ตอนที่ 1 การกลับมา
การกลับมา
“คืนนี้จะไปไหนอีกคะลูกสาวแม่...แต่งตัวสวยเชียว” เสียงหวานนุ่มนวลของผู้เป็นแม่ถามขึ้นมาทันที เมื่อเห็นลูกสาวเพียงคนเดียว แต่งตัวสวย เดินลงมาในเวลา 21 นาฬิกา
ปิ่นลดา อัครโยธินนารัตน์ คุณแม่ในวัย 49 ปี ของลูกสาว
หญิงสาวซึ่งเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของบ้าน เธอที่เพรียบพร้อมไปเสียทุกอย่าง ทั้งฐานะและชาติกำเนิดของวงศ์ตระกูล ถึงแม้มารดาจะเป็นเพียงหญิงสาวธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น
“หยาจะออกไปหาเพื่อนคะแม่ปิ่น อยู่เฉย ๆ มันทำให้นอนไม่หลับ แถมยังพลอยทำให้คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยอีก” เธอเอ่ยตอบกลับผู้เป็นแม่ออกไปตามตรง
เพราะตั้งแต่ที่เธอกลับมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ เธอก็มักจะหาอะไรทำอยู่ตลอด เธอไม่อยากอยู่นิ่ง เพราะมันทำให้เธอคิดฟุ้งซ่าน และคิดถึงเขาคนนั้น เขาที่ทิ้งใบหย่า และตราบาปไว้ให้เธอ โดยที่ไม่ทราบสาเหตุว่าเธอทำอะไรผิด เขาถึงจากเธอไปแบบไม่ลากันเลยสักคำแบบนี้
“อย่าดื่มเยอะนักละ แล้วจะค้างที่ไหน” ผู้เป็นแม่ถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง
ถึงจะทราบดีว่าลูกสาวเก่งและสามารถเอาตัวรอดได้ แต่คนเป็นแม่ก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้อยู่ดี เมื่อนึกถึงวันวานแสนเจ็บปวดเมื่อ 3 ปีก่อน
“คงจะไปค้างที่คอนโดไอ้เวย์ หรือไม่ก็จะไปค้างกับปุยนุ่นคะ” เธอตอบคำถามของผู้เป็นแม่ไปตามที่คิดเอาไว้
“น้องเขามีครอบครัวแล้วนะ จะไปรบกวนเขาทำไม เกรงใจสามีเขา” ผู้เป็นแม่เอ่ยบอก
“แม่ไม่ต้องห่วงนะคะ หยากลับไม่ได้ หยาเปิดโรงแรมนอนก็ได้ ลูกแม่ปิ่นคนนี้เก่ง สตรองจะตาย” พูดพร้อมกับท่าทีที่มีลูกเล่น เพื่อไม่ให้ผู้เป็นแม่ต้องเป็นห่วงเธอ
ณดารินทร์ อัครโยธินนารัตน์ หรือ ปั้นหยา หญิงสาวในวัย 28 ปี เป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของ ศาตราจารย์นายแพทย์นฤบดินทร์ และ ปิ่นลดา (จากเรื่องบังเอิญรัก เมียแต่ง)
และมีพี่ชายอายุห่างกัน 4 ปี ที่เป็นสายเลือดเดียวกันกับทางมารดาของเธอ หรือน้องชายต่างมารดาของแม่เธอนั้นเอง ซึ่งอายุห่างกันกับแม่ของเธอตั้ง 15 ปี และพ่อของเธออุปการะเลี้ยงดูในฐานะบุตรบุญธรรม ตั้งแต่ที่พ่อและแม่เธอใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ซึ่งตอนนี้ก็แยกย้ายออกไปมีครอบครัวแล้ว
ชีวิตที่แสนรันทด หลังจากผ่านการหย่าร้างมาเป็นเวลา 3 ปีแล้ว เธอต้องกลายเป็นหม้ายสามีหย่าในเวลาที่ยากจะทำใจยอมรับ โดยที่เธอไม่ทราบสาเหตุเลย
ทุกวันนี้ กว่าเธอจะข้ามผ่านเวลาอันแสนเศร้าในแต่ละวัน มันไม่ง่ายเลย เธอต้องพบเจอกับอะไรมากมาย ที่เข้ามาถาโถมในชีวิตของเธอ ในเวลาเดียว
เธอไม่สามารถที่จะอยู่คนเดียวเหมือนชีวิตก่อนแต่งงานได้ เพราะหลังจากที่สามีเธอทิ้งใบหย่าไว้ ชีวิตของเธอเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เธอกลายเป็นคนมีโลกส่วนตัวสูงไปโดยปริยาย หรือซึมเศร้านั่นแหละ เพราะสูญเสียอะไรในหลาย ๆ อย่าง ในคราเดียวกัน เธอต้องพบแพทย์ตลอด และย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านพ่อกับแม่ของเธอ
Night Club
“นึกว่าจะไม่มาเสียแล้ว...” เสียงทุ้มลึกเอ่ยขึ้นมาทันที เมื่อประตูถูกเปิดออกพร้อมกับชายร่างสูงหุ่นนายแบบเดินย่างก้าวเข้ามา
เจได หนุ่มไทยขนานแท้ แต่หน้าตาออกไปทางตี๋ ซึ่งเป็นเจ้าของไนต์คลับแห่งนี้ และยังเป็นเพื่อนของชายหนุ่มที่พึ่งจะเดินเข้ามา
“วันเกิดเพื่อน เพื่อนเลี้ยงทั้งที จะพลาดได้ยัง เหล้าฟรีใครจะไม่ชอบวะ” เสียงเข้มตอบกลับอย่างหน้าตาเฉย ก่อนที่จะนั่งลงตรงที่ว่าง
นพดล อภิวัฒนากุล อดีตนายแพทย์หนุ่มแห่งโรงพยาบาลเอกชนดัง ในเครือของอัครโยธินนารัตน์ ปัจจุบันอายุ 35 ปีแล้ว
“เห็นแก่ของฟรีนักนะมึง” เจไดเอ่ยเยาะขึ้นมา อย่างหยอกล้อ
“...” นพดลกลับไม่เอ่ยตอบโต้ใด ๆ เพียงแค่ยกแก้วเครื่องดื่มสีอำพรางที่เจไดรินให้กระดกลงคอทีเดียวจนหมดแก้ว
“มึงมากรุงเทพครั้งนี้ ตั้งใจจะอยู่นานแค่ไหน” เจไดจึงถามเขาต่อ เพราะการกลับมาในครั้งนี้ของเขารู้สึกแปลกไปกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
ตลอดระยะ 3 ปี ที่ผ่านมา นพดลจะมาที่นี่แบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ ไม่เผยตัวตนออกมาให้ใครเห็น เจไดจะนัดเพื่อนมาหาตลอดเมื่อทราบว่าเพื่อนเข้ากรุงเทพฯ แต่ทุกครั้งก็ถูกปฏิเสธตลอด แต่ครั้งนี้นพดลกลับให้ความสำคัญกับเขา
“อีกสองวันก็กลับแล้ว” เสียงเรียบนิ่งตอบกลับเพื่อน พร้อมกับหน้าตาที่ดูเฉยชา
“มึงไม่คิดจะกลับมาอยู่ที่นี่อีกเลยเหรอวะไอ้หมอ กูว่างานที่นี่เงินก็ดีนะ ทำไมมึงต้องทนอยู่ในเกาะบ้า ๆ อะไรนั่นด้วยวะ มึงไม่คิดถึงสิ่งดี ๆ ที่อยู่ที่นี่ ที่เคยเป็นของมึงหรือไง” เจได้เปิดประเด็นในสิ่งที่อยากจะถามมาตลอดทันที
“อีกสองเดือน กูหมดสัญญา ปลดหนี้ทุกอย่างกูตะเป็นอิสระแล้ว กูจะกลับมา...” เขายังคงเอ่ยตอบเพื่อนด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่งเช่นเคย
“เรื่องที่เกิดขึ้น มึงไม่คิดที่จะบอกเมียมึงบ้างเลยเหรอไอ้หมอ ว่าความจริงมันคืออะไร” เจไดได้แต่ต่อว่าเขาออกไป เพราะทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ มันก็สิทธิ์ของเพื่อนอยู่แล้ว
“ให้มันเป็นแบบนี้แหละดีแล้ว เขาอยู่สูงมาก กูไม่อยากเอาปัญหาชีวิตครอบครัวกูมาให้เขาลำบากใจ และป่านนี้เขาก็คงจะมีชีวิตที่ดีแล้วมั้ง คนอย่างเขา ใครก็อยากจะจีบทั้งนั้นแหละ” นพดลได้แต่ตัดเพ้อ เมื่อนึกถึงใครบางคคนที่เขาเคยผูกพันธ์มาร่วมกัน 2 ปี
“รวมถึงมึงด้วยว่างั้น” เจไดขัดคอทันที เพราะรู้ดีว่าเพื่อนรู้สึกอย่างไร
“กูจะมีปัญญาที่ไหนกลับไปจีบวะ พูดอย่างเขาจะรอกูอย่างนั่นแหละ” เขาได้แต่ถ่อมตน เมื่อนึกถึงหญิงสาวคนนั้น คนที่อยู่ในใจเขาตลอด
“ถึงมึงกับเขาจะกลับไปเป็นแบบเดิมไม่ได้แล้ว แต่ทำไมมึงไม่เคลียร์ทุกอย่างให้จบ จะได้ไม่มีอะไรติดค้างกันไง” เจไดจึงได้แต่เสนอแนะบอกเขา เพราะไม่อยากให้เพื่อนรู้สึกไปมากกว่านี้
“กูไม่มีหน้า กลับไปเจอหน้าเขาหรอก กูทำไม่ดีกับเขาขนาดนั้น” นพดลพูดอย่างถ่อมตน เพราะรู้ดี ว่าเธอคนนั้นคงไม่มีวันยอมให้อภัยเขาแน่ ๆ
“แล้วมึงยังรักเขาอยู่หรือเปล่า” เจได้จึงถามเขาออกไป เพราะดูแล้วนะดลคงยังไม่ลืมหญิงสาวที่เคยใช้ชีวิตด้วยกันมาตั้ง 2 ปีแน่
“...” เขากลับไม่กล้าเอ่ยตอบเจไดออกไป เมื่อเพื่อนถามคำนี้ออกมา
เขาไม่มีวันไหนที่เขาไม่เคยหมดรักเธอ ไม่มีวันไหนเลยที่ไม่คิดถึงเธอ และไม่มีวันที่จะลืมเธอได้ลงเลย การกลับเข้ามาเมืองหลวงทุกครั้ง ทำให้เขาคิดถึงความทรงจำที่ทำกับเธอตลอด