2 ชีคมูห์บี้แสนร้ายกาจ
“ไม่ยากหรอก เรื่องแค่นี้ไม่พ้นฝีมือหมอไปได้ อีกไม่นานท่านพ่อก็จะหาย กลับมาปกครองประเทศได้เหมือนเดิม”
“น่าเสียดายที่น้องหญิงเอน่าเป็นผู้หญิง ขึ้นครองราชย์ไม่ได้”
ทันทีที่ ชีคมูห์บี้ ตรัสจบ เจ้าหญิงเอน่ากริ้วจนพระวรกายสั่นเทา รู้ความหมายเป็นอย่างดีว่ามีจุดประสงค์เช่นไร พระนางจ้องพระพักตร์บุรุษเสเพลตรง ๆ
“ท่านพี่พูดเช่นนี้ หมายความว่ายังไงคะ”
“ก็ไม่มีอะไร หากว่า แหม พี่ไม่อยากพูดต่อเลย เกรงว่าจะสะเทือนใจน้องน่ะสิ แต่เรื่องเกิดแก่ เจ็บตายมันธรรมดามากนะ”
“ท่านพี่ หยุดเสียที ท่านก็รู้นี่ว่าในช่วงเวลานี้ พวกเราต้องการกำลังใจที่สุด เพื่อที่จะส่งใจให้แก่ท่านพ่อ ทำไม ถึง ถึง พูดเหมือนแช่งท่านอย่างนี้เล่า”
“โธ่ น้องหญิง เราต้องยอมรับความจริง โลกเราทุกวันนี้ ใช่ว่าจะสวยงามเพียงอย่างเดียว ย่อมมีทุกข์เกิดขึ้น”
เจ้าหญิงเอน่าสุดจะทนอีกต่อไป พระดำเนินหนีไปทันที ไม่แยแสต่อคำเรียกจากบุรุษผู้น่าเกียจ ทว่าพระองค์ยังคงเอ่ยพระนามเจ้าหญิงตลอดเวลา
“น้องหญิงเอน่า เดี๋ยวก่อนสิ คุยกับพี่ก่อนเอน่า สร้อยเพชรกับดอกลิลลี่ล่ะ ไม่เอาหรือ โธ่ งั้นพี่ทิ้งนะ”
ชีคมูห์บี้ ตะโกนโหวกเหวกด้วยอารมณ์พุ่งถึงขีดสุด แต่ไม่อาจรั้งเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์ให้หันกลับมาใส่พระทัยแต่อย่างใด ชายผู้เอาแต่พระทัยตนเองเป็นใหญ่เดือดจนแทบคลั่ง จึงฟาดช่อลิลลี่พร้อมสร้อยเพชรลงกับพื้น ส่วนของดอกกระเด็นเกลื่อนกลาด
ดวงตา ชีคมูห์บี้ ลุกโชนด้วยความโกรธ เมื่อไม่ได้ดั่งใจ จะต้องทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่เสียดายว่าของราคาแพงแค่ไหน เมื่อระบายอารมณ์จนสาสะแก่พระทัยแล้ว ชีคมูห์บี้ ทำท่าจะเดินหนี ทว่าแสงประกายจากสร้อยเพชรราคาแพง ดึงดูดความสนใจไม่น้อย
“สร้อยเพชร อุตส่าห์เสาะหามาประเคนให้เป็นกรณีพิเศษกลับไม่มีความหมายแล้วเธอจะเอาอะไรอีก เอน่า ถ้าไม่เห็นแก่พระราชบัลลังก์ล่ะก็ ชั้นไม่งอนง้อขนาดนี้หรอก มีผู้หญิงอีกมากมายที่ต้องการเรา ทำไม ทำไม เธอต้องเมินเราด้วย เจ็บใจนัก”
ชีคมูห์บี้ คำรามดัง ๆ ด้วยความแค้นจนแทบกระอักเลือด เมื่อรู้ว่าไม่มีความหมายต่อสตรีที่ชื่อเอน่า พร้อมกันนั้นก้มลงไปเก็บสร้อยเพชรขึ้นมาแล้วกำเอาไว้แน่น สูดลมหายใจแรง ๆ ดวงพระเนตรสั่นระริกก่ำด้วยหยาดน้ำใส
ชีคมูห์บี้ ตัดสินพระทัยว่าจะต้องไปที่ฮาเร็มส่วนพระองค์ สถานที่แห่งนั้นช่วยผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี สาวงามทั่วทุกมุมโลกมารวมตัวกันอยู่ที่นั่น ทุกคนพร้อมที่จะเอาอกเอาพระทัยในทุกเรื่อง
เพียงไม่นาน ชีค มูห์บี้ เข้ามาในฮาเร็มที่ตกแต่งสวยงาม ตามผนังเต็มไปด้วยรูปภาพสตรีเปลือยกายในลักษณะต่าง ๆ ผู้หญิงแต่ละคนเมื่อเข้ามาอยู่ในที่แห่งนี้จะต้องถูกถ่ายรูปและขยายใหญ่ ติดเอาไว้เป็นอนุสรณ์
“พระองค์ท่านเสด็จมาแล้ว”
“โอ ชีคมูห์บี้ จะรับเครื่องดื่มอะไรดีคะ บรั่นดี ไวน์ หรือเบียร์”
“กับแกล้มล่ะคะ วันนี้มีกุ้งมังกรอบชีสโรยด้วยพลาสลี่ย์ ปูอลาสก้านึ่ง แล้วก็....”
“พอ ๆ เราไม่หิว เอาเครื่องดื่มมาก่อน เปิดไวน์แดงมาเร็วซี่”
“เพคะ นี่พวกเธอช่วยกันดูแลพระองค์ท่านให้ดี เราจะไปจัดเตรียมเครื่องดื่มมาถวาย”
สาวสวยหุ่นเซ็กซี่ที่สวมใส่เสื้อสายเดี่ยวเอวลอยผ้าเนื้อบางเห็นแม้กระทั่งความอวบอิ่มที่เบียดอยู่ภายใต้เสื้อยกทรงตัวจิ๋ว เธอหันไปกำชับเพื่อน ๆ นางบำเรอด้วยกันให้ดูแล ชีคมูห์บี้ บัดนี้นั่งพระพักตร์บึ้งตึง ขัดเคืองต่อการกระทำสิ้นไมตรีจากเจ้าหญิงเอน่า
แม้รู้ดีว่าการดื่มไวน์ไม่ถูกต้อง แต่พระองค์ไม่แยแส ขอให้สนุก มีความสุข เสพสิ่งที่ชอบทุกอย่าง ยกเว้นยาเสพติด อุปนิสัยเจ้าสำราญเช่นนี้ ไม่แตกต่างจากพระบิดาที่แวะเวียนมาในฮาเร็มแห่งนี้บ่อย ๆ
เพียงไม่นาน ไวน์ในแก้วถูกกระดกดื่มช้าๆ ในลักษณะจิบ แขนข้างหนึ่งโอบกอดหญิงสาวเรือนร่างอวบอิ่ม ผิวขาว สวมใส่เดรสสั้นเหนือเข่าสีขาวผ้าบาง คล้ายกับชุดนอน ทว่าเธอไม่แคร์สายตาผู้ใด
เธอรู้ดีว่าแต่งตัวเช่นนี้เป็นที่โปรดปรานแด่ ชีคเจ้าสำราญ มักจะจรดปลายพระนาสิกลงที่แก้มบ่อย ๆ เพื่อนร่วมฮาเร็มพากันมองด้วยความริษยา
“ใครก็ได้ช่วยตามพ่อเรามาที่นี่ด้วย”
“ไปสิ ไปกราบเรียนทูลพระองค์ พวกที่เหลือเตรียมปรนนิบัติพระองค์ด้วย รู้ว่าชอบอะไร รีบจัดหาโดยด่วน”