CHAPTER 3 อยู่ด้วยกันทุกช่วงเวลา
รถเคลื่อนตัวมาจนถึงโรงแรม เจ้าสาวหมาด ๆ ของเขาก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่น อีธานลืมไปว่าเวลาหล่อนหลับเอาอะไรมาปลุกก็ไม่ตื่น
“อีฟ” อีธานลองสะกิดแม่สาวตัวเล็กที่นอนคอพับคออ่อนอยู่ตรงที่นั่งอีกฝั่ง
“.....” ไม่มีเสียงตอบรับจากเธอ
“เห้อ” คนตัวสูงพ่นลมหายใจอย่างหน่ายใจ
เอาเถอะ เป็นเพื่อนหล่อนมาหลายสิบปี ทำไมเขาจะไม่รู้นิสัยขี้เซาของอีฟ ชนิดที่เอาช้างมาลากก็ไม่ตื่น ชายหนุ่มถอดแจ็กเกตเจ้าบ่าว ลงจากรถ และเดินอ้อมไปฝั่งที่เธอนั่งอยู่
“ให้ผมช่วยไหมครับ” บรูซถาม
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมพาเธอไปเอง” อีธานปฏิเสธ
“คุณอีฟ เป็นแบบนี้ตลอดเลยนะครับ เวลาเธอหลับทีไรต้องให้คุณอีธานอุ้มแบบนี้ตลอด”
“หึหึ” อีธานยิ้มมุมปากเล็กน้อยกับคำพูดหยอกล้อของชายสูงวัย
คิดถึงสมัยเรียนมหาวิทยาลัย อีฟก็แบบนี้เวลาเมาทีไรต้องลำบากเขาไปแบกเธอกลับหอพักทุกครั้งไป อีธานทำท่าจะแบกเธอขึ้นหลังเหมือนที่ทำทุกครั้ง แต่คราวนี้เขาเปลี่ยนใจ เป็นการอุ้มแทน ชายหนุ่มมุดเข้าไปในรถและอุ้มเธออย่างอ่อนโยน
“ทำไมตัวเบากว่าเมื่อก่อน” อีธานบ่นลอย ๆ ความรู้สึกเหมือนกับน้ำหนักของอีฟหนักขึ้นนิดหน่อย หรือเป็นเพราะเขาอุ้มเธอในท่านี้ทำให้เธอดูหนักขึ้น
ชายหนุ่มพาแม่สาวเพื่อนสนิทขึ้นไปยังห้องสวีทที่เขาตั้งใจจองเอาไว้สำหรับตนเองและลีอา ระหว่างขึ้นลิฟต์ เขามองเงาของเจ้าหล่อนผ่านความเงาของผนังลิฟต์
ใบหน้าของหล่อนซีดเซียวเห็นแล้วคิดถึงช่วงปีสุดท้ายก่อนการเรียนจบ สภาพของเธอเวลานี้ไม่ต่างจากตอนนั้นเลยสักนิด
จู่ ๆ ก็อยากเก็บภาพเธอเอาไว้เสียอย่างนั้น อีธานเลยหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋า กดปุ่มถ่ายรูปอย่างรวดเร็วก่อนทั่วประตูลิฟต์จะเปิดออก
ตั้งใจจะวางเธอไว้ที่โซฟากลางห้อง แต่ก็ต้องเปลี่ยนใจพาเธอเข้าไปในห้องแทน ห่มผ้าให้เธอเรียบร้อยก่อนที่จะไปทำธุระส่วนตัวของตัวเอง
ติ๊ง!! เสียงข้อความเด้งเตือน
มันถูกส่งมาจากลีอา ชายหนุ่มเปิดข้อความอ่านอย่างช้า ๆ
ขอโทษนะอีธาน ฉันไม่น่าปล่อยให้เวลาล่วงมาจนถึงขั้นตอนนี้ได้เลย ฉันพยายามแล้ว พยายามที่จะเปิดหัวใจให้รักคุณ แต่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ฉันก็บังคับหัวใจให้รักคุณไม่ได้ ขอบคุณทุกอย่าง ขอบคุณทุกความหวังดี ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา
คุณแม่ส่งภาพของคุณกับพี่มาบ่นให้ฉันฟัง ฉันเห็นภาพนั้นแล้วเธอคือคนที่เหมาะสมกับคุณที่สุด ดูแลเธอให้ดี ๆ ล่ะ
ความรู้สึกคล้ายกับจะหมดแรง ราวกับความฝันพังทลาย โทรศัพท์ร่วงหล่นลงบนโต๊ะ ถ้าลีอาไม่รักเขาทำไมหล่อนไม่พูดตรง ๆ แค่บอกกับเขาตรง ๆ ถ้าเธอบอกเขาว่าไม่รักกัน เขาจะไม่บีบบังคับเธอเลย
ชายหนุ่มร้องไห้เสียงดัง ดังจนพอที่จะทำให้หญิงสาวที่นอนหลับอุตุอยู่บนเตียงนอนได้ยินและสะดุ้งตื่น
เสียงร้องไห้ของอีธานดังเข้ามาถึงในห้อง พร้อม ๆ ช่วงเวลาที่เธอได้ยินเสียงแก้วแตก อีฟรีบวิ่งออกมาเพราะกลัวว่าเพื่อนสนิทจะเป็นอะไรไป
“โอ๊ย!!” หล่อนวิ่งมาโดยไม่ได้ทันได้สวมรองเท้า เศษแก้วที่อีธานเขวี้ยงจนแตกเพื่อระบายอารมณ์จึงบาดเท้า อีฟต้องถอยกลับไปนั่งที่โซฟา เพราะเจ็บจากเศษแก้ว
“ออกมาทำไม” อีธานเห็นอีฟที่บาดเจ็บแล้วหงุดหงิด
“ฉันได้ยินเสียงนายร้องไห้ที่มาพร้อม ๆ กับเสียงแก้วแตก ก็นึกว่านายกำลังจะตายเพราะโดนแก้วบาด เป็นห่วงเลยวิ่งออกมาดู”
“นั่งเฉย ๆ ก่อน เดี๋ยวตามหมอกับรูมเซอร์วิสให้”
ชายหนุ่มกดโทรศัพท์โทรตามรูมเซอร์วิสกับเจ้าหน้าที่พยาบาลให้มาดูแลเจ้าหล่อน ชายหนุ่มยังคงกระดกวิสกี้ลงท้องอยู่เรื่อย ๆ
อีฟรู้ว่ายังไงเธอก็ห้ามเขาไม่ให้ดื่มไม่ได้ ทุกครั้งที่เขาอกหักและผิดหวังกับความรัก เขาก็จะบังคับให้เธอมานั่งข้าง ๆ ดูเขาดื่มเหล้าร้องไห้แบบนี้ทุกครั้ง
“อีฟเจ็บไหม” อีธานที่กำลังเมาถามเพื่อนสนิท
“นิดหน่อยโดนไม่ลึกมาก” อีฟก้มมองแผลของตัวเอง
“โอเค” น้ำเสียงของเขายานค้าง
ไม่นานรูมเซอร์วิสก็มาถึง พวกเขาดำเนินการทำความสะอาดก่อน ส่วนอีกกลุ่มรีบมาทำแผลให้กับอีฟ
“โชคดีที่แผลไม่ลึก หลังจากนี้เวลาเดินก็พยายามอย่าลงน้ำหนักที่ขาข้างนี้นะคะ” เจ้าหน้าที่พยาบาลบอกกับอีฟ “ต่อจากนี้ก็ต้องให้คุณสามีช่วยประคองเธอเวลาเดินไปไหนมาไหน” เจ้าหน้าที่หันไปบอกกับผู้เป็นสามี
ทั้งอีฟทั้งอีธานต่างก็อึ้งพูดอะไรไม่ออก
เมื่อทุกคนกลับออกไปแล้ว จึงเหลือแค่เพียงคนสองคนที่นั่งอยู่โซฟาคนละฝั่ง
“ตื่นขึ้นมาทำไม” เจ้าของนัยน์ตาสีเขียวหล่อหยาดเยิ้มถาม
“ก็บอกว่าได้ยินเสียงนายเลยออกมา” เธอตอบย้ำอีกรอบ
“อีฟ...” เขาเรียกชื่อเธอด้วยน้ำเสียงยานค้าง ก่อนที่จะเดินมานั่งข้าง ๆ แม่สาวตัวเล็ก
“ว่า” เพราะทั้งสองสนิทกันมากอีฟ เลยไม่ได้เว้นระยะห่างระหว่างเธอและเขา ซึ่งเป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร
“กอดฉันหน่อย” อีธานบอกก่อนจะก้มหัวซบกับไหล่กลมมนของเพื่อนสนิท
“....” อีฟถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ไม่ใช่ว่าเธอไม่รับรู้ว่าตอนนี้อารมณ์ของเขากำลังอยู่ในสภาวะแบบไหน
จริง ๆ จะบอกว่าเธอเองก็ไม่ต่างกัน
หญิงสาวค่อย ๆ กางแขนออก เธอใช้สองแขนโอบล้อมร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่ม แต่เพราะเขาตัวใหญ่กว่าเธอเยอะทำให้โอบได้ไม่รอบ
อีธานเมื่อเห็นว่าเธอกำลังกอดปลอบใจชายหนุ่มก็เริ่มร้องไห้และกอดเธอ เมื่ออยู่ใกล้ชิดขนาดนี้เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าน้ำหอมของอีฟจะหอมขนาดนี้ ในเวลานี้อ้อมแขนของเธออบอุ่นอย่างแปลกประหลาด หรือว่าเพราะกำลังเมา
หญิงสาวตบหลังเขาเบา ๆ อย่างปลอบประโลม เขาจะรู้ไหมว่าทุกครั้งที่เธอต้องมาทำอะไรแบบนี้มันน่าเบื่อและเจ็บปวดขนาดไหน เธอรำคาญกับการต้องมาเป็นศิราณีให้เขา กระทั่งตอนนี้เธอก็ยังต้องเป็น หน้าที่นั้นมันไม่การเปลี่ยนแปลงไปเลยสักนิด
ใช่แล้วล่ะเดี๋ยวพรุ่งนี้ทั้งเธอและเขาก็จะกลับไปเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม เพราะทั้งเขาและเธอก็ไม่ได้แต่งงานกันจริง ๆ อยู่แล้วนี่นา