บท
ตั้งค่า

2. แผนร้าย แผนรัก

“เสี่ยวจู วันนี้ข้าจะพักผ่อน ไม่รับแขก หากใครขอพบ บอกข้าไม่สบาย” ยามนี้เจียงลี่มี่พบหลักฐานสำคัญบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องราวของเหวินอ๋อง เธอจึงอยากใช้เวลากับมัน

เสี่ยวจูเดินไปปิดหน้าต่างและประตูอย่างมิดชิด จากนั้นนางก็ยืนเฝ้าหน้าประตู เจียงลี่มี่อ่านความลับที่มีคนมาแลกเปลี่ยนอย่างละเอียด ใบหน้าแสดงออกถึงความกังวล

“วันนี้คุณหนูใหญ่ต้องการพักผ่อน คุณหนูรองกลับไปก่อนเถอะเจ้าค่ะ” เสียงของเสี่ยวจูดึงความสนใจของเจียงลี่มี่ได้ทันที เหมยฮวามาหาเธออย่างนั้นหรือ

“ข้าจะเข้าไปดูด้วยตัวเอง หลบไป ที่ผ่านมาพวกเจ้าหลอกข้ามาตลอด แต่เมื่อเหวินอ๋องมาที่นี่ เหตุใดนางจึงหายเป็นปกติ ท่าทางไม่เหมือนคนเคยป่วยเสียด้วยซ้ำ” เหมยฮวานึกเจ็บใจที่ตนถูกหลอกมาตลอด เจียงลี่มี่แสดงละครตบตานางได้อย่างแนบเนียน

“ไม่ได้เจ้าค่ะ วันนี้คุณหนูใหญ่ไม่ให้ผู้ใดเข้าพบ” เสี่ยวจูยืนขวางประตู สองแขนกางออกเพื่อกันไม่ให้เหมยฮวาเข้าไปด้านใน

“มีเพียงเหวินอ๋องเท่านั้นหรือที่สามารถพบนางได้ ข้าเป็นน้องสาวของนาง เหตุใดนางจึงทำกับข้าเช่นนี้ ที่ผ่านมาข้าไม่เคยทำผิดต่อนางเหมือนเช่นที่นางทำผิดต่อข้า นางหลอกลวงข้ามาตลอด ทรยศความเชื่อใจของข้า”

เหมยฮวาเอ่ยด้วยน้ำเสียงตัดรอน ใบหน้าเศร้าเสียใจ เสี่ยวจูละสายตามองไปที่อื่น หากไม่เคยรับรู้มาก่อนถึงความร้ายกาจของเหมยฮวา นางคงใจอ่อน ช่วยเกลี้ยกล่อมให้คุณหนูใหญ่ยอมให้เหมยฮวาเข้าพบแน่นอน

“ที่ผ่านมาคุณหนูใหญ่ร่างกายอ่อนแอ นางไม่เคยหลอกลวงใคร คุณหนูรองอย่าได้ปรักปรำเช่นนี้ แต่ข้าสงสัยยิ่ง เหตุใดยาที่คุณหนูใหญ่ดื่มจึงมีแต่ทำให้ร่างกายอ่อนแอลง แต่เมื่อหยุดดื่มเพียงหนึ่งวัน ร่างกายก็ฟื้นตัว หรือมีสุนัขตัวใดคิดไม่ซื่อ ลอบกัดคุณหนูใหญ่ และสุนัขตัวนั้นก็เป็นสุนัขชั่วที่ภายนอกแสนดีแต่ภายในเน่าเหม็น ไร้ความจริงใจ แต่ข้าคงคิดมากไป ในจวนนี้จะมีสุนัขชั่วได้อย่างไร”

เสี่ยวจูหรี่ตามองใบหน้างดงามที่บัดนี้แดงจัด หึ นางมิได้เอ่ยว่าผู้ใด หากมิได้ทำผิด ไยจึงต้องโกรธเกรี้ยว

เหมยฮวากำมือแน่น สุนัขรับใช้ตัวนี้ปากดียิ่ง ร้ายกาจเหมือนผู้เป็นนาย หากไม่กำจัดให้พ้นทาง อนาคตแผนการของนางกับท่านแม่ย่อมมีแต่ล้มเหลว

“ไร้หลักฐานอย่าได้เอ่ยเช่นนี้ ผู้ใดได้ยินจะนำไปพูดในทางที่ผิด” เหมยฮวาโต้กลับ

เสี่ยวจูขยับกายพิงประตู ก่อนจะเอ่ย “ข้าเพียงพูดตามที่คิด ถูกผิดยังไม่กระจ่าง เชิญคุณหนูรองกลับไปเถิด รั้งอยู่เช่นนี้มีแต่เสียเวลา และต่อให้ผู้ที่มาคือเหวินอ๋อง ข้าก็ไม่อาจเปิดประตูได้ หากไม่มีคำสั่งของคุณหนูใหญ่”

เหมยฮวาหลับตาลง สงบใจไม่ให้แสดงความโกรธเกรี้ยวออกมา

“พรุ่งนี้ข้าจะมาใหม่”

เหมยฮวายอมจากไป เสี่ยวจูถอนหายใจอย่างโล่งอก นางยืนกางแขนจนเมื่อยไปหมดแล้ว

“ข้าต้องการพบมี่เอ๋อร์” เสียงทุ้มดังขึ้น เสี่ยวจูเงยหน้าอ้าปากค้าง เหวินอ๋องมาเมื่อใด เหตุใดนางจึงไม่รู้ แม้แต่เสียงฝีเท้าก็ไม่ได้ยิน

“เหวินอ๋องถามเจ้า ใยจึงอ้าปากแต่ไม่มีเสียงเช่นนี้ หรือลิ้นของเจ้าถูกตัดไป” องค์รักษ์หนุ่มล้วงมือเข้าไปในปาก ควานหาลิ้นของนาง เสี่ยวจูเบิ่งตากว้าง กัดนิ้วของเขาอย่างแรง

“ถุย ถุย นี่ท่านทำอะไร เหตุใดจึงเอาแง่งขิงล้วงเข้ามาในปากข้าเช่นนี้ คนอะไรนิ้วเค็มยิ่งกว่าเกลือ” เสี่ยวจูบ่นเสียงดัง รสเค็มในปากของนางมิได้หายไปเลย องค์รักษ์หนุ่มยกนิ้วขึ้นมาดูรอยกัด ชี้หน้านางอย่างข่มขู่

“เจ้า...” เขาเอ่ยได้เพียงเท่านั้นก็ต้องเม้มปากเมื่อเห็นเสี่ยวจูเมินหน้าหนี

“พวกเจ้าทั้งสองถอยไป ข้าจะเข้าไปดูมี่เอ๋อร์” เหวินอ๋องเอ่ยจบ จึงเปิดประตูเข้าไปด้านใน เสี่ยวจูถูกองครักษ์ของเหวินอ๋องดึงออกมา

“ปล่อยข้า” นางสะบัดตัวอย่างแรง หวังเข้าไปช่วยคุณหนูใหญ่ แต่แรงสตรีมิอาจสู้แรงของบุรุษ

“อยู่ที่นี่กับข้า ถ้าเจ้ายังอยากมีชีวิตอยู่ดูแลคุณหนูใหญ่ของเจ้า เหวินอ๋องไม่ได้ใจดีอย่างที่เจ้าคิด” องครักษ์หนุ่มมองไปที่ประตูที่ยามนี้ถูกปิดลง เหวินอ๋องภายนอกนั้นราวกับดวงตะวันที่ส่องแสงสว่าง แต่เนื้อแท้นั้นแตกต่างสิ้นเชิง

“เสี่ยวจูบอกว่าเจ้าป่วย เป็นอย่างไรบ้าง” มือใหญ่แตะลงที่หน้าผากมน เจียงลี่มี่ค่อย ๆ ลืมตา ใบหน้าอิดโรย

“ข้ารู้สึกอ่อนล้า หลังจากดื่มยาเข้าไปก็เวียนหัว แขนขาไร้เรี่ยวแรง” เหวินอ๋องหันไปมองถ้วยยา ยื่นมือไปหยิบขึ้นมาดม ก่อนจะวางลง

“ยานี้เจ้าดื่มทุกวัน?” เจียงลี่มี่ส่ายหน้า เธอค่อย ๆ ขยับตัวไปซบแขนแกร่งอย่างออดอ้อน

ฉันป่วย ฉันจะอ้อน คนป่วยจะอ้อนใครก็ได้ เจียงลี่มี่คิดอย่างอารมณ์ดี

“ดื่มเป็นบางวันเพคะ หากวันไหนข้ารู้สึกไม่ค่อยดี ก็จะให้เสี่ยวจูนำยามาให้ข้าดื่ม ที่ห้องยาจะคอยต้มยาไว้ให้ข้าทุกวัน”

เหวินอ๋องลูบผมนุ่มราวเส้นไหม มองใบหน้าที่หลับตาพริ้ม เขายังไม่ไว้ใจนาง นางมีหลายสิ่งที่น่าสงสัย คงต้องจับตาดูต่อไป

เจียงลี่มี่หรี่ตาแอบดูใบหน้าหล่อเหลา เธอรู้ดีว่าแม้เธอจะเล่นละครได้แนบเนียน แต่เหวินอ๋องไม่มีทางไว้ใจเธอ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel