2. นางฟ้าของวงการ
"คุณหนูแสดงเก่งมากจริง ๆ พี่นั่งดูอยู่ อินมาก ยังอยากเข้าไปตบนังนั่นแทนเลย" ช่างแต่งหน้าประจำตัวเอ่ยชมขณะซับเหงื่อให้เจียงลี่มี่ ใบหน้าขาวผ่องตอนนี้เต็มไปด้วยเหงื่อจนแก้มแดงระเรื่อ
"เรียกปกติเถอะค่ะ อย่าเรียก ‘คุณหนู’ เลย และถ้าพี่จะไปตบเธอ ฉันคิดว่าคอของเธออาจจะหลุดได้" เจียงลี่มี่เอ่ย ทำเอาคนฟังมองค้อน เธอออกจะเป็นคนตัวเล็กอ่อนแอ ตบยุงยังไม่ตายเลย
"นี่ลี่มี่กำลังจะสื่ออะไรคะ พูดไม่ดีพี่แต่งให้ไม่สวยนะ" อาเว่ยช่างแต่งหน้าทำหน้าหงิกงอ ขู่ด้วยคำพูดที่เจียงลี่มี่ไม่กลัวสักนิด เพราะอาเว่ยแต่งให้เธอสวยเสมอ หรือต่อให้ไม่แต่ง เธอก็สวยได้ด้วยเบ้าหน้าฟ้าประทานของเธอนี่แหละ
"แหม อย่าขู่ฉันแบบนี้สิคะ ถ้าพี่แต่งหน้าให้ฉันไม่สวย ฉันหมดกำลังใจแสดงกันพอดี" เธออ้อนด้วยท่าทางน่ารัก อาเว่ยมองแล้วก็อดถอนหายใจไม่ได้
"ลี่มี่ พ่อแม่เธอนี่เข้าใจปั้นเธอมาจริงๆ สวยเสียขนาดนี้ และต่อให้พี่แต่งหน้าเธอออกมาแย่ยังไง เธอก็ไม่มีวันขี้เหร่ เครื่องหน้าดีขนาดนี้ เคยรู้สึกอยากขี้เหร่แบบพี่บ้างมั้ยคะ พี่อยากสวยแบบลี่มี่บ้าง"
เจียงลี่มี่หัวเราะออกมา เธอชินเสียแล้วกับการถูกชมว่าสวย
"พี่ก็สวยค่ะ สวยในแบบฉบับของตัวเอง ดูสิคะ ผิวพี่เข้มแต่เซ็กซี่มาก หน้าตาก็ดี โครงหน้าและสันกรามชัด คิ้วเข้ม ตายาวรี กล้ามก็สวย แถมซิกแพคแน่น ๆ อีก ไม่สวยตรงไหนคะ เซ็กซี่ขนาดนี้ ผู้ชายหลงแน่นอนค่ะ ฉันรับประกัน"
"แหม ชมกันขนาดนี้ พี่ก็เขินแย่ แต่พี่สวยจริง ๆ ใช่มั้ย สวยแบบพี่พอจะเป็นนางเอกได้มั้ย" อาเว่ยพูดพลางยกมือขึ้นจับไรผมทัดหู บิดไปมาด้วยท่าทางเขินอาย
"นางเอกคงไม่ได้ ถ้าพระเอกจะเหมาะกว่า คนอะไรหล่อเกินหน้าผู้ชาย หล่อจนผู้ชายหลง" ผู้ช่วยผู้กำกับที่เดินมาทันได้ยินมองสาวสวยร่างถึกตรงหน้า เขากวาดสายตาขึ้นลงก่อนจะส่ายหน้าอย่างเสียดาย ผู้ชายแท้แบบเขายังหน้าตาไม่ได้ครึ่งของเจ้าหล่อนเลย
“แล้วผู้ช่วยล่ะ หลงด้วยหรือเปล่า" อาเว่ยถามทั้งยังยืนบิดไปบิดมา ผู้ช่วยผู้กำกับเผลอพยักหน้าก่อนจะรีบส่ายหน้า นี่เขาเป็นอะไรถึงมองคนตรงหน้าว่าน่ารักเนี่ย สงสัยอากาศจะร้อนเกินไป
"พอเลย ๆ คนอะไรสวยถึกแบบนี้ ผู้ชายหุ่นบอบบางอย่างผมไม่กล้าชอบหรอกครับ กลัวถูกหักคอ เอ๊ย หักอก"
"ฮ่าฮ่า พี่คะ มีผู้ชายมาจีบค่ะ ฉันบอกแล้วไงว่าพี่สวย" เจียงลี่มี่หัวเราะเสียงใส มองดูอาเว่ยที่บิดตัวไปมาอย่างเขินอาย ส่วนผู้ช่วยผู้กำกับก็หน้าแดงจนดำไปแล้ว ไม่รู้ว่าเขินหรืออะไรกันแน่ ยิ่งเขาเหลือบตามองอาเว่ย เขายิ่งหน้าแดง
"ลี่มี่อย่าล้อผมสิครับ ผมอายนะ" ผู้ช่วยผู้กำกับประท้วง ทำตาละห้อย คนสวยใจร้ายจริง ๆ
"ไม่ล้อก็ได้ค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ เห็นมองมาทางนี้หลายครั้งแล้ว หรือฉันเข้าใจผิดว่ามองฉัน แต่ที่จริงมองคนข้าง ๆ ฉัน" เธอยังคงล้อเขา ยิ่งเห็นคนถูกล้อมีสีหน้าอิหลักอิเหลื่อ มองเธอสลับกับอาเว่ยก็ยิ่งขำ
"ไม่ใช่ครับ ผมกับผู้กำกับกำลังคุยกันเรื่องฝีมือการแสดงของลี่มี่อยู่ว่าทำไมถึงแสดงได้ดีขนาดนี้" ผู้ช่วยผู้กำกับรีบแก้ตัวพร้อมโบกไม้โบกมือปฏิเสธ แต่พอเห็นสายตาของอาเว่ยก็เปลี่ยนเป็นยิ้มแทน
"น้ำค่ะ ลี่มี่ ต้องการอะไรเพิ่ม บอกได้เลยนะคะ"
สต๊าฟสาวของกองถ่ายยื่นแก้วใส่น้ำดื่มให้ ใบหน้าของเธอยิ้มอย่างปลาบปลื้มเพราะตั้งแต่รู้ว่าเจียงลี่มี่รับแสดงเรื่องนี้ เธอก็ตื่นเต้นดีใจมาก ยิ่งได้อยู่ด้วยกันในกองถ่าย เธอยิ่งชื่นชอบเจียงลี่มี่มากขึ้น เพราะเจียงลี่มี่มักจะมีของกินมาฝากคนในกองบ่อย ๆ และยังพูดคุยอย่างเป็นกันเอง ทำให้คนที่ร่วมงานด้วยชื่นชมเจียงลี่มี่อย่างมาก
"นี่ที่รัก เมื่อกี้ยังจีบฉันอยู่เลย ตอนนี้มามองผู้หญิงอื่น คนเจ้าชู้" ผู้ช่วยผู้กำกับถูกผลักจนเซ เขามองหน้าอาเว่ยด้วยความตกใจ เรี่ยวแรงของอีกฝ่ายไม่ธรรมดาจริง ๆ
"ขอโทษครับ ผมผิดไปแล้ว แต่เมื่อกี้ใช้มือผลักใช่มั้ยครับ"
"ทำไมคะ ผู้ช่วยผู้กำกับคิดว่าพี่เว่ยใช้อะไรเหรอ" เจียงลี่มี่ถามด้วยท่าทางสงสัย ผู้ช่วยผู้กำกับกลืนน้ำลาย มองหน้าอาเว่ยที่กำลังจ้องเขาอยู่
"นึกว่าใช้ปลายนิ้วครับ มันเบามาก ว่าแต่เรื่องการแสดง ผมเคยได้ยินมาว่าลี่มี่ไปเรียนการแสดงมา ติดท้อปของทุกคลาสจริงหรือเปล่า"
"ใช่ค่ะ ฉันเรียนการแสดงหลายแขนง เพราะอยากแสดงให้สมบทบาทค่ะ"
เจียงลี่มี่บอกชัดเจน ผู้ช่วยผู้กำกับพยักหน้าอย่างเข้าใจ ทั้งสวยทั้งเก่งแบบนี้ เป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบจริง ๆ
"ผู้ช่วยสนใจลงเรียนมั้ยคะ เรียนวิชาความรักกับฉัน !"
พูดจบอาเว่ยก็รีบหลบด้านหลังเจียงลี่มี่ด้วยความเขินอาย ราวกับสาวน้อย ผู้ช่วยผู้กำกับมองภาพตรงหน้าอย่างพูดไม่ออก ไม่รู้เพราะอาเว่ยตัวใหญ่เกินไปหรือเจียงลี่มี่ตัวเล็กกันแน่
เจียงลี่มี่เห็นสีหน้าของผู้ช่วยผู้กำกับก็อดขำไม่ได้ ต้องออกปากล้อเลียนก่อนจะเดินหนี ทิ้งให้อีกฝ่ายยืนตัวแข็งทื่อ
"คิก คิก คิก ตั้งใจเรียนนะคะ ผู้ช่วยผู้กำกับ ฉันเอาใจช่วย" เจียงลี่มี่บอกทิ้งท้ายอย่างร่าเริง