บท
ตั้งค่า

4. ความบังเอิญไม่มีอยู่จริง

ยามนี้เจียงลี่มี่เก็บกระดาษปึกหนาลงในหีบ และใส่กุญแจแน่นหนา

“เสี่ยวจูช่วงนี้โรงเตี๊ยมของข้าเป็นอย่างไรบ้าง ไม่ได้ไปเสียนาน คงไม่มีปัญหาใดใช่หรือไม่”

ที่ผ่านมาเหวินอ๋องเกาะติดเธอไม่ห่าง จึงไม่อาจทำสิ่งใดถนัด ขยับตัวเพียงเล็กน้อยอาจถูกเขาจับได้ ทั้งภายในเมืองก็มีองค์รักษ์เงาของเขาแฝงอยู่มากมาย

“ขนมของคุณหนูขายดียิ่ง กิจการโรงเตี๊ยมกำลังไปได้ดีเจ้าค่ะ แต่ที่ข้ากังวลคือ เหวินอ๋องส่งคนแฝงตัวเข้าไปสืบความที่นั่น คุณหนูใหญ่ต้องระวังนะเจ้าคะ ข้ากลัวเหวินอ๋องจะล่วงรู้” เจียงลี่มี่พยักหน้าเข้าใจ เหวินอ๋องหูตาว่องไว แต่มือไวยิ่งกว่า หลอกกินเต้าหู้นางก็หลายครั้ง จับเอว โอบไหล่ สารพัดจะทำ ถ้าเขาจับนางกินได้ เขาต้องทำแน่นอน

“ข้าจะระวังตัว แล้วอนุกัวกับเหมยฮวา มีอะไรคืบหน้าบ้าง” เสี่ยวจูกางกระดาษลงโต๊ะ เป็นภาพสถานที่แห่งหนึ่ง

“คุณหนูรองจะเดินทางไปที่โรงเตี๊ยมของคุณหนูใหญ่ ข้าคิดว่านางต้องการรู้เรื่องราวบางอย่าง”

“คงไม่พ้นความลับข้า ว่าเหตุใดข้าจึงไม่ป่วยตายเสียที” เจียงลี่มี่คาดเดาได้ทันที เหมยฮวาหน้าตางดงาม อ่อนโยน แต่กลับมีนิสัยชอบเอาชนะ และอิจฉาริษยาในตัวพี่สาวอย่างนาง

“ข้าก็คิดเช่นนั้น แต่ที่ข้าทราบมามีอีกเรื่องเจ้าค่ะ” เสี่ยวจูเข้าไปกระซิบเรื่องราวบางอย่างที่นางบังเอิญได้ยิน เจียงลี่มี่นิ่งไปสักพัก ก่อนจะมีสีหน้าเคร่งขรึม

“มีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ เห็นทีพรุ่งนี้ข้าจะต้องไปที่โรงเตี๊ยมสักหน่อย” เธอมีสีหน้ากังวล ยิ่งสืบก็ยิ่งเห็นความวุ่นวาย ครั้งนี้เธอเดิมพันด้วยทุกสิ่งที่มี หากต้องตายก็ไม่เสียใจ เพราะเธอทำเต็มที่แล้ว

เช้าวันต่อมา เจียงลี่มี่รีบออกไปที่โรงเตี๊ยมอี้เฉิน เมื่อมาถึงก็พบว่ามีชาวบ้านมากมายมาซื้อขนมของเธอ

เจียงลี่มี่เดินเข้าไปหลังโรงเตี๊ยม เธอกำลังทบทวนแผนการขั้นต่อไป ตามนิยายแล้ว วันนี้เหมยฮวาจะออกมาทำบางสิ่ง และเหวินอ๋องจะออกสืบเรื่องราวบางอย่าง ทั้งสองคนจะได้พบกันโดยบังเอิญอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ก็จะต้องเป็นเธอที่บังเอิญได้พบเจอเหวินอ๋อง

“เสี่ยวจู เจ้าไปดักเหมยฮวาที่ร้านขายผ้าแพรมุมตลาด สกัดนางไว้ อย่าให้นางมาที่โรงเตี๊ยมของข้าได้”

เสี่ยวจูพยักหน้าก่อนจะเดินแยกออกไป เจียงลี่มี่ใช้ผ้าคลุมศีรษะปกปิดใบหน้า และเดินออกจากโรงเตี๊ยมเพื่อไปดักรอเหวินอ๋อง

เธอทบทวนเรื่องราวต่อจากนี้ ตอนนี้เธอยังมีชีวิตอยู่ ไม่เหมือนกับในนิยายที่ต้องตายไปนานแล้ว หากเป็นแบบนี้ เรื่องราวในนิยายจะเปลี่ยนไปด้วยหรือไม่ หากเปลี่ยนไป มันจะเปลี่ยนจนไม่เหลือเค้าเดิมหรือไม่

เจียงลี่มี่ต้องกังวลขึ้นมา เพราะหากเนื้อหาในนิยายเปลี่ยนไป สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจะยังเกิดขึ้นหรือไม่ วันนี้เหวินอ๋องจะมาที่นี่เหมือนในนิยายหรือไม่ เธอเริ่มไม่มั่นใจ

ผ่านไปสักพัก เจียงลี่มี่ก็เห็นคนที่เธอรอ เหวินอ๋อง !

เธอรีบตามเขาไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นเขากำลังจะเดินเข้าไปในโรงเตี๊ยมตรงหน้า เธอก็แสร้งเดินก้มหน้า นับเหรียญสำหรับซื้อของ

เหวินอ๋องที่หันมาเห็นเธอเข้าพอดี ก็ต้องแปลกใจ คู่หมั้นของเขามาทำอะไรที่นี่

“เจ้าแอบหนีออกมาเช่นนั้นหรือมี่เอ๋อร์” เจียงลี่มี่แสร้งสะดุ้งตกใจ ทำเหรียญตกที่พื้นเสียงดัง

“ท่านอ๋อง ท่านทำข้าตกใจ เหรียญข้าหล่นหมดแล้ว” เธอลนลานจะก้มไปเก็บเหรียญที่กระจายไปทั่ว แต่ก็ถูกมือหนาจับไว้เสียก่อน

“ปล่อยไป เจ้ามากับข้า” เธอถูกเขาลากไปอย่างรวดเร็ว

“ท่านจะพาข้าไปไหน ข้ายังไม่ได้ซื้อขนมเลย” เจียงลี่มี่หาข้ออ้าง

“เดี๋ยวข้าจะเหมาขนมให้เจ้าทั้งตลาดเลย แต่ตอนนี้เจ้าตอบข้ามา เจ้าหนีออกจากจวนมาทำอะไรที่นี่กันแน่” เขายืนกอดอกถามเธออย่างรู้เท่าทัน จ้องหน้าเธออย่างคาดคั้น

เจียงลี่มีกลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ ครุ่นคิดในใจ เอาอย่างไรดี จะบอกเขาตามตรงดีหรือไม่ หรือประวิงเวลาออกไปอีกสักหน่อย แต่คิดอีกที เอาเหอะ อย่างไรเขาก็ต้องรู้เรื่องอยู่ดี ตอนนี้เธอบอกเท่าที่เขาควรรู้ก็พอ

“ข้ามีที่หนึ่งที่อยากให้ท่านอ๋องไปกับข้าเพคะ” เหวินอ๋องเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย แต่ก็พยักหน้าตอบรับ

เจียงลี่มี่จูงมือเขา พาเขาเข้ามาในโรงเตี๊ยม และเดินออกไปด้านหลังของโรงเตี๊ยม ที่ด้านหลังโรงเตี๊ยมมีโต๊ะเก้าอี้หินสำหรับนั่งพักผ่อนชุดหนึ่ง

“ท่านอ๋อง รอที่นี่นะเพคะ” บอกแล้ว เจียงลี่มี่ก็เดินเข้าไปในบ้านหลังเล็กก่อนจะกลับมาพร้อมด้วยสุราชั้นดีสองสามกระปุก

“โรงเตี๊ยมนี้เป็นของใคร เหตุใดเจ้าจึงเข้าไปง่าย ๆ เช่นนี้” เหวินอ๋องถามด้วยความสงสัย

“โรงเตี๊ยมนี้ของเป็นของข้า ท่านอ๋องอย่าได้กังวลเพคะ ที่ข้าพาท่านมาที่นี่ เพราะมีเรื่องอยากคุยกับท่าน นี่คือสุราที่เถ้าแก่โรงเตี๊ยมนี้หมักเอง ลองดื่มสักหน่อยนะเพคะ”

เขามองจอกสุราที่ถูกยื่นมาตรงหน้า ก่อนจะสบตานาง ดวงตากลมโตไม่หลบสายตาเขา เมื่อเพ่งพิจารณา ก็ไม่พบสิ่งใดผิดปกติ

“ครั้งหนึ่งข้าเคยถูกหักหลังอย่างไม่คาดคิด ถูกผิดล้วนไม่กระจ่าง” เขารับจอกสุรามาถือไว้ เอ่ยด้วยเสียงราบเรียบ

“เวลาไม่อาจหวนคืน ความทรงจำไม่อาจลืมเลือน เพียงรอวันแก้ไข ขอเพียงมีชีวิตที่เหลืออยู่โดยไม่คิดเสียใจ เท่านี้ก็เพียงพอแล้วมิใช่หรือเพคะ ท่านอ๋องดื่มเถิด อย่าจริงจังนักเลย มีข้าอยู่ทั้งคน ไม่ปล่อยให้ท่านต่อสู้เพียงลำพังหรอกเพคะ”

“แม้หนทางลำบากเพียงใด ข้าจะจัดการขวากหนามระหว่างทางให้ท่าน ข้าจะเป็นผู้ที่สนับสนุนท่านอยู่ข้างหลัง จะเป็นหมากบนกระดานให้ท่านใช้” เธอบอกกล่าวจุดประสงค์ชัดเจน

เธอยกสุราอีกจอกขึ้นดื่ม ส่งยิ้มหวานให้

“เจ้าต้องการสิ่งใด เหตุใดจึงต้องช่วยข้า” เขายกจอกสุราขึ้นดื่ม ก่อนจะวางลง จ้องหน้าสตรีตรงหน้าอย่างไม่แน่ใจปนความสงสัย

“ข้าต้องการเพียงตำแหน่งคู่หมั้นของท่าน ท่านจะต้องยืนยันที่จะเลือกข้า มิใช่เหมยฮวา” เธอบอกพร้อมรินสุราใส่จอกให้เขา เมื่อเห็นเขาจ้องมองมา

“เจ้าช่างโลภมากยิ่งนัก ที่แท้ก็ต้องการตำแหน่งหวัง...” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน หึ ก็แค่สตรีที่หวังอำนาจนางหนึ่ง เขาผิดหวังที่พลั้งเผลอสนใจนาง

“ท่านอ๋อง ฟังข้าให้ดี...” เจียงลี่มี่เอ่ยแทรกอย่างรวดเร็ว

“...ที่ข้าต้องการคือตำแหน่งคู่หมั้นของท่าน หาใช่ตำแหน่งหวังเฟยของท่านไม่”

คำพูดนี้ของนางทำให้เขางงงัน สตรีทุกนางที่เขารู้จักล้วนต้องการเป็นหวังเฟยของเขาทั้งสิ้น แต่เจียงลี่มี่กลับกล่าวว่าต้องการเพียงตำแหน่งคู่หมั้น นี่หมายความว่าอย่างไร

“ข้าโชคร้ายที่ร่างกายอ่อนแอ เป็นสตรีไร้ประโยชน์ หากข้าสามารถช่วยเหลือท่านได้ ข้าก็ยินดี ข้ายอมมอบทั้งชีวิตเพื่อช่วยให้ท่านไปถึงจุดหมาย เช่นนั้นข้าจึงจะรอด”

“เมื่อทุกอย่างสำเร็จ ถึงเวลานั้น ท่านกับข้าเพียงเข้าเฝ้าฝ่าบาทขอยกเลิกการหมั้นหมายนี้ ข้าก็สามารถไปจากท่านได้ ท่านก็สามารถแต่งสตรีที่ท่านรักชอบได้ ข้าและท่านไม่ติดค้างกัน สิ่งที่ข้าต้องการคือชีวิตอันเรียบง่าย นอกเหนือจากนี้ข้าไม่ต้องการ” เจียงลี่มี่บอกและค่อยๆ แกะเปลือกส้มออกก่อนจะส่งเข้าปาก

“กินส้มกับสุรา มันเข้ากันหรือ อีกทั้งสิ่งที่เจ้าเอ่ยออกมานั้น มันไม่ใช่เรื่องง่าย หนทางนั้นอันตราย เจ้าไม่กลัว?”

เจียงลี่มี่ที่ได้ยินก็ทั้งพยักหน้าและส่ายหน้า “ไยข้าต้องกลัวความยากเย็น เพียงผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ขอเพียงท่านไม่ทอดทิ้งข้า ข้าก็ไม่กลัวสิ่งใด”

เหวินอ๋องจ้องตานางเพื่อค้นหาความจริง ดวงตากลมโตทอประกาย ไม่สามารถอ่านได้ว่านางคิดอะไร

“หากข้าไม่ตกลง เจ้าจะทำเช่นไร”

เจียงลี่มี่ยิ้มละไม นางมั่นใจเขาไม่ปฏิเสธนางแน่นอน

“ข้ามั่นใจว่าท่านจะยอมรับข้อตกลงของข้า”

เหวินอ๋องเลิกคิ้วสูง ยกสุราขึ้นดื่ม รสชาติบาดคอยิ่งนัก

“ทำไมเจ้าจึงมั่นใจเช่นนี้ ข้ามิใช่คนโง่งม ไม่คิดค้าขายขาดทุน”

เจียงลี่มี่หัวเราะ เธอรู้ดีคนเจ้าเล่ห์แบบเขา ไม่มีทางยอมเป็นตัวหมากให้เธอง่ายๆ หรอก

“อย่างที่ข้าบอก ข้าเดิมพันด้วยชีวิต ท่านต้องการสิ่งใด ข้าจะสนับสนุนท่านเต็มที่ และเป็นหินรองเท้าให้ท่านเดินอย่างสง่างาม”

เหวินอ๋องมองตานาง สิ่งที่เขาเห็นคือความมั่นใจ

“เจ้ารู้เช่นนั้นหรือว่าข้าต้องการสิ่งใด” เขาเอนกายพิงพนักเก้าอี้ จ้องมองนางด้วยสายตาท้าทาย เส้นผมสีขาวทอประกายในยามนี้ ขับให้เขางดงามราวเทพเซียน

เจียงลี่มี่มองเขาไม่วางตา มีสิ่งใดบ้างที่นางไม่รู้เกี่ยวกับเขา สิ่งที่เหวินอ๋องตามหาก็คือ...

“สูตรยาพิษ”

เหวินอ๋องลุกขึ้นนั่งตัวตรงทันที สายตาที่มองนางเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ตอนนี้เขาไม่ไว้ใจนางอีกต่อไปแล้ว นางรู้ได้อย่างไรว่าเขาต้องการสูตรยาพิษ นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel