไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยคำขออภัยจากสหรัฐด้วยซ้ำ เพราะการถูกเขาเกลียดมันคือบทลงโทษของผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอแล้ว
เมื่อหวนนึกถึงวันที่โชคชะตาเล่นตลกให้ต้องทำร้ายจิตใจเขาอีกครั้ง
‘ไม่...พี่ไม่เลิก พิมพ์อยากให้พี่ทำอะไรพี่ยอมทุกอย่างเลย ขออย่างเดียว อย่าทิ้งพี่เลยนะ’
‘พิมพ์รำคาญ! พี่ได้ยินมั้ย ว่าพิมพ์รำคาญพี่ จะอะไรนักหนา ปล่อยเดี๋ยวนี้เลยค่ะ’
หล่อนแกะมือเขาออกแล้วค่อย ๆ เดินหันหลังจากมา ได้ยินเพียงเสียงสะอื้นไห้ของชายหนุ่มชัดเจน แต่เธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้
เขาไม่มีวันรับรู้เลยว่า...ขณะที่ตนเองกำลังร้องไห้อยู่นั้น ผู้หญิงที่กำลังเดินจากมาคนนี้…ก็ร่ำไห้แทบขาดใจไม่แพ้กัน หัวใจของหญิงสาวแตกละเอียดเป็นผุยผง
ลาก่อน...รักแรกและรักสุดท้ายของพิมพ์
จากนี้ไปพิมพ์พธูจะขอเป็นคนจดจำความรักครั้งนี้และเขาตลอดไปเอง
“ฮึก...ฮือ...”
เสียงหวานเอาแต่ร้องไห้ไม่หยุด เธอเงยหน้ามองฟ้าและดวงดาวพร่างพราวบนนั้นราวกับต้องการจะโทษลิขิตพวกนี้ที่ส่งเธอกลับมาเจอสหรัฐอีกครั้ง
ผลคือเมื่อคืนพิมพ์พธูกลับมาร้องไห้ต่อในห้อง จนกระทั่งผล็อยหลับไป โชคดีที่ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ในมือถือจนเป็นนิสัยทุกหกโมงเช้า เลยทำให้ไม่ตื่นสายตั้งแต่วันแรก แค่นี้เขาก็ดูถูกต่อว่าเธอเป็นผู้หญิงไม่ดีตั้งเท่าไหร่แล้ว ถ้ามาเห็นนอนตื่นสายตะวันโด่งคงไม่พ้นเหยียดหยามกันอีก
หลังอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยเธอก็ออกมาที่ห้องครัว และเจอกับป้าชื่นที่กำลังเตรียมมื้อเช้าสำหรับวันนี้อยู่พอดี หญิงสาวจึงรีบเข้าไปทักทาย เพราะเมื่อวานมีเรื่องยุ่งเยอะแยะไปหมดจนไม่ได้ทำความรู้จักกับใครเลย
“สวัสดีค่ะ”
เธอยกมือไหว้ ทำเอาป้าชื่นรีบยกมือรับไหว้แทบไม่ทัน
“ตายแล้วคุณนาย อย่าไหว้ป้าค่ะ ป้าเป็นแค่คนใช้ ส่วนคุณนายคือเมียของนายหัวนะคะ”
“ไม่หรอกค่ะ ป้าเป็นผู้ใหญ่กว่าหนู หนูต้องเคารพป้าถูกแล้วค่ะ”
คำตอบแสนน่ารักทำให้ป้าชื่นเอ็นดูเธอแต่แรกเห็นทันที รอยยิ้มอบอุ่นถูกส่งให้พิมพ์พธูอย่างเป็นมิตร
“คุณนายน่ารักอย่างนี้นี่เอง นายหัวถึงได้เลือกมาแต่งงานด้วย”
“ระ...เหรอคะ”
เธอส่งยิ้มแห้ง ๆ กลับไป ความจริงคือเขาแต่งงานเพื่อจะแก้แค้นเธอต่างหาก จากนี้ไปยังไม่รู้ชะตากรรมของตนเองเลยว่าจะถูกเขากระทำย่ำยีแค่ไหน
“แล้วคุณนายมาทำอะไรในครัวหรือคะ หรือว่าหิวแล้ว”
“เปล่าค่ะ หนูอยากมาช่วยทำมื้อเช้าได้มั้ยคะ”
ป้าชื่นมองด้วยสายตามีเลศนัย เพราะคิดว่าว่าที่ภรรยาของเจ้านายอยากจะเอาใจเขาด้วยการโชว์เสน่ห์ปลายจวักของตนเอง
“ได้สิคะ ทำไมจะไม่ได้ วันนี้คุณนายอวดฝีมือได้เลยค่ะ เดี๋ยวป้าเป็นลูกมือเอง”
“อุ๊ย ไม่เป็นไรค่ะ หนูเป็นลูกมือก็ได้ หนูไม่ได้อยากทำอะไรข้ามหน้าข้ามตาป้าชื่นนะคะ”
พิมพ์พธูอธิบาย กลัวจะถูกเข้าใจผิดว่าพยายามเอาหน้า เธอก็แค่ทำนู่นทำนี่ด้วยตัวเองมาตลอดชีวิตจนชินแล้วก็เท่านั้น
“ตามสบายเลยค่ะ ป้าไม่คิดมากหรอก ว่าแต่...คิดไว้หรือยังคะว่าจะทำอะไรเป็นอาหารเช้า”
“อืม...”
หญิงสาวทำท่าครุ่นคิด ทุกเรื่องเกี่ยวกับสหรัฐหล่อนยังจำได้แม่นยำทุกอย่าง ตั้งแต่สีที่ชอบไปจนถึงไซซ์กางเกงใน เรื่องทำมื้อเช้าให้ถูกปากมันง่ายนิดเดียว
พิมพ์พธูเปิดตู้เย็นดูวัตถุดิบอื่น ๆ ที่ต้องการว่ามีหรือไม่ ก่อนจะพบว่ามีครบราวกับในตู้นี้คือซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดย่อม ช่างต่างจากตอนหล่อนอยู่กับบิดา บางวันแทบไม่มีข้าวสารกรอกหม้อเสียด้วยซ้ำ พอได้มาเห็นของมากมายรอให้เธอนำพวกมันมาประกอบอาหารแล้วก็อดดีใจไม่ได้
เข้าทางคนชอบทำกับข้าวจริง ๆ!
“อย่าบอกนะว่าจะทำ...”
“ค่ะ คุณสหรัฐชอบมาก หนูเลยจะทำอันนี้ค่ะ”
ความประทับใจต่อว่าที่คุณนายของเกาะมุกดายิ่งเพิ่มขึ้นในใจของป้าชื่น นอกจากจะอ่อนหวานน่ารัก หล่อนยังรู้สิ่งที่เจ้านายของป้าชอบโดยไม่ต้องบอก มันคือความใส่ใจที่มีแต่คนรักกันเท่านั้นจะจำได้และพร้อมทำให้
พิมพ์พธูลงมือทำเองทุกขั้นตอนจนป้าชื่นแทบไม่ต้องช่วยเหลืออะไร หล่อนได้แต่ยืนมองดูความคล่องแคล่วของหญิงสาว แล้วรู้สึกได้เลยว่าสหรัฐคิดถูกที่เลือกแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ ไม่นานนักข้าวผัดกระเทียมเบค่อนของโปรดของชายหนุ่มก็เสร็จส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั้งครัว เธอตักมันใส่จานแล้ววางผักตกแต่งอย่างสวยงาม
“เสร็จแล้วค่ะ”
“น่ากินมากเลยค่ะคุณนาย เดี๋ยวป้ายกไปเตรียมไว้ที่โต๊ะนะคะ”
หญิงสาวพยักหน้ารับก่อนจะตักข้าวผัดใส่จานอื่นต่อสำหรับส่วนของเธอและบิดา และเปิดตู้เย็นเพื่อเอาวัตถุดิบที่ยังเหลือเก็บแช่ตามเดิม
“ป้าชื่น กลิ่นอะไรเหรอ หอมจนผมตื่นเลยเนี่ย”
“อ้าวนายหัว กลิ่นข้าวผัดกระเทียมเบค่อนของโปรดนายนั่นแหละค่ะ”
ป้าชื่นหยุดอยู่ตรงประตูทางเข้าห้องครัวพอดิบพอดี โดยมีร่างสูงยืนขวางอยู่ตรงหน้า เขามองไม่เห็นพิมพ์พธูเพราะประตูตู้เย็นมันบังอยู่
“จริงเหรอ ไหนผมขอชิมหน่อย”
“เชิญเลยค่ะ”
เขารับช้อนไปแล้วตักกินก่อนดวงตาคมจะวาววับ
“อร่อยมากเลยป้าชื่น ฝีมือพัฒนาขึ้นนะเนี่ย”
เสียงทุ้มเอ่ยชม ก่อนตักคำต่อไปเข้าปาก และดูท่าน่าจะเจริญอาหารกว่าทุกครั้ง
“ป้าไม่ได้เป็นคนทำหรอกค่ะ”
“อ้าว แล้วใครทำ...”
ถามยังไม่ทันจบประตูตู้เย็นก็ปิดลง เผยให้เห็นร่างเล็กที่ยืนทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ หล่อนสวมผ้ากันเปื้อนเอาไว้ แค่นั้นก็พอจะเป็นคำตอบให้เขาได้แล้วว่าใครคือคนทำข้าวผัดที่แสนจะถูกปากเขาจานนี้