บท
ตั้งค่า

บทที่ 5 เพียงสบตา

บทที่ 5 เพียงสบตา

ฉู่ลี่หยางเดินเข้ามาในเรือนก็เห็นองค์หญิงของตนยิ้มหวานเยิ้มทำให้นางเองใจคอไม่ดีเท่าไหร่ นางกลัวว่าวันหนึ่งซินหนี่ว์จะตกหลุมรักชายผู้นี้มนุษย์กับนางนั้นช่างแตกต่างกลัวว่าหากวันหนึ่งทั้งสองรักกันขึ้นมาจริง องค์หญิงของนางจะทนดูคนที่นางรักต้องมาตายในอ้อมกอดไม่ได้ ใจของนางคงจะแตกสลายยิ่งนัก

“เจ้ากลับมาแล้วหรือ วันนี้เจ้าทำดีมาก” ซินหนี่ว์ได้ยินเสียงฝีเท้าและประตูที่เปิดเข้ามาก็ได้หันไปมองก็พบฉู่ลี่หยางเดินเข้ามา

“โชคดีที่ในเรือนแห่งนี้มีสัตว์น้อยใหญ่อยู่บ้าง มิเช่นนั้นข้าคงหาท่านหมอแปลงกายมาให้ท่านมิได้หรอกเจ้าค่ะ”

“แต่เจ้าก็ทำได้นี่น่า มานั่งนี่สิเหตุใดถึงมีสีหน้าเช่นนี้เล่า” ซินหนี่ว์เดินไปจับแขนของฉู่ลี่หยางมานั่งที่เก้าอี้

“องค์หญิงข้าคิดว่าท่านทำเช่นนี้มันไม่มากเกินไปหรือ มาแทรกแทรงชะตากรรมของมนุษย์ผู้นี้แถมยังเข้ามาอยู่ในช่วงชีวิตของเขาอีก ท่านจะไม่ทำให้ชะตากรรมของเขาเปลี่ยนแปลงหรือ”

“เจ้าไม่ต้องห่วง ข้าแค่อยากรู้จักเพียงเท่านั้น

ไม่คิดจะทำแทรกแซงชะตากรรมคนผู้นี้หรอกนะเจ้าวางใจ อีกสามวันของมนุษย์เราจะกลับแดนปีศาจกัน” เมื่อฉู่ลี่หยางได้ยินก็ดีใจตาเป็นประกาย

“ท่านพูดเองนะเจ้าคะ ห้ามเปลี่ยนคำพูดเด็ดขาด”

“นี่เจ้าก็รู้ว่าข้าเป็นคนที่พูดคำไหนคำนั้น”

“ได้เจ้าค่ะ ข้าจะรออีกสามวันหากท่านไม่กลับข้าจะไม่รอท่านจะหนีกลับและไปแจ้งจอมมารมาจับตัวท่านกลับแดนปีศาจเลยเจ้าค่ะ” นางหน้ามุ่ยพร้อมกอดอกหากองค์หญิงไม่ทำอย่างที่พูดจริงๆ

“ว่าแต่เจ้าว่าเฟยอวี่เป็นชายที่ดีหรือไม่ ดูสิขนาดไม่รู้จักข้าเขายังมีน้ำใจช่วยเหลือข้า แม้ในตอนที่เจ้าไม่อยู่ในห้องเขายังไม่ล่วงเกินข้าแม้แต่น้อย ข้านับว่าเขาเป็นบุรุษที่ดีผู้หนึ่ง” ซินหนี่ว์พูดและมองไปด้านห้าแววตาเต็มไปด้วยความเปี่ยมในความเป็นบุรุษของเขา

“อย่าว่าแต่เฟยอวี่เลยเจ้าค่ะ หากข้าเป็นบุรุษก็มิอาจทำอันใดท่านหรอกนะเจ้าคะ ดูใบหน้าของท่านในเวลานี่สิเจ้าคะ” ฉู่ลี่หยางเสกกระจกมาให้ซินหนี่ว์ได้มองใบหน้าของตนเองในเวลานี้ เมื่อนางเห็นก็ต้องตกใจก็สภาพที่ไม่เป็นน่ามองเช่นนี้ เผ้าผมรุงรังใบหน้าซีดเผือกราวกับคนตาย

“อ๊ายยย!! ในกระจกมีผีฉู่ลี่หยางช่วยข้าด้วย” ซินหนี่ว์รีบดึงผ้าห่มมาปิดหน้าของตนเอง

“ใจเย็นๆ เจ้าค่ะ นี่มิใช่ผีหรือปีศาจร้ายตนใดแต่เป็นท่านเองต่างหาก” นางได้บอกซินหนี่ว์พร้อมถอนหายใจ

“แฮะ ๆ นี่ข้าเองหรอกรึ” ซินหนี่ว์หัวเราะออกมาอย่างเขินอาย

“ท่านเองก็นอนเป็นคนป่วยอยู่บนเตียงเถิด อีกประเดี๋ยวข้าว่าชายคนนั้นต้องนำยาต้มมาให้ท่านแน่นอน ส่วนข้าก็ขอไปออกกำลังกายเสียหน่อย” พูดจบฉู่ลี่หยางก็กลับร่างเดิมบินออกไปทางหน้าต่างปล่อยให้ซินหนี่ว์อยู่เพียงลำพัง เมื่อนางอยู่เพียงลำพังก็หยิบกระจกขึ้นมามองดูตนเองอีกครั้ง

“ใบหน้าของข้าไม่น่ามองสักนิด แล้วเช่นนี้ข้าจะทำให้เฟยอวี่เปิดใจให้ข้าได้อย่างไร” พูดจบนางก็ได้จัดการให้ใบหน้าของตนเองกลับมาเช่นเคยเพียงแค่มีใบหน้าซีดเล็กน้อย

“ดูดีขึ้นมาหน่อย เฮ้อ! ข้าตกหลุมรักมนุษย์ได้อย่างไรกันนะ เวลาที่อยู่ใกล้เขาคราใดหัวใจของข้าก็เต้นแรงไม่หยุดเสียที เช่นนี้ข้าก็อยากอยู่ที่นี่ตลอดไปนะสิ ไม่รู้ล่ะหากข้าบอกความรู้สึกไปแล้วถูกปฏิเสธข้าก็จะกลับไปแดนปีศาจของข้าและหักห้ามใจตัวเอง” นางพูดจาอยู่กับกระจกไม่นานก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของคนที่กำลังจะเดินมาหานางที่ห้อง นางรีบนอนลงและห่มผ้าแสร้งแกล้งนอนหลับ

ด้านเฟยอวี่เขาเองก็กลับมาต้มยาให้ซินหนี่ว์เมื่อตั้งยาไว้แล้วเขาก็ได้ครุ่นคิดการที่มีสตรีมาอยู่ในเรือนเช่นนี้เป็นอะไรที่เขาไม่เคยพบเคยเจอตั้งแต่ภรรยาได้เสียชีวิตไปเขาไม่เคยได้ใกล้ชิดสตรีใดอีกเลย แถมสตรีผู้นี้ก็เป็นสตรีที่แปลกมากๆ แต่เหตุใดเขาถึงไม่ขับไล่นางไปแถมยังรู้สึกแปลกๆ กับนางอีกด้วย

“นี่เจ้าคิดอันใดของเจ้ากัน นางเป็นบุตรสาวตระกูลใดก็มิอาจรู้ได้ ไม่รู้ว่าตอนนี้ตระกูลของนางจะตามหานางหรือไม่ ข้าต้องนำยาไปให้นางดื่มจะได้รีบกลับเรือนของตน ข้าจะได้เงียบหูและไม่มีเรื่องอันใดกวนใจอีก” เขาเอ่ยออกมาพร้อมนำยาต้มรินใส่ชามและยกไปให้ซินหนี่ว์ได้ดื่มมัน เขากำลังจะเดินอออกไปก็นึกได้ว่านางยังไม่ได้กินอาหารแม้แต่น้อย เขาจึงนำข้าวสารมาต้มใส่น้ำจนเมล็ดข้าวนั้นเละไม่เป็นตัวเมื่อได้ตามที่เขาต้องการเขาก็ได้ตักใส่ถ้วยและเปลี่ยนยาต้มเพราะตอนนี้ยาที่เขาใส่ชามไว้นั้นเย็นชืดหมดแล้ว

ก๊อกๆ” ” เขาเคาะประตูเพื่อให้ฉู่ลี่หยางเปิดให้แต่ทว่าบัดนี้ด้านในห้องช่างเงียบไร้เสียงตอบกลับ เขาจึงตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปก็ไม่พบฉู่ลี่หยาง เขากวาดตามองรอบห้องก็พบว่ามีเพียงซินหนี่ว์นี่นอนอยู่บนเตียงเท่านั้น เขาวางสำรับไว้บนโต๊ะก่อนจะเดินไปเรียกนางที่นอนอยู่ให้ลุกมากินอาหาร

“นี่แม่นางท่านตื่นเถิดตอนนี้ข้าได้นำอาหารและยาต้มมาให้ เจ้ารีบลุกมากินเสียจะได้หายในเร็ววัน” เขาเดินไปหานางที่เตียงก็ได้จ้องมองที่ใบหน้าของนาง ทำให้เขาหวนคิดถึงภรรยาของเขา นางช่างงดงามไร้ที่ติหัวใจของเขาเริ่มสั่นไหว เต้นแรงขึ้นจนเขาต้องหันหน้าหนีนางทันที

"อื้อ นี่ข้าคงนอนหลับไป ไม่รู้เลยว่าท่านเข้ามาตอนไหน " ซินหนี่ว์นางลืมตาลุกขึ้นนั่ง

"ข้านำอาหารกับตาต้มมาให้เจ้ารีบกินเถิด" เขาชี้ไปที่โต๊ะ

"ตอนนี้สหายของข้าไม่อยู่ออกไปด้านนอกเรี่ยวแรงของข้าก็ไม่ค่อยจะมี หากท่านไม่ว่าอันใดช่วยยกมาให้ข้าที่เตียงได้หรือไม่"

"แค่เท่านั้นใช่หรือไม่"

"ใช่ แค่ท่านยกสำรับมาให้ข้า ก็เพียงพอแล้ว"

เขาได้ยกสำรับมาให้นางที่เตียงแต่ทว่าซินหนี่ว์ก็แกล้งทำเป็นไม่มีเรี่ยวแรงเมื่อจับช้อนจะตักอาหารเข้าปากก็ได้ทำช้อนร่วงทำให้เตียงนอนของนางเลอะนิดหน่อย ทำให้เขาหงุดหงิดใจเป็นอย่างมาก

"นี่เจ้าไม่มีเรี่ยวแรงแม้กระทั่งตักอาหารเข้าปากเลยหรือ หากไม่มีแรงเช่่นนี้เหตุใดไม่บอกข้า" เขาหยิบช้อนขึ้นมาปัดๆ พร้อมนั่งลงบนเตียงกับนางพร้อมตักอาหารป้อนซินหนี่ว์ นางมองเขาและอมยิ้มอย่างพอใจ ที่นางแสร้งทำเช่นนี้เพราะอยากรูเขาจะช่วยเหลือนางหรือไม่้ใจบุรุษผู้นี้

"อ้าปาก นี่เจ้าจะจ้องข้าอีกนานหรือไม่"

"ข้าแค่สงสัย ท่านเองก็เป็นคนปกติ เหตุใดต้องแกล้งทำเป็นชายสติไม่ดีด้วยเล่า แถมยังยอมให้ชาวบ้านรังแกท่านอีก "

"เรื่องของข้า ส่วนเจ้าก็รีบกินเถิด ข้ามีงานที่ต้องทำอีกมากมาย"

ซินหนี่ว์รีบกินอาหารพร้อมมองใบหน้าของเขาไม่วางตาจนคนที่โดนจ้องรู้สึกได้ ว่านางนั้นจ้องเขามากเกินไปดวงตากลมโตแวววาวเป็นประกาย ดวงตาที่เขียวมรกตน่าค้นหาทำให้เขาเองก็ตราตรึงใจจนเขาเองเริ่มใจสั่น

“นี่ๆ ท่านรีบกินเถิดข้าลืมไปว่าต้มยาเอาไว้เกรงว่าน้ำจะแห้งท่านอิ่มหรือยัง” ซินหนี่ว์นางก็หยุดกินและพยักหน้าให้

“ข้าอิ่มแล้ว “

“เช่นนั้นข้าจะเก็บชามไปแล้วไปดูหม้อต้มยาเสียก่อน ท่านเองก็อย่าลืมดื่มยาที่ข้าต้มมาให้ล่ะ” เขารีบเก็บของออกไปด้านนอกอย่างเร็ว

เมื่อเขาเดินออกไปซินหนี่ว์เองก็มองตามหลังจนไม่เห็นเงาของเฟยอวี่ นางก็ลุกขึ้นยืนยืดเส้นยืดสายเพราะความเหนื่อยที่นอนอยู่แต่บนที่นอน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel