บทที่ 4
ฉันเดินออกมาจากร้านอาหารยกมือไหว้อำลาผู้เป็นป้าทั้งสองคน ก่อนเดินตามคุณชายมาดนิ่งมาที่รถ เขาเปิดประตูรถให้ตามมารยาท ตอนนี้ฉันรู้สึกเหนื่อยอย่างบอกไม่ถูก ผื่นแดงเริ่มจางหายไปแล้วบ้าง บรรยากาศภายในรถเต็มไปด้วยความเงียบ ตอนนี้ฉันอยากหลับสักตื่นเหลือเกิน
“คุณรู้จักทางไปบ้านฉันใช่ไหมคะ หมู่บ้านXX เลยหมู่บ้านคุณไปสองที่กลับรถ” ฉันพูดแค่นั้นก็หลับตาลง
“เป็นอะไร”
“เปล่าค่ะ แค่ง่วงนอน ถึงแล้วปลุกด้วยนะคะ” ฉันพูดโดยไม่ลืมตา ตอนนี้ไม่อยากพูดคุยอะไรกับเขาแม้แต่น้อย ไม่อยากสนใจความหล่อ ทั้งที่ฉันมีโอกาสอยู่กับเขาสองคนแล้วแท้ๆ แต่ก็นะ วันพระไม่ได้มีหนเดียว ไม่รู้ว่าฉันหลับไปนานแค่ไหน รู้ตัวอีกทีก็ถึงหน้าบ้านของตัวเองแล้ว
“ขอบคุณมากนะคะ จุ๊ฟ..” ฉันกล่าวขอบคุณ พร้อมอาศัยความเร็วประทับริมฝีปากลงบนแก้มของเขา “แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะคะ”
“เธอเป็นโรคจิตหรือไง มาทำอะไรกับผู้ชายที่พึ่งเจอกันแบบนี้” เขาโวยวายขึ้น แต่ฉันกลับยิ้มหวานส่งให้เขาแล้วเปิดประตูรถ ปิด ปัง! แล้ววิ่งเข้ามาในบ้าน ตอนนี้!! หัวใจของฉันเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง จนต้องเอามือขึ้นทาบอก
ฉันทำแบบนั้นไปได้ยังไงกันนะ!! พรุ่งนี้จะเอาหน้าที่ไหนไปมองหน้าเขาได้ ถึงจะหล่อมากแค่ไหนแกต้องมีสติยัยคัพเค้ก ฉันตบหน้าตัวเองเบาๆ เพื่อเรียนสติของตัวเอง เป็นครั้งแรกที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ถึงขนาดนี้
“คุณหนูคะ คุณหอมมารออยู่ด้านในนานแล้วค่ะ” สาวใช้เดินเข้ามาบอก ฉันพยักหน้าก่อนจะรีบเดินเข้ามาในบ้าน
“มาไง”
“ขับรถมาสิจ๊ะ เอานี่” น้ำหอมยื่นถุงกระดาษมาตรงหน้า ฉันรับมันมาเปิดออกดู ก่อนจะเห็นกระโปรงพลีทนักศึกษาที่ฝากตัดชายกระโปรง
“ไม่ได้ใส่แล้วอ่ะ” ฉันวางถุงลงบนโต๊ะ ก่อนดึงเพื่อนสาวขึ้นมาบนห้อง
“อะไรของแกมาถึงก็ลากฉันขึ้นห้องเลยนะ” น้ำหอมเดินมานั่งที่เตียงนอน เธอเคยมานอนค้างที่นี่บ่อยครั้ง
“ฉันเจอผู้ชายที่ถูกใจ”
“แล้วไงต่อ”
“วันนี้ฉันรุกเขาเต็มที่เลย แถมหอมแก้มเขาไปทีหนึ่งด้วย” ฉันพูดพร้อมเดินตามน้ำหอมมานั่งที่เตียงนอน
“แกว่าอะไรนะ!!”
“ฉันหอมแก้มเขาไปทีหนึ่ง” ฉันเน้นย้ำอีกครั้ง สีหน้าของน้ำหอมดูตกใจไม่น้อย
“แกบ้าไปแล้วเหรอ แกรู้จักเขามานานหรือยัง แล้วไปชอบเขาตอนไหน ไม่อยากเชื่อคนอย่างแกที่ไม่ชายตามองผู้ชายจะชอบใครเป็นด้วย” น้ำหอมหันหน้ามาถามฉันอย่างสงสัยใคร่รู้ ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร
ฉันเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้กับน้ำหอมฟัง เธอกลอกตาไปมาอย่างเอือมระอา เมื่อรู้ว่าฉันกระทำการใดลงไปแล้วบ้าง
“ผู้หญิงดีๆ ที่ไหน เขาให้ท่าผู้ชายก่อน ถึงแกจะอ่อย ก็อ่อยให้มันมีชั้นเชิงหน่อยเถอะ แล้วอีกอย่างฉันไม่สนับสนุนเพราะเขามีแฟนแล้ว”
“แต่ฉันชอบเขาอ่ะ ทำไงได้” ฉันทำท่างอแงเหมือนเด็กอยากได้ของเล่น ก็ใครใช้ให้เขาหล่อแถมมีอะไรหลายๆ อย่างตรงตามสเปคผู้ชายของฉันกันล่ะ
“เค้ก ฉันขอเตือนแก ถ้าหากเขาเล่นด้วย แล้วจับปลาสองมือ หรือไม่ก็เห็นแกเป็นของเล่น แกจะเสียใจมากแค่ไหนคิดดูสิ เขามีแฟนแล้ว เขาปฏิเสธแกขนาดนั้น ถอยออกมาก่อนที่เรื่องมันจะมีดราม่าซะก่อนเถอะ” น้ำหอมตบมือที่หลังฉันเบาๆ เป็นการปลอบใจ แต่สิ่งที่ฉันอยากได้ยังไงก็ต้องเอามาให้ได้
“ฉันอยากลองดูในระหว่างที่ฝึกงาน เขาจะมีใจให้ฉันไหม อีกอย่างเขายังไม่แต่งงานหรืออยู่ด้วยกัน ฉันมีสิทธิ์ที่จะจีบเขาไม่ใช่หรือไง”
“แกรู้ได้ไง ว่าเขาไม่ได้อยู่ด้วยกัน” น้ำหอมทำหน้างง
“ฉันรู้แล้วกันน่า ไม่ต้องสนใจหรอก ถ้าจะเสียใจฉันก็จะยอมรับมันเอง” ฉันพูดขึ้นมาอย่างหนักแน่น และไม่ยอมถอย กว่าจะหาผู้ชายที่ถูกใจเจอสำหรับฉันมันไม่ง่ายเลยจริงๆ
“แกรู้ไหม การมูฟออนไม่ได้ทำได้ง่ายๆ นะ”
“รู้แล้ว คนอย่างคัพเค้ก คำไหนคำนั้น ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวฉันมูฟออนเอง” ฉันพูดพร้อมยิ้มออกมา ถึงแม้ฉันจะไม่ค่อยมั่นใจเท่าใดนัก ว่าตัวเองจะสามารถทำให้เขาเปลี่ยนใจหันมารักฉัน ขอแค่ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ แค่นั้นมันก็เพียงพอแล้ว
“เขาหน้าคุ้นๆ นะ เป็นคนมีชื่อเสียงหรือเปล่า” น้ำหอมทำท่านึกคิดอยู่ชั่วครู่ “รู้แล้ว เขาเคยไปเปิดงานมอเตอร์โชว์ที่ฉันไปทำงาน ก็ว่าทำไมหน้าคุ้น นี่ไง ใช่เขาใช่ไหม” น้ำหอมเอาหน้าจอโทรศัพท์ของเธอมาให้ฉันดู ภาพถ่ายร่วมในงานมอเตอร์โชว์แห่งหนึ่ง
“ใช่เขาล่ะ แต่ตัวจริงหล่อกว่า” ฉันยื่นโทรศัพท์คือให้กับน้ำหอม ก่อนล้มตัวลงนอน “เหนื่อย วันนี้กินปูมาด้วยล่ะ ตอนนี้ปวดหัวมากเลย” ฉันบ่นออกมาเบาๆ
“แกว่าไงนะ!! แพ้ปูไม่ใช่เหรอ”
“เผลอนะ มองผู้หล่อเพลินเกินเลยไม่ระวังกลืนลงไปก่อน มารู้ตัวอีกทีก็ไม่ทันแล้ว ฮ่ะๆๆ” ฉันหันหน้าไปหัวเราะกับน้ำหอม แต่ดูเธอมีสีหน้าเคร่งเครียดมากทีเดียว
“ไม่ต้องมาทำหน้าแบบนั้นเลย แกรู้ไหม สามารถตายได้เลยนะ ทำเป็นเล่นไป ตายก่อนจะมีผัวฉันจะสมน้ำหน้าแก”
“ฉันไม่ยอมหรอก อย่างน้อยก็ให้ฉันได้เสียสาวกับเขาสักครั้งก่อน” ฉันพูดพร้อมเชิดหน้า ใส่น้ำหวาน เธอส่ายหน้าอย่างเอือมระอา เช่นเคย
“หวงไว้ให้ผัวดีกว่าไหม”
“ก็นี่ไงผัวในอนาคต”
“น้อยๆ หน่อยเถอะ”
“ว่าแต่แกไม่ไปทำงานเหรอวันนี้”
“ไปมาแล้วเลยแวะเอาของมาให้แก แล้วทำไมกระโปรงถึงไม่ได้ใช้แล้ว”
“อย่าให้ต้องเล่าเลย ก็ผัวในอนาคตฉันสั่งไม่ให้ใส่ชุดนักศึกษาไปฝึกงาน ให้แต่งชุดสุภาพ สงสัยฉันต้องได้ไปซื้อเสื้อคอเต่ากับกระโปรงยาวถึงตาตุ่มมาใส่แล้วล่ะ” ฉันพูดประชดขึ้น ทำให้น้ำหอมหัวเราะออกมา ฉันก็ด้วยอดไม่ได้ที่ต้องนึกขำ คิดสภาพตัวเองสวมเสื้อคอเต่าและกระโปรงยาวถึงตาตุ่มมันต้องตลกมากแน่ๆ
“ส่วนฉันได้ที่ฝึกงานแถวบ้าน บริษัทฯ ปากซอยเข้าบ้าน”
“ก็ดีแกจะได้ไม่ต้องขับรถไกล ฉันก็อยากจะชวนแกไปฝึกงานด้วยอยู่หรอก แต่ไกลกับที่บ้านแกตั้งหลายกิโล ฉันก็ว่าจะย้ายไปอยู่คอนโดใกล้ๆ เหมือนกันขี้เกียจตื่นแต่เช้าแหกขี้ตาตื่นไปทำงาน”
“นิสัยกับหน้าตาของแกช่างแตกต่างกันจริงๆ นะ ใบหน้าสวยหวาน ใครจะรู้ว่ามีเบื้องหลังที่สยดสยอง” น้ำหอมเขามือสองข้างขึ้นลูบแขนตัวเอง เหมือนคนกลัวผี
“อย่าค่ะ นี่เพื่อนเอง อย่าพูดเยอะขนาดนั้น รู้ก็เงียบๆ เอาไว้ ว่าแต่แกมีอะไรแนะนำไหม”
“แนะนำอะไร”
“ก็อ่อยผู้ชายไง เร็วเข้า ฉันว่าแกต้องมีประสบการณ์แน่เลย” ฉันกระเถิบเข้าไปใกล้น้ำหอม แต่ก็โดนมะเหงกเข้าที่หน้าผาก
“เพื่อนที่ไหนจะสนับสนุนเพื่อนไปแย่งแฟนคนอื่น ไม่มีทาง!!”
“นะๆ ถือว่าทำเพื่อฉัน นั้นผัวในอนาคตฉันเลยนะ แกอยากให้ฉันขึ้นคานจนแก่ตายเลยเหรอ” ฉันทำเสียงออดอ้อนส่งไปให้น้ำหอม เธอส่ายหน้าเล็กน้อยพร้อมถอนหายใจ
“ฉันไม่อยากช่วยแกแบบนี้เลย บอกตามตรงรู้สึกผิดลึกๆ กินแห้วมาแล้ว อย่ามาพาลใส่ฉันแล้วกัน”
“ไม่แน่นอนเพื่อนรัก” ฉันพูดพร้อมกอดน้ำหอม เรานั่งคุยกันอยู่นานหลายชั่วโมงเธอถึงได้ขอตัวกลับบ้าน ฉันคิดไม่ออกเลยว่าพรุ่งนี้จะต้องทำหน้าแบบไหน ทำตัวยังไงถึงจะเข้าหน้าเขาติด