บท
ตั้งค่า

ตอนที่4 ท่านเป็นใคร

หลังจากที่ม่านนีใช้เวลานั่งร่ำสุราอยู่กับหลุมศพของมารดาจนพอใจ

นางจึงเดินทางกลับออกมาจากหน้าผาสูงชันแห่งนั้นอย่างใจเย็น นางใช้เวลาเดินทางจากวังหลวงมายังป่าใหญ่แห่งนี้หลายวัน ซึ่งมันก็นานพอที่นางจะต้องรีบกลับเข้าวังหลวงก่อนที่จะมีใครสังเกตได้ว่ามีนางกำนัลชั้นต่ำตัวเล็กๆ ไม่โดดเด่นอันใดได้หายตัวไป

ภายใต้ผืนป่าพนาไพรอันอุดมสมบูรณ์มีลำธารสายน้อยไหลเอื่อยเฉื่อยสะท้อนแสงแดดเป็นประกายระยิบระยับวิบวับงดงาม ม่านนีมองตามแสงทอประกายสวยงามนั่นอย่างอารมณ์ดีก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ตรงริมลำธารสายนี้อย่างไม่อาจห้ามใจ

หญิงสาวนั่งลงแล้วเอื้อมฝ่ามือเรียวเล็กลงไปในน้ำ ก่อนจะก้มหน้าลงแล้วล้างหน้าล้างตาอย่างต้องการควานหาความสดชื่นจากมันเข้าใส่ใบหน้างามของตัวเอง

หยดน้ำใสๆ พลันเกาะพร่างพราวอยู่จนเต็มใบหน้างามและไรผมจนเกิดการสะท้อนแสงระยิบระยับบนใบหน้าขาวนวลเนียนละเอียดลออให้สะท้อนกับแสงของพระอาทิตย์ที่กำลังส่องกระทบกับสายน้ำ ภาพของม่านนียามนี้ไม่ต่างอันใดกับนางสวรรค์ลงมาเล่นน้ำอยู่ตรงริมลำธารเลยทีเดียว

ในขณะที่ม่านนีกำลังนั่งล้างหน้าล้างแขนล้างขาของตัวเองอยู่นั้น สายตาเรียวสวยของนางพลันได้เห็นหมู่ปลาน้อยใหญ่แหวกว่ายไปมาล่อตาล่อใจล่อน้ำลายของนางสิ้นดี

อยู่ในวังไม่ได้กินหรอกนะนี่ มีโอกาสอย่างนี้ต้องรีบคว้าเอาไว้

ม่านนีคิดอย่างนั้นพลันลุกขึ้นแล้วเดินไปตัดกิ่งไม้อันเล็กแต่ยาวยื่นหนึ่งอันด้วยมีดสั้นที่พกติดตัว ก่อนจะหมุนตัวกลับมายังริมลำธารอีกรอบแล้วเหวี่ยงไม้ในมือออกไปจนเสียบทะลุกลางลำตัวของปลาโชคร้ายตัวนั้นอย่างแม่นยำในทันที

หญิงสาวไม่รอช้ารีบยกแขนเสื้อขึ้นจนเผยลำแขนเรียวสวยผิวพรรณผ่องผาดเป็นยองใยดั่งหยกเนื้อดีหายาก ตามด้วยยกชายกระโปรงขึ้นเพื่อก้าวเท้าเดินลงไปยังลำธารเพื่อหมายจะจับปลาที่สิ้นชีวาไปเมื่อครู่

แต่ยังไม่ทันที่ม่านนีจะก้าวเท้าลงลำธาร ปลาตัวนั้นก็ถูกคนผู้หนึ่งดึงปลายไม้จนปลาล่องลอยออกมาจนเหนือผิวน้ำต่อหน้าต่อตาของม่านนี

หญิงสาวถึงกับตวัดสายตาขึ้นมองเจ้าของฝ่ามือเรียวยาวนั้นอย่างนึกขุ่นเคือง

“นั่นปลาของข้า” นางกล่าวออกไป

“...”

เงียบ

ไร้ซึ่งเส้นเสียงใดๆ จากเจ้าของฝ่ามือ

เขากำลังก้มหน้าจับปลาให้เลื่อนออกจากไม้อันเล็กแล้วเดินขึ้นมาบนฝั่งริมลำธารใกล้ๆ กับตำแหน่งที่ม่านนียืนอยู่

ม่านนียืนถลึงตาจ้องมองด้วยความไม่พอใจฉายชัด

คนผู้นั้นก็ก้มหน้าลงมองม่านนีเช่นเดียวกัน

แต่ครู่เดียวเท่านั้น เขาก็ละสายตาคมเข้มดุดันออกไปจากวงหน้าของม่านนี ในขณะที่ม่านนียืนมองเขาอย่างขุ่นเคือง

คนผู้นี้เปลือยแผงอกของลำตัวช่วงบน เขากำลังจับปลาอยู่ก่อนนางอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะว่าภายในมือของเขามีปลาร้อยด้วยเชือกเถาวัลย์อีกสามตัว รวมกับของม่านนีก็เป็นสี่ตัว

เขาวางปลาพวกนั้นลงตรงฝั่งพื้นดินเบื้องหน้าที่มีใบไม้ปกปิดฝุ่นดินเอาไว้ก่อนหันมามองม่านนีอีกรอบพลางยืนกอดอกอยู่นิ่งๆ มิได้กล่าวคำอันใด

ม่านนีมองตอบกลับไปพลางยืนกอดอกเช่นเดียวกัน

นางเห็นแผงอกบึกบึนกล้ามเนื้อแน่นๆ เรียงตัวสวยงามอยู่บนลำตัวช่วงบนของเขา นางเห็นครึ่งลำตัวเปล่าเปลือยของเขาจนถึงช่วงเอว นางเคยเห็นมาแล้วกับการเปลือยลำตัวช่วงบนของบุรุษเพื่อจับปลาในลำธารอย่างนี้

อาจารย์ของนางชอบถอดเสื้อหาปลาอย่างนี้เหมือนกัน แต่แผงอกของอาจารย์ในวัยที่ผ่านมาแล้วเกือบห้ารอบอย่างนั้นเนื้อช่วงอกของอาจารย์ไม่แน่นอย่างนี้

มิได้เรียงตัวสวยงามอย่างนี้

อืม...เขาดูดีใช้ได้

แต่ช่างเถิด จะอย่างไรเสียปลาตรงหน้าก็น่ามองยิ่งกว่ามากนัก

นางเห็นปลาตัวใหญ่อวบอ้วนที่มีดีเหนือกว่าปลาของนางอย่างมากมาย นางจึงเปลี่ยนท่าทีก่อนยกยิ้มมุมปากอย่างชอบใจแล้วกล่าวออกมา

“ท่านควรมีเพื่อนเพื่อแบ่งปันกินเจ้าปลาพวกนั้น”

“เมื่อครู่ข้าเห็นมีสตรีนางหนึ่งหวงแหนปลาเพียงหนึ่งตัว”

เส้นเสียงทุ้มต่ำกล่าวออกมาด้วยใบหน้าเรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ดวงตาคมเข้มจ้องมองม่านนีอย่างดุดันไร้อารมณ์ผ่อนคลาย

“อา...ใครกันนะ” ม่านนีพลิกลิ้นได้ในทันที

ชายหนุ่มผู้นั้นยืนมองม่านนีอยู่นิ่งๆ มิได้กล่าวคำอันใดออกมา ซักพักเขาก็ละสายตาออกไปจากใบหน้าของม่านนีแล้วย่อตัวสูงใหญ่ลงต่ำก้มหน้าเอื้อมมือหยิบเศษไม้แห้งจากบริเวณนั้นขึ้นมาแล้วทำท่าจะก่อไฟ

“ให้ข้าช่วย” ม่านนีกล่าวออกมาอย่างมีน้ำใจเหลือเกิน

บุรุษหนุ่มผู้นั้นมองม่านนีนิ่งๆ ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เขาเพียงปล่อยให้ม่านนีได้ก่อไฟดังคำด้วยการลุกขึ้นยืนแล้วหมุนตัวเดินหายไปหลังก้อนหินขนาดใหญ่ริมลำธาร

ครู่หนึ่งเขาก็ออกมาจากหลังก้อนหินก้อนนั้นและใส่เสื้อผ้าผูกเอวเรียบร้อยก่อนกลับมานั่งอยู่นิ่งๆ ไม่ไกลกับที่ม่านนีกำลังก่อไฟ

และไม่นานกองไฟขนาดย่อมก็เป็นผลสัมฤทธิ์ขึ้นมา ตามด้วยปลาตัวใหญ่หนาถูกเสียบด้วยไม้ลำเล็กกำลังถูกปิ้งย่างอยู่เหนือกองไฟ

และในเวลาไม่ถึงหนึ่งก้านธูปปลาย่างก็ส่งกลิ่นหอมฉุยแผ่กระจายออกมา ม่านนีนั่งปิ้งปลาและกินปลาตัวเดียวกันกับบุรุษตรงหน้าอยู่ที่ริมลำธารด้วยท่าทางเป็นมิตรเพื่อที่จะได้ไม่ต้องลงน้ำไปจับเอง

ม่านนีหาได้สนใจอันใดกับบุรุษหนุ่มผู้นี้ไม่ นางสนใจอยู่กับการกินปลา นางมิได้นึกสนใจชมชอบบุรุษคนไหน จากประสบการณ์ของมารดาที่นางได้รับรู้มาทำให้นางไม่อยากนึกนิยมผูกสมัครรักใคร่ใยดีบุรุษคนใด

แต่ถึงกระนั้นการนั่งกินปลาด้วยกันอย่างนี้ก็ไม่นับว่าเป็นอันใด นางเป็นเจ้าถิ่นของที่นี่

ที่ป่าใหญ่แห่งนี้ กับบุรุษแปลกหน้าผู้นี้จึงไม่นับว่าเป็นอะไร นางถือว่าเขาเป็นแขกของนางก็เท่านั้น

ม่านนีนั่งกินปลาหาได้สนใจบุรุษข้างกายไม่

ส่วนบุรุษผู้นั้นก็ทำแค่นั่งกินปลาไปอย่างเงียบงัน ใบหน้าหล่อเหลาคมคายของเขายังคงเฉยชาไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆ

เมื่อปลาตัวที่หนึ่งถูกกินไปจนหมดแล้ว ปลาตัวที่สองก็สุกได้ที่ มันจึงถูกยกออกมาวางบนใบหน้าใบใหญ่แล้วตามด้วยปลาตัวที่สามถูกเสียบไม้ยกขึ้นย่างแทนที่ ปลาตัวที่สองนี้จึงถูกบุรุษและสตรีฉกกินอยู่ด้วยกันอย่างใจเย็น

“เจ้าหนีออกจากวังมาอย่างนี้ กลับเข้าไปอาจได้รับโทษ”

เส้นเสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้นมาทางม่านนีด้วยใบหน้าเรียบเฉยไม่เปลี่ยนแปลงแต่กลับทำให้ม่านนีถึงกับสำลักปลาที่กำลังกินเข้าไป หญิงสาวก้มหน้าลงมองอาภรณ์ของตนที่เป็นชุดนางกำนัลแห่งวังหลวงก่อนเอ่ยออกมา

“อา...ท่านดูออกด้วยหรือ”

“ย่อมเป็นเช่นนั้น”

“อืม...แล้วอย่างไร” นางตอบรับอย่างไม่สะทกสะท้านอันใด นางไม่เห็นจะต้องกลัวเกรง

“เช่นนั้นเจ้าก็ถูกจับได้เสียแล้ว” เขาตอบกลับมาอย่างนั้น

ม่านนีถึงกับชะงักงันก่อนเงยหน้าขึ้นมองบุรุษหน้าตายที่กล่าวประโยคอันตรายออกมา

“ท่านเป็นทหาร” นางเอ่ยเสียงเบา

และคำตอบที่ได้รับก็เป็นเพียงการยกยิ้มมุมปากบางเบาจากบุรุษตรงหน้า

“อะไรกัน” ม่านนี้ยกยิ้มเช่นเดียวกันพลางเอ่ย “อย่ามาขู่ข้าเลยน่า” ว่าแล้วก็ทำท่าทางเขินอายได้อย่างน่าเอ็นดู ดวงตาคู่สวยพลันทอประกายอย่างไม่ตั้งใจ รอยยิ้มหวานล้ำพลันปรากฏบนใบหน้างดงามตามธรรมชาติหาได้ปรุงแต่งแต่อย่างใดไม่

บุรุษผู้นั่งอยู่ตรงหน้าถึงกับจ้องมองม่านนีก่อนลุกขึ้นพรวดพราดทำเอาม่านนีถึงกับสะดุ้งตกใจ

“อะไรของท่าน” หญิงสาวขมวดคิ้วพันกันยามถามออกไป

แต่ก็หาได้รับคำตอบจากชายหนุ่มผู้นี้ไม่ เขาหันหลังเดินจากไปอย่างเงียบงันไร้ซึ่งการกล่าวต่อคำอื่นใดต่อม่านนี

หญิงสาวมองตามแผ่นหลังกว้างใหญ่ที่ตั้งตรงเป็นสง่าของเขานิ่งงันอย่างงุนงง

“อะไรกัน” ม่านนีสบถออกมาได้แค่นั้นก่อนจะหันหน้ามาสนใจปลาตรงหน้าต่อโดยหาได้สนใจบุรุษรูปงามท่านนั้นไม่

แต่เพียงอึดใจ ม่านนีจึงเริ่มตระหนัก พลันเลื่อนสายตาออกจากปลาเนื้อหวานแล้วมองไปยังบุรุษผู้นั้นอีกครา

เขาดูคุ้นหน้า...

ม่านนีคิดในใจพลางลุกขึ้นแล้วออกวิ่งอย่างเร็วจนมาถึงร่างสูงใหญ่ของบุรุษแปลกหน้า

บุรุษผู้นั้นถึงกับหยุดเท้าที่กำลังก้าวเดินเมื่อม่านนีมายืนขวางหน้าของเขาเอาไว้

ใบหน้าหล่อเหลาคมคาย ริมฝีปากหยักได้รูปสีแดงสด เรียวคิ้วเข้มหนา ดวงตาคมดุนุ่มลึก แต่ทว่าแววตาคล้ายกับพญาเหยี่ยวจ้องมองเหยื่อ

อา...ใช่เขาจริงๆ

เขาเป็นราชองครักษ์ผู้นั้น

“ท่านราชองครักษ์นี่เอง ข้าน้อยจำท่านได้แล้ว” ม่านนีเอ่ยคำเสียงใสแต่ทว่าแววตากลับซ่อนความเจ้าเล่ห์ไม่จริงใจ

บุรุษหนุ่มตรงหน้ามองตอบกลับสายตาอย่างนั้นของม่านนีนิ่งๆ ด้วยดวงตาคมดุไม่เปลี่ยนแปลง ท่าทางเย็นชาของเขาก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงไปเช่นเดียวกัน เขาเบี่ยงตัวออกเดินต่อไปยังทิศทางเบื้องหน้าด้วยท่วงท่าสง่างามแผ่นหลังตั้งตรงโดยไม่สนใจม่านนี

หญิงสาวหมุนตัวเดินตามแผ่นหลังนั้นของชายหนุ่มอย่างต้องการตีสนิทก่อนเอ่ยออกมาอย่างนอบน้อม “ข้าน้อยหวังว่าท่านจะไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกกับใคร”

ชายหนุ่มปรายหางตาคมมองม่านนีนิ่งๆ เป็นเชิงตำหนิออกมาอย่างฉายชัด

ม่านนี่เห็นอย่างนั้นจึงกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงแว่วหวาน

“อืม...อันที่จริง ท่านก็หนีออกมาเที่ยวใช่หรือไม่เจ้าคะ”

และประโยคนั้นก็ทำเอาเขาถึงกับหยุดเท้าที่กำลังก้าวเดินอีกครา ม่านนีจึงหยุดเดินเช่นเดียวกัน แต่ยังคงส่งสายตาทอประกายอ่อนหวานมองเข้าไปในสายตาคมดุของเขาอย่างใจกล้า

“ข้าจะไม่บอกใครเช่นกัน ดีหรือไม่ ถือเป็นความลับของเราสอง” นางเอ่ยเสียงออดอ้อนไม่ต่างจากดวงตา

บุรุษตรงหน้ายิ่งถลึงตาจ้องมองอย่างดุดัน

ม่านนีคลี่ยิ้มอ่อนหวานส่งให้อย่างไม่นึกกลัวเกรง ใบหน้างดงามหวานล้ำที่มิเคยได้มีโอกาสพิศมองกระจกเงากำลังทอประกายเจิดจ้าอย่างไม่รู้ตัว

“เจ้าไม่ควรทำเยี่ยงนี้” น้ำเสียงดุดันเอ่ยออกมาจากบุรุษสูงใหญ่ตรงหน้าพร้อมด้วยสายตาคมเฉี่ยวเข้าฟาดฟันไม่สร่างซา

“ข้าจะไม่หนีออกมาอีกเจ้าค่ะ” นางกล่าวออกไปอย่างนอบน้อมคลี่ยิ้มพริ้มเพราดวงตาฉ่ำหวาน

“ข้าหมายถึงกิริยาอย่างนี้” เขาดุออกมาอีกครา

“หือ!?”

“ห้ามเจ้าทำกับใคร” จบคำก็สะบัดชายผ้าเสียงดังแล้วเดินออกไป

“หา!”

ม่านนีถึงกับอุทานพลางอ้าปากค้างอย่างงุนงง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel