Jay & Aeng Aei - 2 (3) เซอร์วิสพิเศษ
เอิงเอยควานหามือถือก่อนจะเลื่อนหาเบอร์เพื่อนอีกคนที่เอิงเอยสนิทและสามารถนั่งรถไปกับเขาได้
“ฮัลโหลเจมส์”
(ว่า...)
“แกว่างรึเปล่า” เอิงเอยเอ่ยขึ้น
(มีอะไร ทำไมเสียงเป็นงั้น เมาอ่อ)
“ทายเก่ง ฮ่า ฮ่า ฮ่า งั้นมารับหน่อยดิ”
(โอเค อยู่ที่ไหนเดี๋ยวไปรับ เพิ่งเลิกงานกำลังจะขับรถเข้าบ้านอยู่พอดี เดี๋ยวหันรถกลับเลย?)
เจมส์ที่ไม่เคยขัดใจเพื่อนอย่างเอิงเอยเลยสักครั้ง เขารู้ว่าเอิงเอยกลัวการขึ้นแท็กซี่เพราะอะไร
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องมารับหรอกแค่ล้อเล่น ฉันโทรมาแค่คิดถึงอะ ก็นายเล่นทำงานเยอะจนไม่ค่อยมีเวลาให้พวกฉันเลยนี่นา” เอิงเอยรีบเปลี่ยนคำตอบทันทีเอิงเอยรู้ว่าเจมส์ทำงานหนัก และการที่รบกวนเพื่อนตอนดึก ๆ แบบนี้ ดูเหมือนว่าเธอจะเห็นแก่ตัวมากไปหน่อย
ในตอนนี้เขาก็ควรจะพักผ่อนได้แล้ว เฮ้อ...เอิงเอยนี่มันแย่จริงๆ
(ไรวะ ล้อเล่นได้ไง)
“ก็ล้อเล่นจริง ๆ นี่แค่นี้นะ จะนอนแล้ว”
(ทำเสียงคนเมาซะเหมือน งั้นไม่ต้องไปรับใช่ป่าว อยู่บ้านใช่ไหม)
“อือ อยู่บ้านกำลังจะนอนล่ะ ฝันดีนะ”
(โอเค ฝันดี ไว้เคลียร์งานเสร็จจะโทรไปนัดมากินข้าวนะ)
“เคค่า”
พูดจบเอิงเอยก็ตัดสายไปทันที เธอถอนหายใจออกมาอย่างหมดความหวัง ก่อนจะหยิบมือถือมาเปิดแผนที่ดู ถ้าจากตรงนี้มีรถไฟฟ้าให้กลับง่าย ๆ รึเปล่า หรือถ้าเดินทางกลับกับคนอื่นเยอะๆ มันก็จะไม่ค่อยน่ากลัวสักเท่าไหร่
“อ่า...อีกสิบนาที รถไฟฟ้าก็จะปิดแล้วเถอะ จะเดินไปทันไหมเนี่ย” เอิงเอยบ่นพึมพำอยู่คนเดียว
ถ้าจากไนต์คลับเดินไปถึงรถไฟฟ้าใช้เวลาประมาณสิบห้านาทีแต่ตอนนี้ใกล้จะเที่ยงคืนแล้ว และรถไฟฟ้าก็กำลังจะปิด งานเข้าล่ะ เพราะนั่นหมายความว่าเอิงเอยจะต้องวิ่งไปให้ทันภายในสิบนาที
เอาเถอะลองดู…ดีกว่าต้องเดินกลับบ้านแล้วกัน เมื่อคิดได้อย่างนั้นก็รีบเก็บมือถือเตรียมจะวิ่งข้ามถนนแต่ทว่า
ปื้นนนน
“กรี๊ดดดด” เอิงเอยกรีดร้องด้วยความตกใจ เมื่อเธอพุ่งออกไปอย่างไม่ดูรถบนถนน จนเกือบจะถูกรถชน แต่โชคที่ดีมากเจ้าของรถนั้นเบรกทันท่วงที
เธอเงยหน้ามองไปที่คนขับ เห็นเป็นเจย์ที่เบรกรถจนหัวทิ่ม เขาสบถออกมาอย่างอารมณ์เสีย ก่อนจะเปิดประตูรถลงมาดู
ทว่าพอเห็นเป็นเอิงเอยดูเจย์มีสีหน้าตกใจ เพราะคนที่นั่งอยู่บนพื้นกับกลายเป็นเอิงเอย คนที่เขาคิดว่านั่งแท็กซี่ออกไปแล้ว
“อ้าว ทำไมเมื่อกี้ไม่ได้ขึ้นรถแท็กซี่”
“เอิงกลัวรถแท็กซี่ค่ะ” เอิงเอยยิ้มแหยก่อนตอบไปตามตรง เห็นเจย์ถอนหายใจเล็กน้อย ก่อนจะเข้ามาพยุงเอิงเอยให้ลุกขึ้น
พอได้ยินว่าเธอบอกว่ากลัวแท็กซี่เป็นรอบสอง คิ้วหนาเข้มก็ขมวดเข้าหากัน ที่เธอพูดกับเขาตอนที่อยู่ในผับคือเรื่องจริง
เพราะเธอไม่กล้าขึ้นแท็กซี่เลยไม่ขึ้น แล้วเดินกลับนี่นะ
ดีนะว่าเจย์หยุดยืนสูบบุหรี่อยู่พักใหญ่กว่าจะขับรถออกมาเลยเจอเข้าพอดี ถ้าเขาออกรถไปก่อนจะเป็นยังไง
เฮ้ออออ...เจย์ยกมือขึ้นนวดขมับเบา ๆ แล้วมองหน้าหญิงสาวว่าจะเอายังไงดี
เอิงเอยที่กำลังพยุงตัวลุกขึ้นยืน อยู่ ๆ ก็ปวดแปลบที่หัวเข่า ทว่าพอก้มลงไปมองดู เลยรู้ว่าที่เจ็บตึงตรงหัวเข่าเพราะมีเลือดสีแดงสดไหลลงตามเรียวขาของเอิงเอยเล็กน้อย
“ได้เลือดจนได้ งั้นมานี่ก่อน” เจย์ที่เห็นแบบนั้นก็พาเอิงเอยขึ้นรถทันทีก่อนจะยื่นทิชชูที่อยู่บนรถให้เอิงเอยรีบเช็ดเลือด
“ขะ...ขอบคุณค่ะ” เอิงเอยเอ่ยตอบ แม้จะตกใจที่เจย์ดูอารมณ์ไม่ค่อยดี ดูหงุดหงิดเล็กน้อยที่เจอเธอ
หรือไม่ก็บางทีเขาอาจจะหงุดหงิดที่เธอเกือบจะวิ่งไปให้เขาชน ไม่อ่อนโยนเหมือนตอนอยู่ในคลับโฮสต์เลยสักนิ
ใช่สิ...ตอนนี้มันนอกเวลางานแล้วหนิ
“บ้านเราอยู่ไหน งั้นเดี๋ยวพี่ไปส่งก็แล้วกัน”
“อ่า...เกรงใจค่ะ คือว่า...”
“ถือว่าเป็นเซอร์วิสจากที่เราประมูลพี่ในราคาสูงมากวันนี้ก็แล้วกัน”
เจย์เอ่ยขึ้นโดยที่เอิงเอยยังพูดไม่จบ ในขณะที่เอิงเอยมองตาเขาปริบ ๆ
โชคดีมากที่วันนี้เจย์ดื่มน้อยมาก แต่ก็ไม่รู้ว่านี่เป็นเวรกรรมด้วยหรือเปล่า เพราะสุดท้ายแล้ววันนี้เจย์ก็ต้องมาเป็นคนขับรถให้ลูกค้าอย่างเอิงเอยอยู่ดี