ตอนที่1[คลุมถุงชน]
ตะวันเถื่อน
ตอนที่1
[คลุมถุงชน]
คฤหาสน์หรูมีงานมงคลสมรสขึ้น เมื่อคุณหญิงมณีรัตน์ได้โทรตามลูกชายคนเดียว ที่ย้ายไปตั้งหลักปักฐานอยู่ที่สวนที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มาเกือบจะสิบปีเข้าไปแล้วตั้งแต่เรียนจบมา
"นี่พ่อตะวันทำหน้าตาให้มันดี ๆ หน่อยสิลูกเป็นเจ้าบ่าวต้องทำหน้าหล่อ ๆ มีความสุขเข้าใจไหม?" เสียงคุณหญิงมณีรัตน์ตำหนิลูกชายเบา ๆ ระอากับลูกชายคนเดียว ที่ไม่สนใจผู้หญิงคนไหนอีกเลย ตั้งแต่โดนแฟนสาวหักอกไปแต่งงานกับชายอื่น
"คุณแม่ก็รู้ว่าผมไม่อยากแต่ง เร็ว ๆ เถอะผมเบื่อจะกลับบ้านสวนแล้วครับ" เสียงทุ้มแสดงอาการหงุดหงิดออกมาอย่างเปิดเผย เมื่อโดนมารดาเรียกกลับมาให้เข้าพิธีแต่งงานกับผู้หญิง ที่ไม่เคยรักและไม่คิดอยากจะเปิดใจทำความรู้จักกันด้วยซ้ำ
"หนูนับดาวเธอสวยและน่ารักเหมาะสมกับลูกชายของแม่มากเลยนะลูก" มารดาพยายามพรีเซนต์ถึงเจ้าสาวเพื่อให้บุตรชายคล้อยตาม
ส่วนนับดาวเมื่อจะได้เป็นเจ้าสาวของพี่ตะวัน ผู้ชายในฝันที่นับดาวเคยแอบชอบมาตั้งแต่เด็ก ๆ เพราะบ้านอยู่รั้วติดกันเมื่อผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายต่างเห็นดีเห็นงาม นับดาวก็ไม่อาจจะปฏิเสธได้เลย หญิงสาวกลับดีใจที่จะได้เป็นเจ้าสาวของพี่ตะวันเสียอีก
เมื่อพิธีช่วงเช้าสิ้นสุดลงก็คงเหลือพิธีส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าหอ
หลังจากผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายออกพ้นประตูห้องไปแล้ว ปล่อยให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวอยู่กันตามลำพังในห้องหอ
นับดาวเดินไปนั่งลงที่ขอบเตียงพร้อมหัน มองเจ้าบ่าวที่ยืนทำหน้าบึ้งตึงบอกบุญไม่รับอยู่กลางห้อง
"พี่ตะวันไปอาบน้ำก่อนก็ได้นะคะ" นับดาวมองเจ้าบ่าวทำท่าร้อนรนเหมือนร้อนเลยจะให้เขาเข้าไปอาบน้ำก่อน
ตะวันส่งสายตาดุวาวโรจน์จ้องมองร่างเล็กเหมือนขัดใจ
"เธอไม่ต้องมาสาระแนสั่งฉัน ให้ทำโน้นนี่นั้นรำคาญเข้าใจไหม?" เสียงทุ้มตวาดก้องดังทั่วห้องจนนับดาวหน้าซีดเผือด
"ก็เราแต่งงานกันแล้วนี่คะ จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายแล้วด้วย" นับดาวแย้งเสียงเรียบ
นายหัวตะวันรีบหันขวับมาจ้องมองร่างเล็กด้วยดวงตาเขม็งดุ
"เธอคงอยากได้ฉัน…เป็นผัวจนตัวสั่นเลยล่ะสิท่า!!" ว่าจบก็กระชากประตูเปิดออกแล้วปิดกระแทกลงเสียงดัง
โครม!!
ก่อนนับดาวจะได้ยินเสียงรถยนต์แล่นออกไปนอกบ้าน
นับดาวดวงตาลุกวาวสั่นระริก แต่แค่แวบเดียว แล้วถอนหายใจยาวออกมาก่อนจะ จัดแจงเปลี่ยนชุดแล้วอาบน้ำเข้านอน
รุ่งเช้าหญิงสาวลืมตาตื่นหันมองหาร่างโตทั่วห้องไม่มีแม้เงา จึงเผยรอยยิ้มออกมาก่อนจะหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องอาบน้ำบ้าง
คุณหญิงมณีรัตน์ก้าวเดินลงบันได มาถึงชั้นล่าง แล้วเดินไปนั่งลงที่โซฟารับรองแขกของบ้าน
"ตายแล้ว!!พ่อตะวันทำไมมานอนอยู่ตรงนี้ละเนี่ย!" มารดาโวยวายเสียงดังลั่นจนลูกชายตัวดี พลิกกายหันมามองตามเสียงมารดาด้วยท่าทางสะลึมสะลือ
"แม่ครับ!!...ผมจะนอนเอะอะอะไรแต่เช้าละเนี่ย" เสียงทุ้มบ่นอู้อี้ออกมาแล้วทำท่าจะหลับต่อ
"เมื่อคืนเพิ่งเข้าหอแล้วทำไมมานอนอยู่ตรงนี้ล่ะฮึ!" มารดาทำเสียงเขียวใส่ขณะลุกไปใกล้แล้วดึงแขนลูกชายตัวดีให้ลุกขึ้น
"อื้อ!กลิ่นเหล้าเหม็นหึ่ง นี่อย่าบอกนะว่าแก่ออกไปกินเหล้าข้างนอกมาทั้งคืน" เสียงคุณหญิงบ่นอุ๊บ
แต่พ่อตัวดีก็ ยังนอนแน่นิ่งแบบหลับสบายไม่รับรู้เสียงบ่นเสียงด่าของมารดา เพราะอดนอนทั้งคืนเพิ่งจะมาถึงบ้านเมื่อตอนตีห้านี่เอง
ร่างโตนอนคุดคู้อยู่บนโซฟาไม่คิดจะขยับเขยื้อน จนมารดาเอือมระอาจึงร้องเรียกให้เด็กในบ้านมาช่วยกันพยุงขึ้นชั้นบน
"ไอ้น้อย อยู่ไหนมาพาคุณตะวันขึ้นไปนอนในห้องที" เสียงคุณหญิงร้องเรียกพร้อมส่ายหน้าไปมาขณะเหลือบมองบุตรชายตัวดี
"มาแล้วครับคุณหญิงเดี๋ยวผมจะพาคุณตะวันขึ้นข้างบนเองครับ" ว่าจบน้อยก็เข้าพยุงเจ้านายหนุ่มเดินขึ้นข้างบน
นับดาวกำลังเปิดประตูออกมาจะเดินลงชั้นล่างอยู่พอดี
"พาเข้าไปนอนบนเตียงเลยคะพี่น้อย" นับดาวเอ่ยบอกน้อยแล้วร่างเล็กก็เดินลงชั้นล่าง
"เอ้า!หนูดาวตื่นแล้วเหรอลูก แล้วทำไมไม่อยู่ดูแลพี่ตะวันเขาล่ะ" เสียงคุณหญิงเอ่ยเรียบ
"พี่เขาคงต้องการพักผ่อนนะคะคุณป้า" นับดาวเอ่ย
"เรียกป้าได้ยังไงเรียกแม่สิลูก หนูแต่งงานกับพี่ตะวันแล้วนะ ก็เป็นลูกสาวของแม่เหมือนกัน" คุณหญิงเอ่ยกล่าวเสียงราบเรียบอย่างเอ็นดู
"ขอบคุณคะคุณแม่" นับดาวไม่รีรอที่จะปฎิบัติตามพร้อมยกมือไหว้ขอบคุณ
ส่วนคุณมานพเพิ่งตื่นนอนอาบน้ำ แล้วก้าวลงมาชั้นล่างพอดี
"อ้าว!คุณพี่ตื่นแล้วเหรอคะ" เอ่ยถามสามีเสียงเรียบ
"อื้อ!นอนดึกผมก็ตื่นสายนะสิคุณ" ตอบเมียเสียงเรียบ
"มณีก็ไม่ได้ว่าอะไรคุณพี่นี่คะ เกษียณแล้ววัยเราก็ต้องพักผ่อนเยอะ ๆ ค่ะ" คุณหญิงกล่าวกับสามียิ้ม ๆ
"อ้าว!นี่พ่อตะวันยังไม่ตื่นนอนอีกเหรอคุณ" เสียงคุณมานพเอ่ยขึ้นอย่างสงสัย เมื่อตอนลงมาเห็นหลังไว ๆ ของลูกสะไภ้จึงเอ่ยถาม
"ก็เมื่อคืนไปดื่มมาทั้งคืนเพิ่งมาถึงเมื่อใกล้สว่างนะสิคะคุณพี่" เสียงมีอารมณ์หงุดหงิดเมื่อเอ่ยถึงบุตรชาย
"พ่อตะวันนี่เหลวใหลจริงเชียว อายุก็ไม่ใช่น้อย ๆ แล้วนะ นี่ก็ปาเข้าไปสามสิบสี่ไปแล้วยังทำตัวเหลวใหลได้อีกเฮ้อ!!" เสียงคุณมานพบ่นให้บ้าง
"แต่งงานแล้วเดี๋ยวก็คงดีขึ้นแหละคะคุณพี่" เสียงภรรยาเรียบรื่นอย่างมีความหวัง
"ไม่ใช่ดึงหนูดาวให้มาลำบากสิไม่ว่า" เสียงสามีเอ่ยแย้ง
"มณีว่าคนอย่างพ่อตะวัน ต้องเจอหนูนับดาวถึงจะเอาอยู่คะคุณพี่" เสียงภรรยามีความมั่นใจเช่นนั้น
"เออ!มาถึงขั้นนี้แล้วก็ต้องลองดู" สามีพูดอย่างปลงตก
บ่ายคล้อยร่างโตนอนอยู่บนที่นอนลืมตาขึ้น แล้วนึกลำดับภาพเหตุการณ์เมื่อจำได้ ว่าตอนี้นอนอยู่บ้านที่กรุงเทพฯ ไม่ใช่บ้านสวนจึงขยับกายจะลุกขึ้นไปอาบน้ำบ้าง
ออกจากห้องอาบน้ำแล้วมาแต่งตัวเพื่อเตรียมกลับบ้านสวน เมื่อก้าวลงมาถึงชั้นล่าง
"อ้าว!พ่อตัวดีตื่นลงมาได้เสียที" เสียงมารดาเอ่ยขึ้นเมื่อเหลือบมองเห็นร่างโตเดินลงมา
"หิว! มีอะไรกินบ้างครับคุณแม่" เสียงทุ้มเดินไปสวมกอดมารดาอย่างเอาใจ
"จะกินข้าวทำไม?ทำไมไม่กินเหล้าต่อล่ะ" เสียงมารดาเง้างอน
"คุณแม่ครับ ผมหิวข้าว" เสียงทุ้มอ้อนมารดา
"แต่งงานแล้วก็ไปอ้อนเมียโน้น" มารดาทำท่าไม่แยแส พร้อมพูดชี้มือให้ไปอ้อนนับดาวที่กำลังนั่งง่วนอยู่ กับหน้าจอมือถือเพื่อเช็คหางาน นับดาวเพิ่งเรียนจบบัญชีมาหมาด ๆ หญิงสาวก็ได้ลงสมัครงานไว้แล้วหลายที่
"หนูดาวว่างไหมลูก" คุณหญิงเอ่ยเรียก เมื่อมองท่าทางพ่อลูกชายตัวดีจะยืนแข็งทื่ออยู่ที่เดิม
"อ๋อ! ว่างค่ะหนูเช็คดูงานเฉย ๆ " นับดาวหันมาสบตาร่างโตแล้วตอบ
"พี่ตะวันบ่นหิวข้าวนะจ๊ะ" ว่าจบคุณหญิงก็ขยับลุกขึ้นเดินหนีขึ้นชั้นบน
ร่างเล็กยกยิ้มให้คุณหญิงนิดหนึ่ง ก่อนจะหันมาสนใจหน้าจอโทรศัพท์เหมือนเดิม ทำเหมือนนายหัวตะวันไม่มีตัวตน
ร่างโตหันรีหันขวางไม่เจอใคร จึงหันไปหานับดาวที่นั่งห่างออกไป
"เออ! นี่เธอฉันหิวข้าวน่ะ" ตะวันจึงเอ่ยขึ้น
นับดาวนั่งจดจ่อจ้องหน้าจอแบบเขมักเขม่นเหมือนไม่ได้ยินเสียงนายหัวตะวันพูด
"นี่เธอ! ไม่ได้ยินหรือไงว่าฉันหิวข้าว" ร่างโตเดินไปใกล้แล้วพูดขึ้นอีก
"ได้ยิน! แต่ไม่รู้ว่าพูดกับใครไง" นับดาวหันมาสบตาวาววับของอีกคน
"ก็อยู่กันแค่สองคน ฉันก็ต้องพูดกับเธอนะสิ!" ร่างโตเอ่ยเสียงเรียบนิ่ง
"หนูมีชื่อทำไมไม่เรียกชื่อละ จะได้รู้ว่าพูดอยู่กับใคร" นับดาวเอ่ยต่อ
"นับดาว ฉันหิวข้าว" ร่างโตเอ่ยซ้ำ
"ก็แค่เนี่ย!" ว่าจบร่างเล็กก็เดินเข้าครัว ออกมาพร้อมจานชามในมือแล้วมาวางให้บนโต๊ะ ตะวันก็นั่งลงทานอาหารด้วยความหิวโหย
เด็ก ๆ ในบ้านคุณหญิงให้หลบมุมไปอยู่หลังบ้านกันหมด เพราะไม่อยากให้ใครตามใจเจ้านายหนุ่มนั้นเอง
เมื่อนั่งทานข้าวเสร็จจนอิ่มตะวันก็ลุกขึ้น
"ฉันจะกลับบ้านสวน ถ้าจะไปด้วย ก็ขึ้นไปเก็บของ" ว่าจบกก็ก้าวขึ้นชั้นบน