บทที่ 3 นางหาได้อัปลักษณ์
โจวเจ๋อฮั่นยอมรับว่าตกตะลึงไม่น้อยที่เห็นใบหน้าอัปลักษณ์ของนาง
แต่เหตุไม่รู้นางจึงได้ดึงดูดใจเขาได้เพียงนี้
นางที่กำลังอ้าขาบดกลีบอวบอูมของตนเองกับหมอนข้างกำลังหลอกล่อให้เขาบดเบียดมังกรอันแข็งแกร่งกระแทกร่างของนางเช่นนั้นหรือ
สตรีร่านสวาทแห่งหอโคมเขียมผู้นี้ช่างน่าอร่อยเป็นอย่างยิ่ง
โจวเจ๋อฮั่นอ๋องนักรบหนุ่มแห่งแคว้นเหลียงอนุชาร่วมสายโลหิตของฮ่องเต้เพียงพระองค์เดียว
จากเมืองหลวงไปประจำการอยู่ชายแดนมาหลายปี ชื่อเสียงเลื่องลือในเรื่องความเหี้ยมโหดและไม่สนใจผู้ใด
อีกทั้งยังมีนิสัยเย่อหยิ่ง หากไม่พอใจผู้ใดอย่าได้คิดจะใช้กฎหมายเข้าต่อรองกับเขา
สิ่งที่เขาคิดคือหากฆ่าได้เขาย่อมไม่ลังเลที่จะเอาชีวิต เก่งกาจปราบศัตรูอีกทั้งไม่ว่าฝ่าบาทจะมีพระประสงค์ให้ทำการศึกเพื่อโจมตีแคว้นใด
โจวเจ๋อฮั่นผู้นี้สามารถสนองพระราชโองการได้อย่างรวดเร็ว
สมญานามอ๋องปีศาจของเขาจึงเลื่องลือไปทั่วใต้หล้า
บัดนี้เบื้องหน้าของเขาคือนางโลมผู้หนึ่ง ที่มีเรือนกายงดงามเป็นอย่างยิ่ง แต่ใบหน้าของนางที่ดูเหมือนว่าจะมีรอยแผลเป็นน่าเกลียดอยู่บนนั้นทำให้เขาขมวดคิ้ว
สตรีผู้นี้ย่อมเป็นผู้ที่เจ้าอี้เหวินส่งมาจากหอนางโลมเป็นแน่ หากเป็นผู้อื่นคงได้ไล่นางผู้นี้ออกไปจากห้องแล้ว แต่สำหรับท่านอ๋องไม่คิดเช่นนั้นเขาเพียงแต่ส่งยิ้มเหี้ยมเกรียมออกมา
หากไล่นางออกไปย่อมทำให้เจ้าอี้เหวินผู้นั้นหัวเราะเยาะ ในเมื่อเขาต้องการเพียงร่างกายของสตรีเหตุใดต้องสนใจใบหน้าของนางกันเล่า
เรือนร่างของนางงดงามปานนั้นหากปรนนิบัติถูกใจเขา
ไม่แน่เขาอาจเลี้ยงนางไว้คอยอุ่นเตียงก็เป็นได้ สตรีไม่ว่าจะมีใบหน้างดงามเพียงใดหากไม่ต้องใจแล้วก็เป็นเพียงแค่สตรีทั่วไปเท่านั้น
แต่นางผู้นี้ดูเหมือนจะใจกล้าไม่น้อย ทั้งๆ ที่มีใบหน้าน่าเกลียดเพียงนี้กลับยังคงความมั่นใจไม่หวาดกลัวเขาเลยแม้แต่น้อย นับว่าน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
อ๋องหนุ่มก้าวเท้ายาวพลางเสื้อของตนเองออก เพียงนั่งลงข้างเตียงเสียงครางแผ่วหวานของสตรีผู้นั้นพลันเปล่งออกมา เขายกยิ้มเย็นชาแล้วเอ่ยว่า
“เจ้าช่างประหลาดยิ่ง แต่ถูกใจข้านัก”
“น้ำ ข้าหิวน้ำ”
บัดนี้ภาพที่อยู่เบื้องหน้าของหลิวซือซือกลับเห็นว่าคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ตนเองนั้นคือสาวใช้คนสนิท
นางจับมือของชุ่ยหลินเอาไว้แล้วร้องขอด้วยน้ำเสียงแผ่วหวานยั่วยวนโดยที่ตนเองนั้นไม่รู้ตัว
“เช่นนั้นหรือ”
อ๋องหนุ่มตั้งใจเดินไปรินน้ำให้นาง ข่มความกระหายไว้ภายในอาภรณ์ที่ถอดออกก็มีเพียงครึ่งบน
เผยร่างกายที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามและรอยบาดแผลออกมา เมื่อนางโลมผู้นี้เห็นร่างกายนี้เต็มตานางกลับเลียริมฝีปากแล้วโถมกายเข้าโรมรันเขาทันใด
“ไม่ดื่มน้ำแล้วหรือ”
เขาเอ่ยออกมาเพียงครึ่งคำก็ถูกแม่นางผู้นี้จู่โจมริมฝีปากเข้าแล้ว หลิวซือซือครั้นบังเอิญถูกมือของบุรุษผู้นี้สัมผัสร่างกายของตนเองเข้าโดยบังเอิญ
นางพลันรู้สึกดียิ่งสติที่มีขาดสะบั้น เห็นริมฝีปากบางของเขาคล้ายบ่อน้ำ ภายในใจร่ำร้องให้ลิ้มลองจึงกระโจนเข้าใส่เขาทันใด
เมื่อได้สัมผัสยิ่งรู้สึกดีขึ้น ประดุจตนเองกำลังตกอยู่ในความฝัน มัวเมาในรสจุมพิตหื่นกระหายที่เขามอบให้
หลิวซือซือสะดุ้งเมื่อลิ้นสัมผัสลิ้น ถึงจะรู้สึกดีและวาบหวิวอย่างถึงที่สุด กระนั้นนางก็ไม่รู้จะวางลิ้นตนเองไว้ตำแหน่งไหนด้วยเพราะไร้เดียงสาในเรื่องบนเตียง
เมื่อนางถูกเขาดูดลิ้นของนางอีกทั้งยังค้นหาความหอมหวานภายในหลิวซือซือที่รู้สึกราวกับกำลังขึ้นสวรรค์ด้วยความอ่อนหวานนี้จึงเลียนแบบท่าทางของเขาทันที
"อ๊า ข้ารู้สึกดีเป็นอย่างยิ่ง"
ความไร้เดียงสาของนางทำให้อ๋องหนุ่มสัมผัสได้ หญิงร่านนางนี้กล้าแม้กระทั่งใช้มารยาหญิงอ่อนต่อเรื่องโลกีย์กับเขาเชียวหรือ
เขาเหยียดยิ้มมุมปากในขณะที่กำลังครอบครองริมฝีปากนางอยู่
แต่แล้วท่านอ๋องต้องถอนจุมพิตออกมาเพ่งพิศใบหน้าเนียนสวยนั้นเมื่อรับรู้ถึงความเหนียวหนืดที่หลุดมาติดใบหน้าเขา
การเสียดสีใกล้ชิดกันอย่างมากทำให้หน้ากากแผลเป็นของหลิวซือซือหลุดออกมา อ๋องหนุ่มจ้องมองด้วยความสงสัย
มือเรียวหยาบด้วยจับกระบี่มานานปีจึงค่อย ๆ ไล้สัมผัสที่แก้มนวลเนียนของหญิงสาว
โจวเจ๋อฮั่นกัดปากใจเต้นไม่เป็นส่ำเมื่อเขาเริ่มดึงสิ่งที่เหมือนแผลเป็นจนคล้ายเนื้อหนังที่น่าสยดสยองนั้นออกช้าๆ
ในขณะที่หลิวซือซือบัดนี้ถูไถกลีบอวบของตนเองกับหน้าขาของเขาและมือของนางยังซุกซนสัมผัสปลายถันเล็กของเขาด้วยความสงสัย กล้ามเนื้อของคนผู้นี้แน่นไปทุกส่วนยิ่งสัมผัสยิ่งรู้สึกดีเป็นอย่างยิ่ง
จวบจนโจวเจ๋อฮั่นดึงหน้าปลอมออกมาจนหมดเมื่อเห็นใบหน้าที่แท้จริงของสตรีนางนี้ทำให้โจวเจ๋อฮั่นแทบลืมหายใจ
นางงดงามเช่นนี้อีกทั้งใบหน้านี้หาได้อัปลักษณ์แต่อย่างใด