ปฏิบัติการขอแฟน
ดวงตากลมโตเบิกกว้าง มองชายตรงหน้าเหมือนดั่งต้องมนตร์ตรา มีเวทมนตร์สะกดไม่ให้เธอละสายตาไปไหน ในที่สุด...ในที่สุดท่านก็สงสารลูกช้างลูกม้าอย่างเธอจนได้
ขอปุ๊บ ได้ปั๊บ
บุณณดาฉีกยิ้มหวานราวน้ำตาลทรายแดง ค่อยๆ เดินเข้าไปหาชายหนุ่มที่ก็มองมายังเธอเช่นเดียวกัน หัวใจดวงน้อยเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง อาการดีใจจนเนื้อเต้นมันเป็นยังไงนะ เป็นแบบนี้ใช่ไหม
เนื้อคู่ใช่ไหม เนื้อคู่ที่ตามหามานานแสนนานใช่หรือเปล่า รักแรกพบมันเป็นแบบนี้นี่เอง รักเพียงแค่สบตามันเป็นแบบนี้ใช่ไหม รู้ว่าใช้ตั้งแต่ที่เห็นหน้า หัวใจจ๋าเต้นแรงอะไรขนาดนี้
"กรณ์คะ รอนานไหม นี่ค่ะดอกกุหลาบ"
เพล้ง!!
บุณณดารู้สึกเหมือนผู้หญิงที่เดินเข้ามาเอ่ยกับชายตรงหน้าไม่ได้ถือดอกกุหลาบในมือ แต่เป็นค้อนต่างหากที่ถืออยู่ เพราะทันทีที่ผู้หญิงคนนั้นเข้ามา เสียงกระจกที่ถูกของแข็งทุบเต็มแรงจนแตกกระจายก็ดังสนั่นในหูของเธออย่างชัดเจน
ไม่ใช่เนื้อคู่ เพราะเขามีคู่อยู่แล้ว เศร้า เศร้าได้อีกสินะ อกหักตั้งแต่ยังไม่ได้รัก
"เอ่อ...คุณครับ" เสียงทุ้มดังขึ้นเรียกสติของบุณณดาให้หวนกลับมา มองหน้าชายหนุ่มที่คิดว่าเป็นเนื้อคู่ด้วยความสงสัย พลางคิดในใจว่า...
นี่อย่าบอกนะ ว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่แฟนแต่เป็นเพื่อนหรือน้องสาว และที่เรียกเราคือจะมาขอเบอร์โทรศัพท์ เพราะเขาก็ชอบเธอเหมือนกัน บ้า...บ้าไปแล้ว
คิดแล้วก็ยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เขินอายหน้าแดงระเรื่อ ขานรับออกไปเสียงเล็กเสียงน้อย
"ขา มีอะไรหรือเปล่าคะ"
"ถ้าคุณไหว้เสร็จแล้ว รบกวนขยับออกไปหน่อยได้ไหมครับ ผมกับแฟนจะได้ไหว้ต่อ"
เพล้ง!!
เป็นรอบที่สองในเวลาไล่เลี่ยไม่ถึงห้านาที แตกยับเยินจนไม่สามารถต่อติดได้เลย เหมือนมีรถสิบล้อวิ่งเหยียบหัวใจ
"อ๋อ ค่ะ เชิญค่ะ" รีบเดินหนีออกมา โดยไม่หันหลังกลับไปมองแต่อย่างใด ทั้งเสียหน้า ทั้งเสียใจ ทั้งอายในเวลาเดียวกัน เหมือนตัวเองกำลังอกหักทั้งๆ ที่ยังไม่มีแฟนด้วยซ้ำ
"นี่แม่หนู ช่วยยายซื้อกำไลหน่อยสิ เหลือแค่สองอันสุดท้าย ยายจะได้กลับบ้านสักที นี่ส่งตรงมาจากวัดหลงซานไต้หวันเลยนะ" และนั่นก็ทำให้บุณณดาหยุดชะงักอยู่กับคุณยาย
ใครบ้างไม่รู้ว่าวัดหลงซานที่ว่าโด่งดังเรื่องอะไร ถ้ามีโอกาสเธอก็อยากจะบินไปขอพรสักครั้งเช่นเดียวกัน
"กำไลอะไรเหรอคะยาย"
"กำไลขอพร นี่จ้ะ" ยายหยิบกำไลหินสีชมพูส่งให้บุณณดาดู ซึ่งบุณณดาก็รับมาดูโดยไม่อิดออด
"เขาว่ากันว่านี่คือกำไลขอพรที่สามารถขอพรอะไรก็ได้ ได้หนึ่งข้อ และนี่ถ้าหนูซื้อกำไลจากยายไป ยายให้ถุงเครื่องรางไปด้วย หนูดูนะถุงนี้มีด้ายแดงผูกอยู่ ด้ายถือเป็นสัญลักษณ์ของความรัก คนโสดหากพกถุงนี้ติดตัวไว้จะทำให้เจอเนื้อคู่เร็วขึ้น มีความรักที่ยืนยาว" บุณณดายืนพินิจพิจารณากำไลที่อยู่ในมือไม่วางตา และไม่รู้ว่ามีอะไรดลใจให้เธอสวมเข้าไปในข้อมือของตัวเองเสียอย่างนั้น สุดท้ายหญิงสาวก็ได้กำไลขอพรและถุงเครื่องรางกลับบ้านไป
คล้อยหลังจากบุณณดาไปได้ไม่นาน ผู้ชายคนที่บุณณดาคิดว่าเป็นเนื้อคู่ของตัวเองก็เดินออกมา และยายที่ขายกำไลก็ร้องเรียกไว้เช่นเดียวกัน
"พ่อหนุ่ม สนใจกำไลขอพรไหม นี่เหลือเส้นสุดท้ายแล้วนะ นี่ๆ มีถุงเครื่องรางด้วยนะ สนใจเอาไปฝากอีกคนไหม เขาจะได้เจอรักแท้เสียที"