บทที่ 2 - ทำความคุ้นเคย 2
-มหาวิทยาลัย-
“เป็นอะไร ทำหน้าอย่างกับหมาโดนยาเบื่อ”
ฉันถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ก่อนจะมองหน้าเพื่อนทั้งสองอย่างเซ็งๆ
“เซ็งอ่ะ”
“เซ็งเรื่องอะไรของแก?” แอนนี่เอ่ยถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น ต่างจากยัยฟ้าที่เอาแต่นั่งก้มหน้าอ่านหนังสือไม่สนใจสิ่งรอบข้าง
“เมื่อคืนทางสะดวกอุตส่าห์ชวนพี่โซ่เข้าบ้าน แต่พวกแกรู้ไหมว่าเขาทำอะไรกับฉันบ้าง”
“โอ้มายก๊อดดด อย่าบอกนะ…ว่าแกเสียเวอร์จิ้นให้กับพ่อหนุ่มซ่อมรถแล้ว?” แอนนี่ยกมือทาบอกพร้อมทำสีหน้าเลิ่กลั่ก
“เสียเวอร์จิ้นกับผีน่ะสิ! แม้แต่ขาอ่อนเขายังไม่มองเลย”
แค่คิดก็รู้สึกเหนื่อยใจ อุตส่าห์ทำถึงขนาดนั้นแต่พี่โซ่ก็ยังไม่ยอมจับฉันกินสักที ถ้าจะตายด้านขนาดนี้ก็น่าจะไปบวชฟังธรรมให้มันรู้แล้วรู้รอดไป เอ๊ะ! หรือว่าฉันยังแซ่บไม่พอ!
“แล้วเขาไม่ทำอะไรแกสักนิดเลยเหรอ?”
“ไม่ทำ แล้วก็คงไม่คิดจะทำ” ฉันซบหน้าลงบนโต๊ะหินอ่อนอย่างหมดหนทาง เพราะไม่ว่าจะทำท่าไหนก็ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้สนใจฉันขึ้นมาบ้างเลย
“แกว่าฉันควรไปทำนมเพิ่มดีไหม เอาสัก500ccจะได้ดูเซ็กซี่กว่านี้ไง”
“สติค่ะชะนีน้อย! ผู้ชายเขาไม่ได้สนใจหล่อนก็ควรมูฟออนป่ะ” ยัยแอนนี่ดีดนิ้วใส่ ก่อนจะหยิบลิปสติกสีแดงสดขึ้นมาทาบรรจงที่ริมฝีปากอย่างตั้งใจ
“พวกเราทั้งสวยทั้งรวยจะมีผู้ชายสักกี่คนก็ได้”
“ก็ฉันชอบเขา แกไม่ใช่ฉันคงไม่มีวันเข้าใจหรอก”
“ฉันถามจริงๆ เถอะนะ จะไปวุ่นวายกับเขาทำไมนักหนา ผู้ชายหล่อๆ รวยๆ ตามจีบแกตั้งเยอะแยะทำไม่เลือกเอาสักคน”
“…..” ก็จริงเหมือนที่เพื่อนบอก ผู้ชายในมหาวิทยาลัยต่างพากันมาขายขนมจีบให้ฉันไม่เว้นแต่ละวัน ถ้าเกิดเลือกเอาใครสักคนมาแทนพี่โซ่ก็คงไม่ต้องว้าวุ่นขนาดนี้
“ถือว่าเชื่อเพื่อนสักครั้ง ตัดใจจากพ่อหนุ่มวิศวะคนนั้นซะเถอะ ฉันไม่เห็นว่าเขาจะมีอะไรคู่ควรกับแกเลยสักนิด”
-เวลาต่อมา-
“เด็กมึงแม่งอย่างเด็ดเลยนะ หุ่นนี่อย่างเอ็กซ์ผิวขาวจั๊วะ! ผู้ชายพากันมองตามตาเป็นมัน”
‘บาส’ เพื่อนชายคนสนิทเดินเข้ามาทักทายในขณะที่โซ่กำลังเก็บข้าวของเตรียมตัวจะกลับบ้านหลังเลิกเรียน
“หมายถึงอะไร?”
“ก็น้องปาลินปีหนึ่งไง คนที่ตามจีบมึงอยู่อ่ะ”
“ทำไม?” พอได้ยินชื่อของปาลิน เขาก็เริ่มให้ความสนใจขึ้นมาบ้างแล้ว
“เมื่อคืนกูบังเอิญไปเจอน้องที่คลับแถวสุขุมวิท เพิ่งรู้ว่าคลับที่พวกเราชอบไปเป็นของพ่อเขา”
“…..”
“น้องเข้ามาทักด้วยนะ คงจำได้ว่ากูเป็นเพื่อนมึง ชวนพวกกูคุยตั้งนานไม่ถือตัวด้วย โคตรน่ารักเลย”
“ยัยนั่นก็ตีสนิทกับคนไปทั่วแหละ” โซ่พูดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์มากนัก ปาลินเป็นคนอัธยาศัยดี เลยไม่แปลกที่จะชอบเป็นฝ่ายเข้าหาคนอื่นก่อน
“แต่กูว่าไม่น่าจะใช่ เห็นมีผู้ชายเข้ามาชนแก้วขอเบอร์ตั้งหลายคน แต่ไม่เห็นน้องมันไม่เล่นด้วยเลย”
“…..”
“ถ้ากูเป็นมึงนะ ไม่ปล่อยให้น้องลินหลุดมือหรอก คนอะไรทั้งสวยทั้งรวย จะจับทำเมีย…” บาสหยุดชะงักไปชั่วครู่เมื่อเห็นสายตาของเพื่อนชายที่มองมาทางเขาอย่างไม่พอใจ
“ไอ้ห่านิ! กูแค่พูดเล่นไม่เห็นจะต้องมองตาขวาง หวงน้องหรือไง”
“ทำไมต้องหวง ไม่ได้เป็นอะไรกัน”
“ที่มึงไม่ยอมรับรักน้องมัน เป็นเพราะยังลืมฝนไม่ได้ใช่ไหม”
ฝนคือรักแรก คือแฟนคนแรกที่คบกันมานานถึงสามปี แต่สุดท้ายเธอก็เลือกที่จะบอกเลิกเขาแล้วไปหาคนที่ดีและเพรียบพร้อมกว่า
กว่าจะทำใจลืมฝนได้ก็เกือบเสียผู้เสียคน ตั้งแต่นั้นมาเขาก็ไม่เคยคิดที่จะรักใครอีกเลย
“เขาทิ้งมึงไปตั้งหลายปี ยังจะมัวอาลัยอาวรณ์อยู่อีก”
“ถ้ามึงไม่รู้อะไรก็อย่าพูดดีกว่า เรื่องของกูกับฝนมันจบไปตั้งนานแล้ว”
“แต่กูได้ข่าวว่าฝนเลิกกับไอ้นั่นแล้วนะ ไม่แน่เขาอาจจะกลับมาขอมึงคืนดีก็ได้” บาสตบบ่าเพื่อนชายอย่างให้กำลังใจเพราะรู้ว่าโซ่นั้นรักฝนมาก
“จะเลิกพูดเรื่องนี้ได้หรือยัง”
“เออ! กูไม่พูดเรื่องนี้แล้วก็ได้ ส่วนเรื่องงานพิเศษที่มึงให้กูหาให้ได้เรื่องแล้วนะ”
“เป็นยังไงบ้าง?”
“ถ้ามึงพร้อมก็เริ่มงานได้เลย”
“ขอบใจมึงมากที่ช่วยฝากงานให้” รอยยิ้มบางปรากฏขึ้นใบหน้าหล่อเหลาในรอบหลายวัน ลำพังงานแค่งานซ่อมรถที่อู่อาจจะไม่พอ เขาเลยต้องหาช่องทางทำงานเพิ่มเพื่อจะได้มีค่าใช้จ่ายพาพ่อไปรักษาที่โรงพยาบาล
“เป็นเพื่อนกันก็ต้องช่วยกันดิวะ เรื่องแค่นี้เอง”
“พี่โซ่!” ชายหนุ่มรีบหันไปมองเมื่อได้ยินเสียงเรียกที่คุ้นเคย
“มีอะไร?”
“วันนี้ลินขับรถมาเอง กลับบ้านด้วยกันนะ” ปาลินเดินเข้าไปใกล้ก่อนจะยิ้มทักทายให้อย่างเป็นมิตร
“พี่จะได้ไม่ต้องนั่งรถเมล์ให้ลำบากไง”
“ฉันมีธุระต้องไปทำต่อ”
“ธุระอะไร ลินขอไปด้วยคนสิ”
“ธุระส่วนตัว!” โซ่เน้นคำว่า ‘ส่วนตัว’ นั่นหมายความว่าเธอคงตามไปด้วยกันไม่ได้
“หมายความว่าไปด้วยไม่ได้ใช่ไหมคะ?”
“…..” เขาไม่ตอบแต่เลือกที่จะรีบเดินหนีออกมาจากตรงนั้น
“เมื่อไหร่จะเลิกเดินหนีลินสักที”
“ฉันควรเป็นฝ่ายถามเธอมากกว่า ว่าเมื่อไหร่จะเลิกวิ่งตามฉันสักที”
“พี่รำคาญลินเหรอ?” ใบหน้าแสนหวานเริ่มฉายแววความกังวลใจ หรือบางทีเธออาจจะทำตัววุ่นวายกับเขามากไป เลยเกิดเป็นความอึดอัดแบบนี้
“ตอบลินมาก่อนอย่าเพิ่งเดินหนี”
“คิดเองสิว่าทำตัวน่ารำคาญหรือเปล่า”
“…..” คนตัวเล็กได้แต่ยืนนิ่งมองภาพที่โซ่ค่อยๆ เดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองเธออีก
เริ่มเหนื่อยแล้ว! ยังไม่เห็นวี่แววว่าเขาจะสนใจ หรือเธอควรหยุดก่อนที่จะเจ็บไปมากกว่านี้
22:45 น.
ครืด~ มือเล็กควานหาโทรศัพท์ที่ส่งกำลังเสียงร้องดังในยามวิกาล เธอตัดสินใจกดรับสายเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ของเพื่อนสนิทที่โทรเข้ามา
“อยากตายหรือไงย่ะ! แกมีธุระอะไรถึงได้โทรมาดึกดื่นขนาดนี้”
(นอนหรือยัง จะชวนออกมาเที่ยวด้วยกันสักหน่อย)
“ช่วงนี้หน้าฉันโทรมมาก ขอพักเรื่องเที่ยวไว้ก่อนแล้วกัน”
(แน่ใจนะว่าไม่มา…ฉันเจอพี่โซ่ของแกมาทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟอยู่ที่คลับV)
“ฮ่ะ! แกเจอพี่โซ่ที่ไหนนะ?” ปาลินดีดตัวลุกขึ้นจากที่นอนอย่างรวดเร็วเมื่อได้ยินในสิ่งที่เพื่อนบอก อาการงัวเงียก่อนหน้านั้นได้หายไปในพริบตา
(เจอที่คลับV วันนี้เขาหล่อมาก ฉันอยากให้แกมาเห็น ลูกค้าผู้หญิงแย่งตัวกันให้วุ่นวาย)
“ขอเวลาแต่งตัวสิบห้านาทีเดี๋ยวฉันรีบไป แกเฝ้าว่าที่สามีของฉันไว้ดีๆ เลยนะ ห้ามให้ละสายตาเด็ดขาด!”