บท
ตั้งค่า

ตกนรกหรือไร

“หว่านหนิง ยังไม่ทันได้มีสิ่งใดรองท้องเห็นที่ต้องอำลาเพียงแค่นี้”

ตัดบทเอาเสียดื้อๆไม่จำเป็นต้องเสวนาให้มากความในเมื่อคนผู้นี้ไม่ได้มีผลต่อการใช้ชีวิตในตำหนักร้อบดาวของหว่านหนิง

“เดี๋ยว”

มือใหญ่ฉุดมือบางไว้ หว่านหนิงเหลือบตามองมือใหญ่ ค่อยๆแกะมันออกไป ขันทีข้างกายไท่จือกลืนน้ำลายลงคอช้าๆ เกรงว่าไท่จือจะทำสิ่งใดโดยพลการจนทำให้เกิดเรื่องราววุ่นวาย ตามมาทีหลัง

“ไท่จือ หว่านหนิงเพิ่งแต่งเข้าตำหนักร้อยดาว ไท่จือมีอะไรเชิญพูดตรงๆ ”เหลือบตามองมือใหญ่ที่จับอยู่ที่ข้อแขน

“ข้า..กำลังต้องการใครสักคน มาเดินชมสวนเป็นเพื่อนในเช้านี้”สายตาจงใจสื่อความหมายบางอย่าง

“เกรงว่าจะไม่เหมาะนักห้องหับในตำหนักร้อยดาวรกเรื้อ หว่านหนิงเห็นทีต้อง ทำความสะอาดเสียยกใหญ่เช่นนั้นคงไม่อาจซุกตัว”

พูดความจริงเพื่อหลบหลีก เหมือนจะบอกเป็นนัยๆว่าไม่ได้สนใจไท่จือมากไปกว่าการทำความสะอาดตำหนักร้อยดาวหรืออีกความหมายก็คือการทำงานหนักสำคัญกว่าตำแหน่งของเล่นของไท่จือหว่านหนิงพร้อมที่จะทนทุกข์ดีกว่าต้องไปเดินเล่นกับไท่จือ

“ลี่หยาง...พี่ห้า ยึดครองตำหนักร้อยดาวมาแต่ต้นและไม่ยอมให้ใครเข้าออก”หว่านหนิงขมวดคิ้วจะเชื่อดีไหม

“เช่นนั้นไท่จือโปรด ให้หว่านหนิงไปเถิดตั้งแต่เช้ายังไม่ได้กินอะไร”

เอาน้ำเย็นเข้าลูบ ทำให้ไท่จือยังไม่ละความพยายาม

“ตำหนักร้อยดาวไม่มีคนเสวย ลี่หยางก็ถูกสั่งให้ออกมาเสวยข้างนอก หากเจ้าไม่ถือสาตำหนักบูรพาของข้า ยกเครื่องเสวยหลายเวลาครบครันคาวหวาน”

หว่านหนิงยิ้มประสานมือย่อตัวลงช้าๆยิ้มเยือกเย็น

“หว่านหนิงทูลลา”ลี่กวงมองตามสุดสายตา ใบหน้างดงามยังติดตรึงใจ

“ทำไมข้าไม่เจอนางก่อนที่เสด็จพ่อจะประทานนางให้เขา”

พึมพำเบาๆด้วย นิสัยส่วนตัวของลี่กวงเป็นที่รู้ดีในวังหลวง

หว่านหนิงมาถึงห้องเครื่องที่กำลังโกลาหลในการจัดเครื่องเสวยในเวลากลางวัน โชคดีอาจได้ของกินให้พอได้อิ่มท้องเช่นนั้นหรือนึกถึงคำพูดประโยคสุดท้ายของลี่หยาง ในเมื่อเป็นชายาขององค์ชายเช่นไรจึงต้องลำบากถึงเพียงนี้

“นายหญิง เสี่ยวไถอาสาไปเตรียมอาหารให้”น้ำเสียงจริงใจ

“ที่เขาเตรียมไว้เล่า”

หว่านหนิงถามกลับในเมื่อเห็นว่ามีหลายคนช่วยกันจัดเตรียมเครื่องเสวยคาวหวานมากมายไว้สำหรับเครื่องเสวยตอนกลางวัน

“อาหารพวกนั้นสำหรับตำหนักต่างๆ ไม่มีของตำหนักร้อยดาว”

หว่างหนิงถอนใจยาวเอาเข้าจริงลำบากกว่าที่คิดเสียอีก

“ไม่เป็นไร ข้าหาเองได้”

เดินเข้าไปข้างในสายตานับสิบคู่ไม่ได้เป็นมิตรอย่างที่อยากให้เป็น แต่หว่านหนิงรู้แล้วว่าอาจเจออะไรที่แย่กว่านี้ ในเมื่อลี่หยางโดดเดี่ยว หว่านหนิงก็คงไม่ต่างกัน

หยิบผักและหมูมาลงมือหั่น เตรียมสำหรับผัดไม่จำเป็นต้องให้ใครทำหว่านหนิงใช้ชีวิตแบบนี้งานบ้านงานเรือนไม่เคยบกพร่อง อิงไถกับกุ้ยอิงมองอย่างชื่นชมในความเรียบง่ายของหว่านหนิง

ใช้เวลาทำอาหารเพียงครู่เดียวก็ได้ผัดผักหอมกรุ่น คิดขึ้นได้ว่าองค์ชายห้าจะเสวยที่ไหน เวลานี้ก็ใกล้ได้เวลาเสวยกลางวันแล้ว อิงไถยกถาดมาวาง หว่านหนิงตักผัดผักฝีมือของตัวเองลงบนถาด ตักข้าวใส่ถ้วยจนพูนพยักหน้าให้อิงไถ

“ยกไปให้องค์ชายห้าแล้วค่อยกลับมาที่ตำหนักร้อยดาว”ทอดเสียงอ่อนโยนไม่ได้ออกคำสั่งอย่างที่อิงไถคิดไว้

อิงไถยิ้ม นับว่ามีมิตรไมตรีไม่น้อยสาวใช้นิสัยใช้ได้สองคน เหมือนกับถูกคัดสรรมาให้หว่านหนิงโดยเฉพาะนับว่าสวรรค์มีตา กุ้ยอิงถือถาดผัดผักกับข้าวสามจานตามหว่านหนิงไปที่ตำหนักร้อยดาว

อิงไถยกถาดอาหารยืนรอหน้าตำหนักใหญ่ของฮ่องเต้ กลิ่นผัดผักร้อนๆหอมน่ากิน ลี่หยางเหลือบตามองอิงไถ

“องค์ชาย พระชายาให้นำมาให้ท่าน”

ใบหน้าเฉยชาไร้ความรู้สึกแต่ก็ยอมรับเอามาถือไว้โดยดี ฮ่องเต้เดินมายืนเอามือไพล่หลังมอง ลี่หยางนั่งลงกินเครื่องเสวยฝีมือหว่านหนิง

“ลูกคนนี้ จะรักก็ไม่ได้จะเกลียดก็ไม่อาจทำ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel