บทย่อ
เพราะความจำเป็น ทำให้เธอต้องแต่งงานกับคนรักของพี่สาว และเขาต้องทำเพื่อปกป้องคนรัก การแต่งงานที่ไม่ได้เกิดจากความรักจึงเกิดขึ้น*******************ร่างบางก้าวออกจากห้องน้ำ มีเพียงชุดคลุมห่อหุ้มร่างกาย เธอระบายลมหายใจแผ่วเบา เพราะรู้สึกเหนื่อยหนักกับการวิ่งวุ่นทำงานและไปโรงพยาบาลในขณะเดียวกัน เธอเดินมาหยุดยืนหน้ากระจก แล้วมองสำรวจตัวเอง“ไม่เจอกันนานเลยนะพิมพ์ สวยขึ้นหรือเปล่า” เสียงเอ่ยทักดังขึ้นคนถูกทักหันมองดวงตาเบิกกว้าง แข้งขาพาลสั่นไม่ได้ขยับไปไหน คนที่ไม่เคยคิดว่าจะพบดันมาอยู่ในห้อง ทั้งสีหน้าแววตาของเขาดูเปลี่ยนไป ผิวขาวขึ้น ใบหน้าหล่อคมคายกว่าเดิมเสียอีก เขากระตุกยิ้มมุมปากแล้วกวาดตามองอย่างจงใจ“นี่ผมเองนะพิมพ์ สามีของคุณ”คนตัวเล็กได้สติ รีบยกท่อนแขนกอดอกสีหน้าไม่พอใจ“คุณเข้ามาในห้องฉันทำไมคุณธัช!” เธอร้องถามเขาหัวเราะในลำคอ “เดี๋ยวนี้ห้องนี้กลายเป็นของคุณแล้วเหรอ ผมเพิ่งรู้นะเนี่ย แต่ผมจำได้ว่าห้องนี้มันห้องหอของเราไม่ใช่เหรอ” คิ้วหนาเลิ่กขึ้น จงใจยิ้มยั่วพิมพ์จันทร์กัดริมฝีปากหน้าซีดเผือด ทำอย่างไรดี สถานการณ์เช่นนี้ไม่สู้ดีนัก เธอไม่ชอบเลยจริงๆ ทำไมต้องกลับมาในเวลานี้ด้วย อีกอย่างสีหน้าท่าทางของเขาดูเปลี่ยนไป ไม่เหมือนคนเดิมที่เคยเกรงใจเธอ“ช่วยออกไปก่อนได้ไหม ไว้ฉันแต่งตัวเรียบร้อยแล้วจะออกไปคุยด้วย” เธอพยายามต่อรอง“ทำไมผมต้องออกไปล่ะ ผมเป็นสามีคุณไม่ใช่หรือไงพิมพ์”“คุณรู้แก่ใจว่าการแต่งงานระหว่างเรา มันไม่ใช่ความจริง เราสองคนต่างต้องการอิสระ” เธอเลือกพูดความในใจออกมาทว่าอีกฝ่ายกลับเดินเข้าใกล้ จนหญิงสาวผงะถอยหลังจนชิดกำแพง ใบหน้าเรียวคมโน้มหา เธอเมินหนีไปทางอื่น พยายามแทรกกายเอาตัวรอด แต่เขากลับใช้ท่อนแขนดันกำแพงกักขังเธอไว้ด้านใน เธอไม่กล้าแม้แต่เงยหน้ามอง ทำได้แค่เพียงก้มหน้าหลุบตามองพื้นเท่านั้น*******************หญิงสาวกัดริมฝีปากชักสีหน้าไม่พอใจ ตอนแรกทำเป็นไม่สนใจพ่อตัวเอง ทีนี้ดันอยากไปรับขึ้นมาเชียว พิมพ์จันทร์ไม่มีทางเลือกนอกจากหย่อนกายลงเคียงข้างสามีทางนิตินัย รถเคลื่อนออกจากบริเวณบ้าน ระหว่างเส้นทางเขาเหลือบมอง แต่เธอแสร้งดูวิวด้านนอกรถแทน“ไปทำคะแนนเหรอ กลัวพ่อผมไม่ยกสมบัติให้หรือไง” เขาแกล้งเย้าเพื่อทำลายความเงียบเธอหันขวับจ้องมองสีหน้าไม่พอใจ“ทำไมฉันต้องอยากได้สมบัติของท่านด้วย ฉันมีปัญญาหาเอง!”เขายักไหล่ “อ้าว ใครจะรู้ก็ผมเห็นว่าคุณทำงานแทนพ่อ แทนผัว จนได้นั่งตำแหน่งประธานแล้วไม่ใช่เหรอ”“ฉันแค่ทำหน้าที่แทนระหว่างคุณพ่อป่วย ฉันไม่เคยต้องการตำแหน่งประธานเลยสักนิด แล้วอีกอย่างคุณไม่ใช่ผัวฉัน!”“แล้วทะเบียนสมรสที่ลงชื่อคุณด้วย มันไม่ได้บอกว่าผมเป็นผัวหรือไง!”หญิงสาวสะอึกกัดฟันเก็บความฉุนเฉียวเอาไว้ คุณท่านหายเมื่อไหร่ เธอภาวนาให้ตนเองได้รับอิสระเสียที“หยุดพูดจาไม่จริงได้แล้ว คุณหัดอายคนอื่นเขาบ้าง” เธอตำหนิ“อายทำไม คนกันเองทั้งนั้น อีกอย่างพวกเขาก็รู้ตื่นลึกหน้าบ้างระหว่างเราดีอยู่แล้ว” พูดจบ เขายักไหล่ไม่ยี่ระสุรชัยอึกอักแอบกลั้นยิ้มเอาไว้ เหมือนทุกอย่างดีกว่าที่คิด เขาคิดว่าการกลับมาของคุณธัช อาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่ในบ้าน แต่ท่าทีของเจ้านายน้อยไม่ได้รุนแรงขนาดนั้นพิมพ์จันทร์ฮึดฮัด ไม่ต่อปากต่อคำ รู้สึกหงุดหงิด ที่สำคัญคือเถียงเขาไม่ออกเลย วาจาธัชพลช่างเชือดเฉือนสร้างความเจ็บจี๊ดในหัวใจ ธัชพลกระตุกยิ้มมุมปาก เพราะตอนนี้มั่นใจว่าตนเองเหนือกว่าอีกคน****************หญิงสาวเปิดห้องทำงานของพ่อสามีแล้วก้าวเข้าด้านใน โดยมีคนตัวใหญ่ตามมาติดๆ เธอหงุดหงิดจนกระทั่งหันหลังกลับมาเพื่อเผชิญหน้า แต่เขากลับก้าวเข้ามาประชิดร่างบาง เธอชะงักผงะถอยหลังจนแทบล้มดีที่ถูกเขารวบเอวบางเพื่อประคองเอาไว้ มือบางยกขึ้นผลักดันอย่างรวดเร็วด้วยความตกใจ แต่ธัชพลกลับไม่พอใจที่ถูกทำเหมือนตัวเชื้อโรค เลยโอบรัดเอวบางกระชากเข้ามาหาตนเองแล้วยิ้มยียวน“นี่คุณ! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ ไม่รู้หรือไงว่าที่นี่ที่ไหน!” เธอร้องบอก สีหน้าตระหนก“ทำไมผมจะไม่รู้ว่าที่นี่ที่ไหน”“แล้วทำไมคุณถึงทำแบบนี้ล่ะคุณธัช!”“ก็ผมพอใจ”คนฟังกัดฟันแน่น ตั้งแต่กลับมาทำไมเขาถึงได้ทำตัววุ่นวายกับเธอนัก หรือต้องการกลั่นแกล้งกัน“ปล่อยฉันนะคุณธัช คุณทำแบบนี้กับฉันไม่ได้ เราไม่ได้เป็นอะไรกัน!” เธอบอกเสียงแข็ง แล้วพยายามขัดขืนดิ้นรนทว่าคนตัวใหญ่กลับไม่ฟังเสียง กอดรัดร่างบางแน่นขึ้นอีก ยิ่งดิ้นก็เหมือนยิ่งทำให้เขาพยายามเอาชนะ จนกระทั่งคนสวยหอบด้วยความเหนื่อย“พูดอยู่ได้ว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน ทั้งๆ ที่เราสองคนแต่งงานจดทะเบียนสมรสกันเรียบร้อย หรือต้องทำให้มันครบทุกอย่างถึงจะเรียกว่าเป็นอะไรกัน งั้นวันนี้ฉันทำเลยดีไหม!” ธัชพลถามเสียงเข้ม แล้วโอบกอดร่างบางแนบแน่นมากขึ้น“ไม่! ฉันอยากเป็นอิสระจากคุณโดยปราศจากมลทิน!”ธัชพลตาโตจ้องมองคนในอ้อมแขน แล้วหัวเราะในลำคอ“หวังอะไรลมๆ แล้งๆ”อะไรนะ หวังอะไรลมๆ แล้งๆ งั้นเหรอหมายความว่ายังไง ตกลงเขากลับมาทำอะไรกันแน่“คุณธัช คุณอย่าพูดจาแบบนี้ได้ไหม”เขาโน้มใบหน้าเข้าใกล้ หญิงสาวพยายามเบือนหนี“วิธีที่จะห้ามปากผมไม่ให้พูดมีทางเดียว คือห้ามด้วยปากเหมือนกัน ว่าไงคุณจะลองไหม” เขากระตุกยิ้มมุมปาก“ออกไปนะคุณธัช! คุณรังเกียจฉันไม่ใช่หรือไง!”ชายหนุ่มแสร้งตีหน้านิ่ง “ตอนนี้ไม่รังเกียจแล้ว อีกอย่างทำไมผมต้องปฏิเสธภรรยาสาวๆ สวยๆ อย่างคุณด้วยจริงไหม”
ตอนที่ 1
เสียงฝีเท้าดังแว่ว เจ้าของห้องชะงักเหลือบมองตรงประตู ไม่นานนักมันถูกเปิดออก ร่างสูงใหญ่ ดวงตาคม คิ้วเข้ม จมูกโด่ง ผิวกายน้ำผึ้ง ก้าวเข้ามา ท่าทางเครียดขรึม ราวกับว่าการมาในห้องนี้สร้างความอึดอัดให้เขามากมาย เจ้าของห้องลุกจากเก้าอี้บุนวมสีครีม แล้วเดินมาหย่อนกายตรงโซฟา ช้อนสายตามองบุตรชายเพียงคนเดียว
“นั่งก่อนสิธัช” คนเป็นพ่อเอ่ยปาก
ธัชพลทรุดกายลงตรงข้าม แล้วระบายลมหายใจออกมา เขากับพ่อพูดคุยกันน้อย แม้อยู่บ้านเดียวกัน มันเป็นเพราะเหตุการณ์ในอดีต สร้างรอยร้าวให้ความสัมพันธ์
“พ่อมีอะไรครับถึงเรียกผมมา”
สีหน้าคนเป็นพ่อเครียดลง ช้อนสายตามองบุตรชาย
“พ่อต้องการให้แกหมั้นหมายกับหนูพิมพ์จันทร์”
คนฟังชะงักดวงตาเบิกกว้าง สีหน้าไม่พอใจ
“แต่พ่อก็รู้ไม่ใช่เหรอครับ ว่าผมกับพรรณเรศคบหากันอยู่!”
“แล้วยังไง คบกับพรรณเรศแล้วแต่งกับคนอื่นไม่ได้หรือไง”
“แต่คนที่พ่อให้ผมแต่งเป็นน้องของเรศนะครับพ่อ!” เขาบอกเสียงเครียด
ธเนศกระตุกยิ้มมุมปากทอดสายตามองบุตรชาย ผู้หญิงอย่างพรรณเรศหาได้ทั่วไป คิดสวมเขาให้ลูกชายเขาไม่มีทางเสียหรอก เขาไม่มีวันยอมให้ผู้หญิงแบบนั้นมาเป็นสะใภ้เด็ดขาด ต่อให้ชาติตระกูลดีแค่ไหน แต่หากทำตัวส่ำส่อนไร้ยางอาย เขาก็ไม่อาจยอมรับได้
“ฉันอยากจะรู้นักว่า แกจะรักกับผู้หญิงอย่างพรรณเรศไปได้สักกี่น้ำ ถ้าหากแกรู้ความจริงของพรรณเรศได้สักครึ่งที่ฉันรู้”
ชายหนุ่มขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจกับสิ่งที่บิดาเปรยออกมา
“พ่อหมายความว่ายังไง!”
“ฉันพูดขนาดนี้ แกยังไม่เข้าใจอีกเหรอ ความรักมันทำให้แกหน้ามืดตามัว จนมองไม่เห็นความเป็นจริงเลยหรือไง แฟนแกเป็นดาราดัง มีหรือจะไม่มีคนหมายปอง วงการนั้นมีแต่คนหน้าตาดีๆ แกคิดว่าพรรณเรศจะไม่ไขว้เขวเลยหรือไง”
เขาลุกยืนเต็มความสูง มองบิดาแววตาปวดร้าว
“ผมไม่เชื่อสิ่งที่พ่อบอก ถ้าหากไม่มีหลักฐาน ผมไม่มีวันแต่งงานกับพิมพ์จันทร์แน่นอน ขอตัวก่อนครับ” เขาบอกเสียงหนัก แล้วเดินออกจากห้อง
คนเป็นพ่อมองตามแผ่นหลัง คนอย่างธเนศไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ ถ้าหากตกลงปลงใจไม่รับพรรณเรศเป็นสะใภ้มันก็จะเป็นไปตามนั้น