บทย่อ
เรื่อง...ตั้งใจรักคุณหนูแสนซน เรื่องนี้เขียนต่อจากเรื่อง เผลอรักยัยแม่หม้าย กับ เผลอใจรักยัยขี้อ่อยค่ะ คำโปรย เมื่อผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายอยากให้ลูกๆสานสัมพันธ์ เขาไม่ได้ปฏิเสธแต่ขอยื่นเงื่อนไขแทน โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าเธอรู้ตัวตนของเขาตั้งแต่แรกแล้ว แนะนำตัวละคร ภีรภัทร (พี่ภีร์) อายุ 28 ปี เขาหล่อ รวย จากนักธุรกิจ กลายมาเป็นคนขับรถให้กับคุณหนูไออุ่นซะอย่างนั้น เขาเดินเข้ามาในชีวิตของเธอก็เพื่ออยากเรียนรู้นิสัยใจคอ เขาไม่ได้มีอคติ แต่ก็ไม่ได้สนใจ ที่ทำลงไปเป็นเพราะผู้ใหญ่ขอร้อง ไออุ่น (คุณหนูอุ่น) อายุ 25 ปี เธอสวย เก่ง ฉลาด กลางวันทำงาน ส่วนนอกเวลางานนั้น ทุกวินาทีเป็นของเธอ อยากทำอะไรก็ทำ อยากไปไหนก็ไป ????? หมายเหตุ : เหตุการณ์ในเรื่องนี้เริ่มขึ้นวันงานแต่งของพี่อาชิ พี่ชายของเธอจากเรื่องเผลอใจรักยัยขี้อ่อยนะคะ
ตอนที่ 1 ช่อดอกไม้ในงานแต่งพี่ชาย
ตอนที่ 1 ช่อดอกไม้ในงานแต่งพี่ชาย
@ไออุ่น
สวัสดีค่ะ ฉันชื่อไออุ่น เป็นน้องสาวของพี่อาชิ เจ้าบ่าวในงานวิวาห์วันนี้ค่ะ ฉันมีพี่ชายสองคน ส่วนฉันเป็นน้องเล็กสุด คนกลางชื่อพี่กัปตันเป็นพี่ชายฝาแฝดของฉันเองค่ะ เกิดวันเดียวกัน ห่างกันแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น
พี่ชายของฉันทั้งสองคนจัดว่าเป็นคนหน้าตาดี ฉันเองก็ด้วย แต่ไม่มีแฟน ไม่เคยมี แถมยังโสดสนิท เหตุผลที่แท้จริงก็คือ พี่ชายหวงค่ะ
ฉันไปไหนมันก็ชอบตามไปด้วย ถึงฉันกับพี่กัปตันจะเป็นฝาแฝดกันก็จริงแต่ใบหน้าของเราสองคนแค่คล้ายกันเท่านั้น คนที่ไม่รู้ก็คงคิดว่าฉันมีแฟนแล้ว แต่แท้ที่จริงแล้วมันเป็นพี่ชายที่คลานตามกันออกมาจากท้องแม่ค่ะ
เวลามีผู้ชายเข้ามาจีบฉัน มันชอบทำหน้าเข้มๆทำให้คนพวกนั้นเข้าใจผิดกันไปหมด ส่วนข้อดีของมันก็มีไม่น้อย ฉันสามารถไปไหนมาไหนได้โดยที่ไม่ต้องกลัวอันตราย ไม่ว่าฉันอยากจะไปที่ไหนพี่กัปตันก็มักจะไปเป็นเพื่อนฉันด้วยเสมอ เที่ยวบาร์ เที่ยวผับ บาร์โฮสก็เคย นี่คือข้อดีของการมีพี่ชายแบบมันค่ะ
กลับมาที่ปัจจุบัน ตอนนี้ฉันกำลังนั่งอยู่ในงานแต่งของพี่อาชิกับอลิซค่ะ
ในขณะที่ฉันกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะด้านหน้าเวทีโต๊ะเดียวกับคุณพ่อคุณแม่ กำลังฟังพี่อาชิกับอลิซหยอกล้อกันอยู่บนเวที อยู่ๆเสียงพิธีกรบนเวทีก็ประกาศหาคนโสดดังขึ้นมา
"รายการต่อไป โยนช่อดอกไม้ ใครโสดเชิญด้านหน้าเวทีได้เลยครับ" เขาว่ากันว่าใครที่สามารถรับช่อดอกไม้ที่เจ้าสาวโยนลงมาได้ คนผู้นั้นจะได้เป็นเจ้าสาวคนต่อไป
"ไออุ่นลูก" ฉันยังคงนั่งนิ่ง
"คะคุณแม่"
"ไปร่วมสนุกกับเขาสิลูก"
"ไม่ดีกว่าค่ะ"
"ไปเถอะพาน้องไปสนุกด้วย" น้องที่คุณแม่พูดถึงก็คือหนูดี หนูดีเป็นลูกสาวของแม่บ้าน พ่อไม่มี วันนี้ฉันจับน้องแต่งตัวสวยชวนมานั่งอยู่ในงานด้วยกัน
"หนูดีอยากไปมั้ย" หนูดีหันมามองหน้าฉันตาแป๋ว
"หนูดียังเด็กจะดีเหรอคะ"
"ไม่เด็กแล้ว ตัวเท่าพี่เด็กตรงไหน ป่ะ" ไปก็ไป คิดว่าพาน้องมาเปิดหูเปิดตาก็แล้วกัน
"ค่ะคุณหนู"
"บอกให้เรียกพี่ สอนไม่รู้จักจำ" หนูดีเรียนอยู่มัธยมปลายปีสุดท้าย กำลังเป็นสาวสะพรั่งมองตรงไหนน้องก็น่ารัก ส่วนฉันปีนี้อายุยี่สิบห้าเต็มแล้ว
"ค่ะพี่อุ่น"
"พี่กัปตันไปมั้ย" ฉันหันไปถามเขา เขาส่ายหน้าให้เป็นคำตอบ ฉันกับหนูดีจึงลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวที่นั่งอยู่แล้วจับมือพากันเดินออกไปรวมกับคนอื่นๆที่ด้านหน้าเวที เพื่อรอรับช่อดอกไม้ที่เจ้าสาวกำลังจะโยนลงมา
"เอาล่ะ ตอนนี้คนโสดด้านล่างน่าจะพร้อมกันหมดแล้ว เจ้าสาวพร้อมหรือยังครับ" เสียงของพิธีกรดังขึ้นอีกครั้ง
"พร้อมแล้วค่ะ"
"ถ้าพร้อมแล้วหันหลังครับ" เจ้าสาวหันหลังพร้อมกับถือช่อดอกไม้เอาไว้ในมือ เจ้าสาวหยอกล้ออยู่สองสามครั้ง จากนั้นช่อดอกไม้ที่ถืออยู่ในมือก็ถูกโยนลงมา
ดอกไม้ช่อที่เจ้าสาวโยนลงมาลอยมาทางฉัน ฉันยืนนิ่งไม่ต้องพยายามเลยสักนิด อยู่ๆมันก็ลอยมาอยู่ในมือของฉันทันที จะไม่รับก็ไม่ได้ ถ้าไม่รับโดนหัวแน่ๆ
ทุกคนแสดงความยินดีกับฉัน มีทั้งรอยยิ้มและเสียงปรบมือ ส่วนฉันกำลังยืนงงมองดูช่อดอกไม้ในมือของตัวเอง พลางคิดไปว่าเนื้อคู่เกิดหรือยังก็ไม่รู้ บอกให้คนโสดมายืนรับช่อดอกไม้ฉันก็มายืนให้ แต่สายตาของทุกคนตอนนี้ที่มองมาทางฉัน มองมาด้วยสีหน้ายินดีมากมาย ราวกับว่าฉันกำลังจะได้แต่งงานในวันพรุ่งนี้อย่างไรอย่างนั้น...บ้าไปแล้ว!
"พี่อุ่น ยินดีด้วยค่ะ" ส่วนหนูดีปรบมือส่งยิ้มแสดงความยินดีอยู่ข้างๆฉัน
"อ่ะพี่ให้" ฉันยื่นช่อดอกไม้ในมือให้น้อง
"ไม่เอาๆ พี่รับได้มันก็ควรเป็นของพี่เก็บไว้เถอะค่ะ เดี๋ยวคุณอาชิกับคุณอลิซจะเสียใจนะคะ"
"ก็ได้...กลับไปนั่งกันเถอะ" ฉันกับหนูดีพากันกลับมานั่งลงที่เดิม
"แกจะได้เป็นเจ้าสาวคนต่อไป" พี่กัปตันเอนศีรษะเข้ามากระซิบอยู่ที่ข้างใบหูของฉันด้วยน้ำเสียงล้อเลียน มันกำลังกวนตีน!
"กี่โมง!" ฉันขึงตาถามกลับไปทันที ก็อย่างที่บอก มันเป็นพี่แต่ชอบแสดงออกให้คนอื่นคิดว่ามันเป็นแฟน ตามติดยิ่งกว่าเงา จนตอนนี้ฉันมีอายุยี่สิบห้าปีแล้ว ยังไม่เคยมีแฟนเลยสักคน
"หนูดี กินเยอะๆนะ จะได้โตเร็วๆ" มันหันไปส่งยิ้มให้หนูดี ก่อนที่จะเปลี่ยนเรื่องพูดพลางตักอาหารใส่จานให้หนูดีด้วย
"หนูดีตักเองได้ ขอบคุณคุณกัปตันค่ะ"
"บอกให้เรียกพี่ พูดหลายครั้งแล้วนะ"
"ก็มันไม่ชินนี่คะ"
ในขณะที่บนโต๊ะกำลังสนทนากันเรื่องทั่วๆไป สายตาของฉันก็เหลือบไปเห็นผู้ชายคนหนึ่งเข้า เขานั่งห่างออกไปค่อนข้างไกล ทันใดนั้นร่างสูงที่ฉันกำลังมองอยู่ ดันลุกยืนขึ้น รูปร่างสูงโปร่ง แต่งตัวดี แต่ยังไม่ทันได้สำรวจรายละเอียดอย่างอื่นเขาก็หันหลังให้แล้วเดินออกจากโต๊ะนั้นไป
@ภีรภัทร
สวัสดีครับ ผมชื่อภีรภัทร ชื่อเล่นภีร์ เป็นลูกชายคนเล็กของบ้าน วันนี้ผมถูกคุณแม่บังคับให้มาร่วมงานแต่ง สิ่งที่ท่านต้องการก็คืออยากหาเมียให้ผมสักคน งานกินเลี้ยงวันนี้ผู้คนค่อนข้างหนาแน่น รวมเหล่าผู้ดีชั้นสูงมากหน้าหลายตา งานแบบนี้จึงเหมาะแก่การหาคู่ แต่ไม่ใช่ผม ผมไม่ชอบผู้ดีจอมปลอมแบบนี้ ถ้าผมจะต้องหาเมียสักคนจริงๆ ผมไม่สนว่าเธอคนนั้นจะรวยหรือจน ขอแค่ให้เธอคนนั้นรักผมในแบบที่ผมเป็นไม่ใช่รักที่เงินของผม
ตั้งแต่ที่ผมเดินเข้ามาในงานกับคุณแม่ ท่านก็พยายามแนะนำผมให้รู้จักกับลูกสาวเพื่อนของท่าน จนตอนนี้ผมเวียนหัวไปหมด ผู้หญิงสมัยนี้แต่งหน้าจัดอย่างกับลิเก มองดูผ่านๆก็รู้แล้ว หน้าก็ปลอม นมก็ปลอม หากมีลูกด้วยกันผมขี้เกียจตอบคำถามลูก
"คุณแม่ครับ ผมขอตัวไปรอคุณแม่ที่รถนะครับ ในนี้คนเยอะผมอึดอัด"
"ดะ...เดี๋ยวสิ" ผมไม่รอให้คุณแม่พูดจบ รีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวที่นั่งอยู่ แล้วเดินเร็วๆออกไปจากตรงนี้ทันที ผมเดินมาถึงที่รถได้ ก็เปิดประตูเข้าไปนั่งด้วยท่าทางเบื่อหน่าย
"คุณผู้หญิงล่ะครับคุณภีร์" ผมขอแนะนำ คนนี้ชื่อดิน เป็นลูกน้องของผมเอง อายุน้อยกว่าผมนิดหน่อย ถ้าผมอารมณ์ดีผมก็จะเรียกมันว่าดินเฉยๆ แต่ถ้ามันกวนตีน ผมก็จะเรียกมันว่าไอ้ดิน ผมมีลูกน้องสองคน คนนี้ชื่อดิน ให้ทำงานทั่วไป ส่วนอีกคนชื่อกร ให้ทำงานเป็นเลขา หรือจะเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าให้มันทำงานแทนผม เพราะผมไม่ชอบเข้าบริษัท จะเข้าไปเฉพาะมีประชุมหรือมีงานสำคัญเท่านั้น งานของผมก็คือดูแลและบริหารห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งช่วยคุณพ่อ ใครๆก็เรียกคุณพ่อผมว่าท่านเจ้าสัว
"ยังไม่ออกมา รอท่านก่อน"
"ครับ"
"ดิน นายมีแฟนมั้ย"
"โสดครับ แต่ไม่เหงา" ขี้คุย!
"นายคิดเห็นยังไง กับการมาหาคู่ในงานแต่งชาวบ้านแบบนี้"
"เยอะดีนะครับ สวยๆทั้งนั้นเลย"
"เฮ่อ..." สงสัยจะพึ่งพาไม่ได้
"แล้วคุณภีร์คิดเห็นยังไงครับ"
"ไม่ชอบและน่าเบื่อมาก คนเราก่อนที่จะเป็นแฟนกันมันก็ต้องศึกษาดูใจ เรียนรู้นิสัยใจคอกันก่อนไม่ใช่เหรอวะ" ภายในงานผู้ใหญ่ต่างก็พาลูกสาวลูกชายมาร่วมงานในวันนี้ก็เพื่อพาลูกมาเลือกคู่ ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น
"คุณภีร์ไม่ถูกใจใครบ้างเลยเหรอครับ"
"ก่อนถามช่วยดูหน้ากูด้วย"
"ไม่สวยเลยเหรอครับ"
"พลาสติกทั้งหน้าเอาอะไรมาสวย!"
"อคติ"
"ไหนขอดูหน้าคนคุยของมึงหน่อย"
"ไม่สะดวกครับ"
"ชิ!"