ตอนที่ 4 เขาโดนทิ้งแล้ว
ตอนที่ 4 เขาโดนทิ้งแล้ว
ในขณะที่เย่ซือเฉินกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น เธอเอาเหรียญหนึ่งหยวนที่เพิ่งจะคลำเจอในกระเป๋าเสื้อวางไว้ในมือของเขา แล้วพูดประโยคหนึ่งขึ้นมาซึ่งทำให้เขาตกใจเป็นอย่างมาก “นี่คือรางวัลที่คุณควรได้รับ”
ไม่ใช่เป็นเพราะเธอขี้เหนียวหรอก แต่เป็นเพราะว่าทั้งเนื้อทั้งตัวของเธอตอนนี้มีเงินเหลืออยู่แค่นี้
ในระหว่างที่วางเหรียญใส่ในมือเขานั้น เวินลั่วฉิงก็รีบถอยออกไปอย่างรวดเร็ว
เย่ซือเฉินตกตะลึง สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปในทันที เขาโกรธมาก ราวกับน้ำและไฟรวมกันบนท้องฟ้าเป็นพายุก่อนที่ฝนจะเทลงมา
ภายในความมืดเธอมองไม่เห็นอะไรเลย แต่เธอรับรู้ได้อย่างชัดเจน
เวินลั่วฉิงรู้ว่าเขาโกรธ และแน่นอนเธอก็รู้อีกด้วยว่าในตอนนี้เขาตกตะลึงอย่างยากที่จะเชื่อได้
เธอพนันได้เลยว่า เมื่อผู้ชายที่อวดดีบ้าระห่ำแบบเขาต้องเผชิญหน้า และปฏิกิริยาตอบสนองในสถานการณ์แบบนี้ก็ยิ่งทำให้เขาบ้าระห่ำมากขึ้นแน่ๆ ยิ่งเจอกับสภาพนี้อีก ก็จะยิ่งทำให้เขายากที่จะเชื่อและตกใจมากยิ่งขึ้น หลังจากนั้นภายใต้จิตสำนึกของเขาก็จะว่างเปล่าทันที
ความโกรธของเขาในตอนนี้ทวีคูณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และนี่คือสิ่งที่เธอต้องการ!
ในเวลาต่อมาขณะที่เย่ซือเฉินยังตั้งสติไม่ได้นั้น เวินลั่วฉิงหันหลังกลับภายใต้ความมืดนั้นก้มหยิบชุดนอนของเขาที่ตกอยู่บนพื้น และคว้าเสื้อคลุมที่พาดอยู่บนเก้าอี้ แถมทั้งคว้าเอาโทรศัพท์มือถือของเขาที่ชาร์ตแบตเตอรี่ไว้บนหัวเตียง หลังจากนั้นก็รีบวิ่งไปยังประตูห้อง
เมื่อเธอวิ่งออกมาที่ประตูห้อง เธอยังดึงคีย์การ์ดห้องของเขามาอีกด้วย ดังนั้นต่อให้เขากดเปิดปิดสวิตซ์ไฟ เขาก็ยังต้องอยู่ในความมืดอยู่ดี
ความเคลื่อนไหวทั้งหมดของเธอเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วโดยที่เย่ซือเฉินไม่ทันตั้งตัว แต่ต่อให้เขารู้ตัว ตอนนั้นเธอก็เปิดประตูวิ่งหนีออกจากห้องไปแล้ว
“คุณคิดว่าจะหนีรอดอย่างนั้นเหรอ?” เสียงของเย่ซือเฉินพุ่งออกมาจากความมืด เขาพูดด้วยความโกรธแฝงด้วยรอยยิ้ม แต่คำพูดแต่ละคำที่ออกมาเปรียบเสมือนน้ำแข็งอาบยาพิษแล้วยิงตรงไปที่เธอ ดูเหมือนว่าเขาจะโหดเหี้ยมจนอยากจะจับเธอมาตัดแขนตัดขาให้ได้ ในขณะนี้ภัยคุกคามอันตรายในคำพูดของเขาสามารถทำให้คนที่ได้ยินตกใจจนเสียสติได้เลยทีเดียว และในเวลาเดียวกันเย่ซือเฉินก็ลุกจากเตียง……
เวินลั่วฉิงได้ยินเสียงและความเคลื่อนไหวของเขา เธอแอบหายใจเบาๆ และบอกได้เลยว่าผู้ชายคนนี้มีการตอบสนองได้เร็วพอควรและเขาก็โหดเหี้ยมพอที่จะกลับมาเอาคืนเธอแน่ๆ!
ด้วยสภาพการณ์เช่นนี้แล้ว หากเป็นคนทั่วไปก็ต้องตกตะลึงงุนงงเป็นแน่ เพราะในตอนนี้พลังของเขานั้นน่าตกใจมาก
แต่หากคิดจะทำให้เธอกลัวเกรงว่ามันจะไม่ง่ายขนาดนั้น เวินลั่วฉิงไม่กลัวเหรอ?
คำพูดนั้นของเย่ซือเฉินไม่สามารถทำให้เธอสะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย
“เรื่องใหญ่ขนาดนั้นเลยเหรอ? อารมณ์แรงขนาดนี้ท่าจะไม่ดีแน่” เวินลั่วฉิงทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงอันแหบห้าวพร้อมทั้งยิ้มมุมปาก
แน่นอนว่าความเคลื่อนไหวของเธอไม่มีหยุดชะงักเลยแม้แต่น้อย ในขณะที่เย่ซือเฉินก้าวขามานั้น เธอก็เปิดประตูวิ่งออกมาแล้ว
ขณะที่ประตูห้องปิดนั้น เธอหันหลังแล้วโบกมือขึ้น ทิ้งท้ายด้วยคำว่า “ไปก่อนนะสุดหล่อ หวังว่ามีโอกาสคงได้เจอกันอีก”
เป็นไงล่ะ ยังมีความภาคภูมิใจอีก!
หนีไม่รอดเหรอ? ถ้าไม่ลองแล้วจะรู้ได้ไง?
หากไม่หนีตอนนี้ก็เท่ากับรอให้เขารุกรานอย่างนั้นเหรอ?
เธอไม่ได้โง่ขนาดนั้นนะ!
ในขณะที่เย่ซือเฉินวิ่งตามมานั้น เขาตามมาทันก็ตอนที่เวินลั่วฉิงปิดประตูออกมาแล้ว เหลือเพียงแค่เงาและความมืดไว้เท่านั้น
เวินลั่วฉิงได้หยิบเสื้อ และชุดนอนของเขาไปแล้ว เขาไม่กล้าตามเธอออกมาหรอก
เย่ซือเฉินจ้องตามเงาเธอด้วยสายตาเขม็ง กัดฟันพูดประชด ดี! ดีมาก! เธอข้ามระเบียงเข้ามาในห้องเขา หลังจากนั้นก็……
หลังจากนั้นก็หนีไปง่ายๆ แบบนี้เหรอ?
ผู้หญิงคนนี้สมควรตายจริงๆ คาดไม่ถึงเลยว่าจะเอาเสื้อผ้ากับชุดนอนเขาไปด้วย!
แถมยังเอาเงินแค่หยวนเดียวให้เขาอีก! เขามีค่าแค่หนึ่งหยวนเท่านั้นเหรอ!! สมควรตายจริง
แต่ไหนแต่ไรมามีแต่เขาที่เป็นฝ่ายทำแบบนี้กับคนอื่น และไม่กล้ามีใครกล้าทำแบบนี้กับเขามาก่อนเลย!
เย่ซือเฉินพลิกมือเป็นเมฆาคว่ำฝ่ามือเป็นห่าฝน ไม่มีใครสู้เขาได้ แต่ในวันนี้ถูกแมวป่ามาหักหน้าแบบนี้
ผู้หญิงคนนั้นช่างกล้าจริงๆ เยี่ยม เยี่ยมมาก!