บท
ตั้งค่า

บทที่ 6

บรรยากาศที่เริ่มปกคลุมไปด้วยก้อนเมฆอันหนาแน่น กลิ่นคาวเลือดที่คละคลุ้งของเหล่ายอดยุทธ์ด้านล่างกลับมากขึ้นและมากขึ้น เป่าฮู่จึงไม่อยากพลาดโอกาสที่ดี ในการดื่มด่ำสุราเลิศรสในเมืองซื่อหู่

ตัวของเป่าฮู่เองจึงเดินย่ำลงจากยอดเขาด้วยความมาดมั่่น ท่ามกลางสายตานับ 20 คู่ ที่กำลังต่อสู้กันอยู่ แต่แล้วจู่ๆก็มีคนพบเจอเด็กหนุ่ม ก่อนที่จะกล่าวบางสิ่งออกมา จนเป็นตัวหยุดการต่อสู้ด้านล่าง

“มีคนลงมาจากยอดเขา!”

ภาพของเหล่าศิษย์จากสำนักเจ้าเมืองทั้งหลายต่างหันมา พร้อมกองโจรที่มาดักปล้นทุกคนหันมา

พร้อมกระชับอาวุธและพุ่งตรงขึ้นมาทางเป่าฮู่ ด้วยหวังจะชิงเอาผลึกอสูรจากตัวชายหนุ่มนั่นเอง

“เจ้าหนุ่ม! ผลึกอสูรที่เจ้าได้มาจากด้านบนภูเขามาซะ ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าบิดาไร้น้ำใจ รังแก่เด็กน้อยเช่นเจ้า”

เพียงคำกล่าวที่แว่วผ่านตามสายลม กลับปรากฏวัตถุบางอย่างพุ่งทะลุกะโหลกของชายผู้นั้นไปทันที.......((((โพล๊ะ!)))) เลือดที่ฟุ้งกระจายออกไปทางด้านหลัง ก่อนที่เลือดเหล่านั้นจะเกาะตัวเป็นน้ำแข็งจนหมดสิ้น

“เข็มน้ำแข็ง นั่นมันวิชายุทธ์ของ สำนักเจ้าเมืองซื่อหม่า?”

เหล่าศิษย์น้อยใหญ่ที่ได้เห็นวิชาดัชนีน้ำแข็ง ที่สำนักเจ้าเมืองได้มาเป็นส่วนแบ่งเมื่อ 100 ปีก่อน หลังจากที่ได้ช่วยเหลือแดนศักดิ์ในการสืบเสาะหาข่าวของนิกายเสวียนอู่จนนำมาซึ่งความพินาศย่อยยับ

เป่าหู่ชายที่อยู่ภายใต้ผ้าคลุมหน้าสีดำได้ฟังดังนั้น และสามารถรับรู้ถึงหนึ่งในวิชาของนิกายที่ต้องตามกลับคืนมา ที่แท้ก็อยู่ในสำนักเจ้าเมืองซื่อหม่านี่เอง

“ฮ่าๆๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆ ดี ดี วันนี้ข้าต้องขอบใจพวกเจ้า ที่ทำให้ข้าหูตาสว่างขึ้นมาบ้าง ศิษย์สำนักซื่อหม่า ดี ดี เอาหละในเมื่อพวกเจ้าช่วยข้าตามหาสิ่งที่ข้าต้องการจนเจอ ข้าจะละเว้นชีวิตน้อยๆของพวกเจ้า ไสหัวไปซะ ไอ้พวกสุนัขชั้นต่ำ”

คำกล่าวนั้นดังทั่วผืนฟ้า แต่กลับไม่มีใครที่ก้าวเท้าหันกลับไปแม้แต่คนเดียว ด้วยสัมผัสที่ได้รับจากแรงกดดันของบุรุษหนุ่มลึกลับตรงหน้า เพียง ยอดยุทธ์ระดับ ปราชญ์ลมปราณเท่านั้น

“ฮ่าๆๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆ สงสัยเจ้าหนุ่มคนนี้จะสติเลอะเลือนเพียงนี้ แค่สังหารโจรป่าชั้นปลายแถวไปคนเดียว กล้าขู่ให้เราสำนักเจ้าเมืองซือหู่และซื่อลู่ ยกคนกลับลงไปจากเขา ใครได้ฟังคงไม่เอาเราไปพูดกันจนสนุกปากหรอกหรือ พวกเราไม่ต้องพูดให้มากความ ชนะเป็นนายแพ้เป็นบ่าว จัดการสั่งสอนเจ้าคนโอหังนี่ซะ”

เมื่อเป่าฮู่ได้เห็นสิ่งที่ตนหยิบยื่นออกไป แต่กลับไม่มีใครที่คิดฉกฉวยเอามันเข้ามาไว้ในหัวอกหัวใจเลย ทำให้ตัวเป่าฮู่คิดทดลองเคล็ดวิชาลมปราณของตนเองอยู่พอดี

เพียงเท่านั้น เป่าฮู่ก็ปลดปล่อยวงแหวนที่สองออกมา ด้านหลังปรากฏวงแหวนสีแดงที่มีกระบี่เล่มหนึ่งยื่น ออกมา เป่าฮู่รับเอากระบี่เล่มนั้นและดึงเอากระบี่ที่จ้าวนิกายลู่กวนมอบให้ออกมากวัดแกว่งเป็นครั้งแรก

“อาจารย์! ข้าเป่าฮู่ขออนุญาตต่อดวงวิญญาณของท่าน เพลงกระบี่วารีไหลย้อน กระบวนท่าที่หนึ่ง วารีสะบั้นเหยื่อ วันนี้มือต้องเปื้อนเลือดเสียแล้ว”

เพียงคมกระบี่ที่ปลดปล่อยไอเย็นที่น่ากลัวออกมา ทุกคมกระบี่ที่ตัดผ่านร่างของกลุ่มกองโจรที่ดาหน้าเข้ามา ทุกบาดแผลถูกปกคลุมไปด้วยไอเย็นจนเลือดเกราะตัวเป็นน้ำแข็ง

เพียงเป่าฮู่เก็บกระบี่เข้าฝัก ((((แกร๊ก!)))) เลือดมากมายที่พรั่งพรูออกจากร่างของโจรกว่า 10 คน จนกลายเป็นบ่อน้ำพรุเลือดกลางภูเขา เลือดที่อาบทั่วเนินเขา กลิ่นคาวเลือดที่คลุ้งเต็มพื้นที่โดยรอบไปหมด ทำให้เท้าที่ก้าวมาด้านหน้าของเหล่าศิษย์สำนักเจ้าเมืองทั้งหลายต้องหยุดชะงัก

“เป็นไปไม่ได้ ความเร็วระดับนี้ ระดับราชาลมปราณ ด้วยอายุเพียงเท่านี้ เป็นไปไม่ได้ ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ยังนับว่าหายาก อายุไม่ถึง 20 ปีก้าวสูระดับราชาลมปราณนี่มันอัจฉริยะแล้ว”

หนึ่งในอาวุโสที่ติดตามนายน้อยของตระกูลลู่มา นามลู่หวัง ได้เห็นจากประสบการณ์ของตัวชายชรา ตัวมันรีบก้าวออกมาหยุดกลุ่มเดินทางของสำนักเจ้าเมืองลู่เอาไว้

“ช้าก่อน! ท่านจอมยุทธน้อย โปรดระงับโทสะ ด้วยความโง่เขลาของเรา และความไม่รู้ของกลุ่มนายน้อยทั้งหลายเหล่านี้ เห็นแก่ชายชราอย่างข้า ละเว้นพวกเขา แล้วพวกเราสำนักเจ้าเมืองซื่อลู่จะยอมหลีกทางให้ท่านลงเขาตามที่ท่านต้องการ”

เพียงเป่าฮู่ได้กระทำการเชือดไก่ให้ลิงดูเพียงนี้ก็ทำให้ทุกอย่างจบลงได้โดยง่าย

“ฮ่าๆๆๆ นับว่าตาเฒ่าชราอย่างท่านยังพอมีสมองอยู่บ้าง เอาหละจงจำไว้ให้ดี หากวันหลังข้าพบพวกเจ้าขวางทางข้าอีก วันนั้นกระบี่ข้าไม่ไหว้หน้าใครอีกเป็นครั้งที่สองแน่”

((((กร๊อด!)))) เสียงหมัดที่กำไว้จนเลือดที่ไหลซึมออกมาตามลอยเล็บของชายชราลู่หวัง โดยใบหน้ายังคงก้มหัวให้ชายหนุ่มแปลกหน้าคนนี้ ทั้งที่ตัวมันเองก็อยู่ในระดับปราชญ์ขั้นปลาย แต่ว่า ระดับราชาที่ทัดเทียมเจ้าเมืองคนหนึ่ง กลับไม่ปรากฏชื่อในยุทธภพ โลกที่ชายชรารู้คงแคบเกินไป หลังจากที่เป่าฮู่จากไป

“ท่านลุง! ทำไมท่านจึงลดเกียรติของตนเองก้มหัวให้แก่มันผู้นั้น?”

เสียงของหลานชายที่เป็นบุตรคนเล็กของเจ้าเมืองลู่ ถามออกมา ลู่หวังชายชราก็หันไปมองเบื้องหลังเงาที่เลือนรางนั้นอีกครั้ง

“รวดเร็ว เด็ดขาด อำมหิต จิตสังหารที่คมกริบนั้น ผ่านการขัดเกลามาอย่างหนักเป็นแน่แท้ ระดับราชาลมปราณ วงแหวนสีม่วง จิตวิญญาณของอสูร 700 ปี เป็นอย่างต่ำ น่ากลัว น่ากลัว”

คำกล่าวนี่ทำให้ทุกคนได้แต่ถอนหายใจ เพราะหลังจากเก็บกวาดสนามรบ และส่งคนไปสำรวจที่ยอดเขา ก็ไม่พบเสือดาวเวหาจริงๆ ดังนั้นจึงเหลือเพียงสถานที่เดียวนั้นก็คือ ป่าเสือเขี้ยวดาบเท่านั้น

หลังจากเหตุการณ์ที่กล่าวขานในกลุ่มศิษย์สำนักเจ้าเมืองทั้งหลายจนสนุกปาก ถึงยอดยุทธ์ระดับราชาลมปราณ เจ้าของวงแหนสีม่วงที่น่าเกรงขาม ออกอาละวาดที่ป่าหลังเมืองหู่ จนเจ้าเมืองหู่ก็ได้รอดูว่าใครจะเป็นคนนำผลึกก้อนนั้นมาแลกกับของรางวัลที่เป็นโอสถทะลวงใจ ระดับ 8 เม็ดนี้ และตำรายุทธ์ระดับราชาอีก 1 เล่ม

(ณ โรงเตี๊ยม ม่านหลัว เมืองซื่อหู่)

เพียงข่าวที่เล่ากันจนสนุกปากว่าเจ้าเมืองรอชื่นชมผลงานของยอดฝีมือระดับราชาลมปราณท่านนั้นอยู่ โดยของรางวัลที่เตรียมไว้จะตกเป็นของใครระหว่าง ศิษย์เอกสำนักเจ้าเมืองลู่ หรือ ยอดยุทธ์ปริศนาคนนั้น เสือเขี้ยวดาบ อายุ 400 ปี กับเสือดาวเวหา อายุ 450 ปี ใครจะชนะ

(แย่หละสิลืมคิดถึงจุดนี้ ยังไงเสียข้าก็เป็นคนฆ่า และจะนำของรางวัลไปขึ้นรับรางวัลก็ไม่ได้แล้วสิคราวนี้ และเมื่อเป็นเช่นนั้นข้าจะทำเช่นไรดี)

เมื่อเสี่ยวเอ้อเดินผ่านมา เป็นโอกาสที่ดีที่เป่าฮู่จะสอบถามบางอย่าง

“น้องชาย น้องชาย”

การเรียกหาเสี่ยวเอ้อ ให้มาพบ เป่าหู่เสียผลึกลมปราณระดับต่ำไป 1 เม็ด เพื่อหาข้อมูลที่ต้องการ และในที่สุดก็ได้ทราบมาว่า ที่หอประมูลของเมืองหู่ อันเป็นสาขาหนึ่งของหอประมูลศักดิ์สิทธิ์ของราชสำนัก อันมีความยิ่งใหญ่และรักษาความลับของลูกค้าเป็นอย่างดี ดังนั้นหัวเมืองน้อยใหญ่หากมีสิ่งใดต้องการความแน่ชัดจะรีบเข้าไปที่หอประมูลศักดิ์สิทธิ์ทันที

เพียงเท่านั้นตลอดการเดินผ่านเหล่าผู้คนที่เดินไหล่ชนไหล่ บนถนนสายหลัก เป่าฮู่นึกถึงสมัยที่ตนเดินทางมาเป็นศิษย์นิกายเสวียนอู่ใหม่ๆ ภาพที่เดินไปรับอาหารฟรีในตอนนั้นย้ำเตือนจิตใจทำให้ชายหนุ่มเดินย่ำสืบเท้ามาจนถึงหน้าหอประมูลขนาดใหญ่

“ที่นี่หรือ หอประมูลศักดิ์สิทธิ์”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel