บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 เปลวเพลิง (1)

“ยายฝน! ยายฝน แกจะไปไหน พี่เรียกก็ไม่หันนะไอ้น้องคนนี้!” ขุนเขาวิ่งตามน้องสาวออกมาจากตัวบ้านพร้อมกับออกปากเรียกเสียงดัง จนคนเป็นพ่อที่เห็นเหตุการณ์ถึงกับต้องเดินตามมาดู

“อะไรกันสองคนนี้ เอะอะโวยวายกันแต่เช้าเลย”

“พ่อก็ดูลูกสาวพ่อเถอะ หูหนวกไปแล้วมั้ง ผมตะโกนเรียกหลายรอบก็ยังเมิน”

“แล้วพี่ขุนมีอะไรเล่า คนยิ่งรีบ ๆ อยู่” ปลายฝนขมวดคิ้วยุ่งพลางหยิบหมวกแก๊ปมาสวมใส่เพื่ออำพรางแดดสำหรับการออกไปตรวจเช็กออเดอร์ให้กับลูกค้า

“แกจะออกไปไหน”

“ก็ออกไปคุมคนงานน่ะสิ วันนี้มีส่งผักที่ตลาดในเมืองล็อตสองไม่ใช่เหรอ ฝนว่าจะไปคุมสักหน่อย”

“ไม่ต้องไป แกไปที่แปลงกะหล่ำกับพี่ นี่ก็กำลังลงกล้าพอดี”

“โอ๊ย ไม่เอาอะ เรื่องแค่นี้ไม่เห็นจะต้องให้ฝนไปด้วยเลย”

“แกนี่มัน...”

“นายครับ! นาย!”

แต่ทว่าก่อนที่จะตัดสินใจอะไรได้ ลูกน้องคนสนิทของขุนเขาก็เดินเข้ามาก่อนจะรายงานอะไรบางอย่างให้กับผู้เป็นนายฟัง ที่ทำเอาคนที่มองจับสังเกตได้ถึงสีหน้าเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด

“อืม ขอบใจ มึงไปทำงานต่อเถอะเดี๋ยวกูจัดการเอง” เสียงเข้มเอ่ยบอกก่อนที่ลูกน้องคนสนิทจะโค้งศีรษะและเดินออกไป

“มีอะไรไอ้ขุน”

“ท่านเหมมาที่นี่ รออยู่ที่ห้องรับรอง”

ชื่อเสียงเรียงนามเพียงแค่ได้ยินก็ทำให้ปลายฝนชะงักงันไปในทันที หญิงสาวเม้มปากแน่น ภายในใจก็รู้สึกอึดอัดและกระวนกระวาย แค่นึกถึงเหตุการณ์หยาบคายที่เธอเจอในวันนั้นก็ทำให้ขยาดรังเกียจมาจนถึงตอนนี้

“พ่อ...ฝนไม่อยากแต่งงานนะ ฝนตัดสินใจแล้วว่าฝนจะไม่แต่งงาน” มือเล็กจับแขนของผู้เป็นพ่อเอาไว้เพื่อย้ำชัดในการตัดสินใจของตัวเอง

จริงอยู่ที่ในตอนแรกเธอเคยบอกกับพ่อและพี่ชายว่าจะแต่งงานเพื่อพยุงวิกฤตของไร่ แต่ความหยาบคายและการกระทำที่ไม่ให้เกียรติของอีกฝ่ายทำให้เธอไม่สามารถแต่งงานกับเขาได้จริง ๆ

“อืม พ่อเองก็คิดไว้อยู่แล้วล่ะว่าพ่อไม่อยากให้ฝนแต่งงานกับเขา พ่อผิดเองที่คิดแบบนั้นตั้งแต่แรก” พ่อเลี้ยงรณกล่าวอย่างจนใจ

เขาเป็นคนริเริ่มเรื่องแต่งงานขึ้นเพราะอยากฟื้นฟูไร่ให้กลับมารุ่งเรืองยิ่งใหญ่เหมือนเดิม แต่เขากลับไม่ได้ถามความรู้สึกของลูกเลยแม้แต่น้อย จนกระทั่งเขาได้กลับไปทบทวนกับตัวเองและได้คำตอบว่าพ่ออย่างเขาไม่สามารถปล่อยให้ลูกต้องไปเผชิญและฝากฝังชีวิตไว้กับคนอย่างเหมราชได้จริง ๆ

“แล้วทำไมตอนแรกพ่อถึงอยากให้ยายฝนแต่งงานกับท่านเหมล่ะ ทำไมต้องเป็นเขา ทำไมไม่เป็นคนอื่น” ขุนเขาถามผู้เป็นพ่อเมื่อขัดข้องใจมาตั้งแต่ต้น เขาไม่มีโอกาสได้ถามเลยสักครั้ง แต่เมื่อพ่อของเขาตั้งใจว่าจะยกเลิกความคิดนั้นไปแล้วก็ควรถามเหตุผลให้แน่ชัดเสียที

“พ่อรู้จักกับเขามานานแล้วล่ะ ความจริงท่านเหมเป็นเพื่อนกับแม่ของลูกนั่นแหละ เห็นหน้าค่าตากันมาก็นาน แถมเขาก็ยังมีอิทธิพล ยิ่งพอได้ควบคุมธุรกิจของทางบ้านอย่างเต็มตัวเขาก็ยิ่งเป็นใหญ่”

รณภพบอกความจริงกับลูกทั้งสองให้เข้าใจ เหตุผลที่เขาอยากให้ปลายฝนแต่งงานกับเหมราชตั้งแต่แรกก็เพราะรู้จักกันเป็นอย่างดี ภรรยาของตนเป็นเพื่อนกับเหมราช เจอหน้าค่าตากันมานานนับสิบปี จนกระทั่งภรรยาของเขาเสีย รวมถึงฝ่ายนั้นก็ได้ขึ้นเป็นใหญ่ในอำนาจของครอบครัว ก็กลายเป็นว่าแทบไม่ได้พูดคุยหรือพบปะกันเลย

อาจจะมีบ้างที่เจอะเจอกันตามงานสังคมหรืองานประชุมระหว่างไร่ แต่การพูดคุยสังสรรค์ตามประสาเพื่อนพี่น้องดังเช่นเมื่อก่อนคงไม่มีให้เห็นอีกต่อไป

“แล้วก็อีกอย่าง ท่านเหมเองก็เป็นคนบอกกับพ่อเองว่าเขาน่ะเอ็นดูยายฝนอยู่เหมือนกัน เขาพร้อมจะดูแลและช่วยเหลือไร่ของเรา ตอนนั้นพ่อมันโลภบวกกับเห็นแก่ตัว ความคิดแรกของพ่อก็คืออยากให้ยายฝนแต่งงานกับเขาเพื่อกอบกู้ชื่อเสียงของไร่ให้เป็นเหมือนเดิม”

ราวกับเป็นการสารภาพต่อลูกทั้งสอง ชายวัยหกสิบปีก้มหน้ามองพื้นอย่างละอายใจที่มีความคิดแบบนั้น เขาเกือบจะขายลูกกินเพียงเพราะกระหายความยิ่งใหญ่ที่เคยพึงมี

กว่าจะคิดได้เขาก็เกือบจะเสียลูกสาวผู้เป็นดวงใจไปเผชิญกับคนสีเทาคนนั้น

“ท่านเหมเขาบอกกับพ่อแบบนั้นเลยเหรอคะ เขาบอกกับพ่อเลยเหรอว่าเขาชอบ...เอ่อ...เอ็นดูฝน”

ไม่คิดว่าคนอย่างท่านเหมจะกล้าพูดปาว ๆ ว่ารู้สึกชอบพอลูกสาวของพ่อเลี้ยงรณที่อายุน้อยกว่ายี่สิบปี!

“อืม เขาบอกกับพ่อแบบนั้น พ่อขอโทษนะฝนที่พ่อคิดแบบนั้น พ่อขอโทษจริง ๆ”

“ฝนไม่โกรธพ่อหรอก ฝนเข้าใจพ่อทุกอย่าง” หญิงสาวสวมกอดคนเป็นพ่อ กอดแน่นพลางซบใบหน้าอิงกับอกอบอุ่น เธอไม่โทษพ่อของเธอหรอก เพราะในตอนนั้นเธอเองก็เคยคิดที่จะแต่งงานเพื่อยุติทุกปัญหาเหมือนกัน

“แหม อยู่กันที่นี่เองหรอกเหรอครับ”

ทว่า...สุ้มเสียงทรงอิทธิพลเอ่ยแทรกขึ้นจากทางด้านหลังทำให้ทุกสายตาหันไปมอง

ร่างสูงตระหง่านของเหมราชเดินเข้ามาช้า ๆ พร้อมด้วยรอยยิ้มกรีดกรายที่มองออกตั้งแต่ต้นว่ามันเป็นรอยยิ้มแห่งความชั่วร้ายไม่ได้มีความดีปะปนอยู่เลยสักนิด

“คุณเหม ผมกำลังจะไปหาอยู่พอดีเลย” รณภพเป็นฝ่ายเปิดประโยคด้วยความสุภาพกับผู้ที่อายุน้อยกว่า

ถึงแม้ว่าเหมราชจะอายุน้อยกว่าเขา แถมยังเป็นเพื่อนของภรรยาที่ล่วงลับ แต่อย่างไรแล้วด้วยอำนาจและสถานะของอีกฝ่ายทำให้เขาต้องให้เกียรติและไม่ทำตัวเทียบเท่าจนเกินควร

“นี่อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาเลยสินะ ไม่สิ...ขาดก็แต่ลูกสาวคนเล็กอย่างหนูปลายฝันนี่นา” เหมราชยกยิ้มพลางหัวเราะเบา ๆ ในลำคอเมื่อเห็นภาพครอบครัวสุขสันต์ กระทั่งสายตาคมเคลื่อนมองหญิงสาวที่หมายปองให้มาเป็นเจ้าสาวและภรรยาในอนาคต

“เอ่อ...ท่านเหมมีธุระอะไรเหรอครับ มาหาพวกเราถึงที่นี่เลย” ขุนเขาแทรกขึ้นทันทีเมื่อเห็นสายตาแทะโลมหยาบคายของผู้ทรงอิทธิพลที่กำลังจ้องมองน้องสาวของเขา หากไม่ใช่คนใหญ่คนโตไอ้ขุนคนนี้คงได้สั่งสอนด้วยหมัดหนัก ๆ ไปแทนเป็นแน่!

“อ้อ! ผมมาทวงคำตอบจากหนูปลายฝนน่ะครับ...เรื่องการแต่งงานของเรา!”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel