บทที่ 8 ทำงานวันแรก (3)
จนกระทั่ง...
ตุ้บ!
“คุณปลายฝน!”
ร่างบางทรุดตัวลงเมื่อสติดับวูบจนไม่รับรู้ถึงสิ่งรอบข้าง เสียงร้องโวยวายดังขึ้นตามมาก่อนจะพุ่งตรงเข้ามาประคองหญิงสาวด้วยความร้อนใจที่อยู่ ๆ ก็เป็นลมล้มลงไปต่อหน้าต่อตา
“เกิดอะไรขึ้นพี่อิง!” อัศวินได้ยินเสียงร้องก้รีบวิ่งเข้ามาดู กระทั่งเขาเห็นปลายฝนเป็นลมหมดสติอยู่ในอ้อมแขนของอิงดาวผู้เป็นพี่สาวคนโต ก็ทำให้รีบตรงปรี่เข้าไปช้อนร่างบางเข้าหาตัวทันที
“คุณปลายฝนเป็นลม อัศพาไปที่ห้องพยาบาลที!”
อัศวินพาตัวปลายฝนมาที่ห้องพยาบาลของไร่ซึ่งมีนายแพทย์ประจำให้การรักษาในยามฉุกเฉิน
ตอนนี้ปลายฝนอยู่ในมือของหมอเรียบร้อย อาการไม่ได้น่าเป็นห่วงอะไรมากนัก แต่ทว่ากลับเป็นตัวอัศวินที่กำลังย่ำแย่ เนื่องจากถูกสายตากดดันจากพี่น้องและรวมไปถึงป้าแม่บ้านที่ร้อนรนตามหาถึงที่นี่ เมื่อทราบข่าวว่าผู้ช่วยของนายหมดสติ
“แกทำอะไรไอ้อัศ” ประโยคแรกที่เปิดก็คงไม่พ้นไปด้วยคำถามที่เต็มไปด้วยความตำหนิและไม่พอใจในตัวนายใหญ่คนนี้อย่างถึงที่สุด
“นั่นสิพี่อัศ ใช้งานคุณปลายฝนหนักมากเลยเหรอ ทำไมเขาถึงได้เป็นลมแบบนี้”
‘อิงดาว’ พี่สาวคนโตและ ‘อิงเอม’ น้องสาวคนเล็กเอ่ยขึ้นจนทำเอาคนที่ถูกถามถึงกับหันหน้าหนีด้วยความรำคาญ อัศวินไม่ได้แปลกใจที่พี่น้องของตัวเองรู้จักผู้ช่วยของเขา เพราะปลายฝนเป็นถึงลูกสาวของพ่อเลี้ยงรณ ทั้งยังเคยออกงานและช่วยงานในไร่อยู่ตลอด แต่สิ่งที่เขาแปลกใจก็เห็นจะเป็นการเค้นถามที่เขามองว่ามันโอเวอร์ไปนี่แหละ
“ไม่ได้ทำอะไรเลย นี่เห็นผมเป็นคนยังไงวะเนี่ย แกด้วยยายเอม ไม่ต้องมามองตาแข็งเลยนะ เดี๋ยวจะโดน!” อัศวินโมโหกลบเกลื่อนเมื่อยังถูกซักถามผ่านสายตา เขาไม่ได้ทำอะไรแม่ผู้ช่วยคนนั้นเลยสักนิด อยู่ ๆ ก็เป็นลมไปเองแล้วทำไมเขาถึงกลายเป็นคนผิดไปได้
“นายใหญ่ฮื่อคุณปลายฝนแบกปุ๋ย หมักดิน ยะกลางแดดฮ้อน ๆ แถมข้าวเจ้าก็บ่ได้กิ๋น ข้าวตอนก็กิ๋นไปจั๊กน้อยเพราะพวกคนในไร่นินทาคุณปลายฝนจนเธอต้องย่างปุ๊น (นายใหญ่ให้คุณปลายฝนแบกปุ๋ย หมักดิน ทำกลางแดดร้อน ๆ แถมข้าวเช้าก็ไม่ได้กิน ข้าวเที่ยงก็กินไปนิดเดียว เพราะพวกคนในไร่นินทาคุณปลายฝนจนเธอต้องเดินหนี)” ป้าหน่อยฟ้องพี่สาวของนายถึงวีรกรรมอันแสบสันที่เป็นต้นเหตุทำให้ผู้ช่วยคนใหม่เป็นลมเป็นแล้งไปแบบนี้
หล่อนเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง ตื่นแต่เช้าเพราะมีหน้าที่ดูแลอาหารการกินให้กับนาย เห็นว่านายใช้งานผู้หญิงตัวเล็ก ๆ หนักหนา แถมยังต้องมาเจอคำนินทาตั้งแต่วันแรกที่เริ่มทำงานอีก ทั้งเห็นใจและเป็นห่วงจนต้องรีบมาดูอาการของสาวรุ่นลูกที่รู้สึกเอ็นดูอย่างบอกไม่ถูก
“อัศ! แกบ้าไปแล้วเหรอ ทำบ้าอะไรฮะ! ทำไมถึงใช้งานหนักแบบนี้”
“ป้าหน่อยก็พูดเกินไป ผมไม่ได้...”
“ไม่ต้องมาเถียงเลยนะ หน้าที่ผู้ช่วยต้องไปแบกปุ๋ยหมักดินซะเมื่อไหร่ แกตั้งใจจะทำอะไรกันแน่ นี่อย่าบอกนะว่าแกแกล้งเขาเพราะเห็นว่าเขาเป็นคนของไร่คู่แข่งน่ะ!” อิงดาวกอดอกมองน้องชายที่สามารถมองลึกไปถึงความรู้สึก เธอรับรู้ถึงความบาดหมางของน้องชายและลามไปถึงไร่พันทิพย์ แต่ก็ไม่คิดว่าคนที่เป็นนายใหญ่ ผู้ปกครองไร่ทั้งไร่จะมีความคิดเป็นเด็ก กลั่นแกล้งผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งได้มากมายขนาดนี้
“เฮ้ย เกินไปเปล่าพี่อิง จะเข้าข้างอะไรขนาดนั้น”
“พี่อัศทำเกินไปจริง ๆ นะ ทำไมไม่คิดบ้างว่าถ้าคนคนนั้นเป็นเอมพี่อัศจะรู้สึกยังไง ถ้าเอมโดนเจ้านายกลั่นแกล้งบ้างล่ะ พี่อัศจะมองว่ามันเป็นเรื่องปกติหรือเปล่า” อิงเอมมองหน้าพี่ชายด้วยความผิดหวัง อัศวินเองก็มีน้องสาว แต่ทำไมถึงไม่นึกถึงใจเขาใจเรา ว่าถ้าหากพี่ชายของปลายฝนรับรู้เข้าจะคิดยังไง กับการที่ส่งน้องสาวให้มาทำงานกับคนที่พร้อมจะรังแกแบบนี้
อิงดาวและอิงเอมตั้งใจเข้ามาทำความรู้จักกับปลายฝน รับรู้ว่าเธอเพิ่งเข้ามาทำงานที่นี่เป็นวันแรก แต่ไม่คิดเลยว่าอัศวินจะกลั่นแกล้งคนคนหนึ่งขนาดนั้น
“สำออยหรือเปล่าเถอะ!”
“ไอ้อัศ! ปากแกนี่มัน...ดูแลคนของแกให้ดี อย่าให้พี่ต้องพูดเรื่องนี้กับพ่อนะ แกอย่าลืมว่าพ่อไว้ใจแกมากถึงได้ยกไร่นี้ให้แกปกครอง ถ้าคนคนเดียวดูแลไม่ได้ฉันนี่แหละที่จะขึ้นตำแหน่งแทนแกเอง!” พี่สาวคนโตถึงกับเดือดดาลเมื่อน้องชายทำตัวเหลวไหลอย่างไม่น่าให้อภัย
“ครับพี่อิง ผมรู้แล้ว ผมขอโทษ”
อัศวินได้รับความไว้ใจจากผู้เป็นพ่อให้ดูแลไร่แห่งนี้แทนอย่างเต็มตัว ซึ่งเธอเองก็คิดเห็นเช่นเดียวกันพร้อมกับการทำงานเอกสารควบคู่ไปกับน้องชาย แต่ในเมื่อมีเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นเธอก็คงต้องพิจารณาใหม่
หากอัศวินยังคงใช้อคตินำทาง เธอนี่แหละที่จะสั่งสอนให้เขาหลาบจำเองว่าการเป็นนายใหญ่ที่ดีควรทำยังไง
