บทย่อ
เมื่อความวุ่นวายต่างๆ ที่เกิดขึ้นส่งผลให้หญิงสาวต้องตัดสินใจเลือกระหว่างอิสระที่ต้องการกับบุญคุณที่ต้องทดแทน...
บทนำ
จงเย่วอิงเคยคิดมาตลอดว่าเธอเกิดมาพร้อมกับความโชคร้าย เป็นเคราะห์ร้ายที่เกิดมาเพื่อล้างผลาญความสุขความเจริญในชีวิตของแม่ผู้ให้กำเนิดอย่างที่อีกฝ่ายได้บอกไว้ก่อนจากไป
ไม่...แม่เธอยังไม่ได้ตาย
แต่ทิ้งเธอไปหลังจากที่เลิกรากับพ่อผู้ให้กำเนิดเธอ ซึ่งฝ่ายนั้นก็คิดอยู่เสมอตั้งแต่วันที่เธอลืมตาดูโลกว่าเธอมันเป็นตัวซวย เป็นความโชคร้ายที่เกิดมาเพื่อสร้างความด่างพร้อยให้กับชีวิตที่แสนจะเพอร์เฟ็กของเขา
หลังจากเลิกรากันพวกเขาก็ทิ้งเธอไปทั้งคู่ โชคดีที่ยายของเธอไม่ได้เห็นว่าเธอเป็นตัวซวยเหมือนพ่อกับแม่ ยายจึงรับหน้าที่เลี้ยงดูเธอนับตั้งแต่นั้นมาจนกระทั่งยายจากเธอไปตอนเธออายุได้สิบขวบ
คำพูดสุดท้ายที่ยายพูดกับเธอในวันนั้นคือคำพูดเดียวกันกับคำที่ยายพูดกับเธอในตอนที่เธออายุสี่ห้าขวบในตอนที่เริ่มจำความได้
‘อิงอิงไม่ใช่ความโชคร้ายของใคร อิงอิงคือเทพธิดาตัวน้อยที่ลงมาโปรดมนุษย์ธรรมดาๆ อย่างยายให้ได้เห็นธาตุแท้ของคน อิงอิงคือความสุขเดียวของยาย ต่อจากนี้ไปจงจำไว้ว่าอย่าดูถูกตัวเอง ยายรักอิงอิง’
แล้วในคืนนั้นเด็กหญิงจงเยว่อิงก็สูญเสียญาติเพียงคนเดียวที่มีไปอย่างไม่มีวันกลับ เด็กสิบขวบร้องไห้อย่างไม่เข้าใจในโชคชะตาว่าเหตุใดสวรรค์ต้องพรากคนที่รักและต้องการเธอเพียงคนเดียวไป
...สวรรค์ช่างไร้ความยุติธรรม!
งานศพของยายผ่านไปอย่างเงียบเหงา ไร้เงาแม่ของเธอที่เป็นลูกสาวเพียงคนเดียวมาร่วมงาน ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยเพราะได้รับความช่วยเหลือจากผู้นำหมู่บ้านและเพื่อนบ้าน อีกทั้งพวกเขายังช่วยกันประสานงานกับทางการเพื่อตามหาแม่และพ่อของเธอ
และไม่ใช่ว่าทางการตามหาพวกเขาไม่พบ แต่พวกเขาเลือกที่จะไม่กลับมา เหตุผลก็เพราะว่าพวกเขาไม่ต้องการรับผิดชอบชีวิตของเด็กสิบขวบที่ไม่เป็นที่ต้องการอย่างเธอ
‘ไม่ต้องตามหาพวกเขาแล้วค่ะ แต่ได้โปรดหาสถานสงเคราะห์สักแห่งให้หนูอยู่เถอะ’
จากวันนั้นเป็นต้นมาจงเยว่อิงก็ได้ย้ายมาอยู่สถานสงเคราะห์เด็กกำพร้าในเมืองหลวง กระทั่งอายุสิบห้าเธอก็สอบชิงทุนเรียนต่อระดับมัธยมของโรงเรียนชั้นนำแห่งหนึ่งได้ เส้นทางชีวิตของจงเยว่อิงเริ่มสว่างไสวมานับตั้งแต่นั้น และมันก็ยิ่งเริ่มสว่างขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเธอสอบชิงทุนเรียนแพทย์ได้
แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงก็เดินทางมาเร็วเกินไป ในขณะที่เธอกำลังเป็นนักศึกษาแพทย์ปีหนึ่งของมหาวิทยาลัยชั้นนำของรัฐด้วยทุนเรียนฟรี ค่ำวันหนึ่งในรั้วมหาวิทยาลัยเธอหมกมุ่นกับการอ่านหนังสือมากเกินไปจนลืมเวลากลับหอพัก กว่าจะรู้ตัวก็มืดค่ำอีกทั้งฝนยังตกปรอยๆ ทั้งยังไม่มีท่าทีจะหยุดตก จงเยว่อิงในวันนั้นตัดสินใจเดินผ่าฝนกลับหอพัก แต่เธอกลับคิดไม่ถึงเลยว่าที่ลานจอดรถของหอสมุดที่เดินผ่านกำลังมีการซื้อขายของที่น่าจะผิดกฎหมายบางอย่าง ทั้งๆ ที่ตรงบริเวณนั้นเป็นพื้นที่ของมหาวิทยาลัยแท้ๆ
แน่นอนว่าในเมื่อเธอมองเห็นคนเหล่านั้น พวกเขาก็ย่อมต้องมองเห็นเธอเช่นกัน
จงเยว่อิงหันหลังวิ่งกลับไปยังเส้นทางเดิมอย่างไม่คิดชีวิต เวลานั้นเธอคิดแต่เพียงว่าเธอต้องหนีไป ไม่อย่างนั้นชีวิตที่กำลังไปได้สวยของเธอต้องจบเห่แน่...เพราะแน่นอนว่ามาเฟียพวกนั้นคงไม่เก็บเธอไว้ให้ต้องคอยหวาดระแวงว่าตำรวจจะตามกลิ่นพวกมันเจอวันไหน
จงเยว่อิงวิ่งหนีสุดชีวิต แต่รองเท้าคัชชูสีดำที่ใส่อยู่ของเธอก็ไม่เอื้ออำนวย ยังไม่ทันจะได้ถอดทิ้งข้างทางมันก็พาเธอล้มคะมำหน้าคว่ำซ้ำหัวยังไปฟาดกับพื้นหรือต้นเสาสักต้นเธอเองก็ไม่แน่ใจเพราะสลบไปเสียก่อน
และทันทีที่ตื่นขึ้นมาเธอก็พบว่าวิญญาณตนเองหลุดมาอยู่ในร่างของเด็กหญิงวัยห้าขวบในยุคโบราณ....
แม้จะเรียกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอนั้นเป็นเรื่องประหลาดและน่าเหลือเชื่อที่สุดที่เธอเคยเจอมาในชีวิต แต่จงเยว่อิงกลับรู้สึกขอบคุณมัน เพราะในร่างใหม่ของเธอนั้นได้มอบครอบครัวที่นับว่าสมบูรณ์แล้วให้กับเธอ
จงเยว่อิงใช้ชีวิตอยู่ในร่างของเด็กน้อยที่มีนามว่าฮัวจื่อเวยอย่างมีความสุข เป็นคุณหนูรองตระกูลฮัวที่มีคนคอยปรนนิบัติรับใช้ แม้บิดาจะลำเอียงต่อเธอบ้าง มารดาจะรักน้องชายมากกว่าบ้าง แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่รับได้ เพราะยังไงซะมันก็ดีกว่าชาติก่อนที่เธอไม่มีคนในครอบครัวเลยสักคน
ที่สำคัญคือพี่ชายคนโตของเจ้าของร่างนี้ดีกับน้องสาวมาก แค่นั้นก็ทำให้เธอมีความสุขและไม่คิดจะโหยหาชีวิตก่อนหน้าที่จากมาอีกแล้ว
ทว่า...อยู่มาวันหนึ่งตอนอายุสิบห้าก็มีสตรีแน่งน้อยนางหนึ่งเข้ามาบอกกับเธอว่า...นางต่างหากคือเจ้าของร่างตัวจริง นางคือฮัวจื่อเวย!
จากนั้นก็เกิดเรื่องราวดีร้ายขึ้นมามากมาย และสุดท้ายฮัวจื่อเวยตัวจริง(*หลานหลีเกอ)กับฮัวจื่อเวยตัวปลอม(จงเยว่อิง)ก็ลงเอยด้วยการสาบานเป็นพี่น้องกัน
เหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตทำให้จงเยว่อิงต้องเปลี่ยนชื่อมาไม่น้อย และแม้ว่าวันนี้เวลานี้เธอจะไม่ใช่จงเยว่อิงหรือฮัวจื่อเวยหรือลั่วเยว่อิงแล้ว แต่เธอก็มีความสุขและรู้สึกขอบคุณทุกอย่างที่ผ่านเข้ามา เพราะสิ่งเหล่านั้นล้วนแล้วแต่ทำให้ชีวิตของคนโชคร้ายตั้งแต่เกิดอย่างเธอได้พบกับความรัก ความอบอุ่น มิตรภาพ ซึ่งสิ่งเหล่านั้นเธอเองก็ไม่แน่ใจว่าหากยังมีชีวิตอยู่ในโลกปัจจุบัน เธอจะได้สัมผัสกับความรู้สึกเหล่านั้นหรือไม่?
เพราะโลกต่างยุคต่างภพนี้ต่างหาก...ที่เป็นโลกของเธอจริงๆ
โลกที่มีพื้นที่มากพอให้เธอยืน...
“ฮัวจื่อเวย…เจ้ายังไม่ตาย!”
“...!” คนถูกเรียกตกใจจนเสียอาการ ก่อนจะตั้งสติได้แล้วเอ่ยปฏิเสธออกไป “คุณชาย ท่านจำคนผิดแล้ว”
“ไม่มีทาง! ข้าจำไม่ผิด เจ้าคือ...”
“ข้าน้อยสวีถีหลันเจ้าค่ะ”
สาวงามชิงบอกพร้อมกับส่งยิ้มให้และถ้าหากว่าคนตรงหน้ายังบอกว่านางคือฮัวจื่อเวยอีกละก็...นางจะบุกไปสำนักเมฆาครามเสียเดี๋ยวนี้! ทั้งยังจะลากกู้ชิงซวี่กับฉินซูเหวินมาจัดการอีกด้วย!
ไหนสองคนนั้นบอกว่าพวกเขาจัดการแปลงโฉมนางแล้วอย่างไรเล่า?
ไฉนมาวันนี้เสิ่นจ้านยังจดจำนางได้อยู่!?